Robinhood ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบ Decacorn

Robinhood ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบ Decacorn

คาดการณ์ Robinhood น่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในระยะเวลาอีกไม่นาน

สำหรับวงการ Fintech Start-up ในระดับโลกแล้ว ชื่อของ Robinhood เป็นหนึ่งในบริษัทแนวหน้าที่ให้บริการด้าน Wealth Tech เพื่อให้นักลงทุนทุกคนสามารถซื้อขายหุ้นได้โดยไม่เสียค่า Commission โดยผมเองได้ติดตาม Robinhood มาตั้งแต่ช่วงก่อตั้งแรก ๆ และเราเองก็ได้หยิบยก Unicorn ตัวนี้มาพูดถึงในบทความ Fintech Focus กันหลายครั้ง (สามารถอ่านบทความย้อนหลังได้จาก Website ของกรุงเทพธุรกิจนะครับ) การแข่งขันระหว่าง Robinhood กับ Broker รายใหญ่เดิมนั้นเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเพื่อเป็นกรณีศึกษาเป็นอย่างมาก และหากย้อนไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วซึ่ง Robinhood เพิ่งจะก่อตั้งบริษัท คงไม่มีใครเชื่อว่า Start-up เล็ก ๆ รายหนึ่งจะสามารถ Disrupt วงการเทรดหุ้นได้อย่างรุนแรงขนาดนี้ ส่งผลในวงกว้างให้คู่แข่งต้องไม่คิดค่า Commission เหมือนกัน รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการควบรวมกิจการกันหลายราย มาถึงวันนี้ Robinhood มีลูกค้าหลายล้านคน และมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ Online Broker รายอื่น ๆ

ความสำเร็จของ Robinhood ในปีนี้เกิดขึ้นจากวิกฤติ COVID-19 ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนรายย่อยมีความตื่นตัวในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงมากในระยะเวลาสั้นถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ราคาปรับตัวกลับขึ้นมาได้เร็วและแรง จนตอนนี้หลายตัวได้ทำจุดสูงสุดตลอดกาลไปแล้ว ทั้งที่การระบาดของ COVID-19 ยังไม่จบ เช่นหุ้นของ APPLE, AMAZON, FACEBOOK, TESLA เป็นต้น สำหรับนักลงทุนรายย่อยแล้ว โอกาสในการลงทุนในรอบนี้ผสมกับเวลาที่ว่างขึ้นจากการ Work from Home ส่งผลให้มีจำนวนคนเข้ามาที่ Website ของ Robinhood เพื่อเรียนรู้เรื่องการลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 250%

จำนวนผู้ใช้งานและมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากส่งผลให้ Robinhood มีมูลค่าของกิจการหรือ Valuation สูงถึง 11.2 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐจากการระดมทุนล่าสุดในรอบ Series G ซึ่งระดุมเงินทุนเพิ่มเติมได้ 200 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ จาก D1 Capital Partners ซึ่งเป็นมูลค่ากิจการที่เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับการระดมทุนรอบก่อนหน้านี้ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2020 เช่นเดียวกัน ด้วย Valuation ระดับนี้จึงทำให้ Robinhood ก้าวขึ้นสู่ทำเนียบ Decacorn สวนทางกับวิกฤต COVID-19 ที่ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม (Unicorn หมายถึง บริษัทที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐจากการระดมทุนรอบล่าสุด และยังไม่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หาก Unicorn รายใดมีมูลค่าถึง 10 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เราสามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งของ Unicorn ตัวนี้ได้ว่า Decacorn)

ผมคาดการณ์ว่า Robinhood น่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในระยะเวลาอีกไม่นาน เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับ Robinhood และหากสามารถ IPO ได้ในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมเริ่มฟื้นจากการมีวัคซีนป้องกัน COVID-19 ได้แล้ว Market Capitalization ของบริษัทในตอนนั้นน่าจะสูงมากเลยทีเดียว (แค่ตอนนี้ Valuation ก็สูงกว่า Market Capitalization ของธนาคารอันดับต้น ๆ ในไทยแล้ว)

อย่าไรก็ตาม ปัญหาหลักที่ Robinhood ต้องรีบแก้ไขคือการเพิ่มศักยภาพของ Infrastructure ให้รองรับจำนวนผู้ใช้งานและปริมาณธุรกรรมจำนวนมหาศาลให้ได้ โดยในปีนี้ระบบของ Robinhood เกิดอาการล่มหลายรอบ ทำให้ผู้ใช้งานไม่พอใจเนื่องจากไม่สามารถทำการซื้อขายได้ในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง เสียโอกาสในการทำกำไรและไม่สามารถขายหุ้นเพื่อหยุดขาดทุนได้ทัน ผู้บริหารของ Robinhood จึงจำเป็นต้องชะลอแผนการขยายกิจการไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อกลับมา Focus ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ต้องจับตาดูว่า Robinhood จะแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ และ Wealth Tech รายนี้จะเคาะมูลค่า IPO ได้สูงถึงเท่าไหร่กันแน่