United Nation มองเศรษฐกิจอาเซียน

United Nation มองเศรษฐกิจอาเซียน

ความเสี่ยงของการฟื้นตัวกำลังซื้อคนทั่วโลกยากที่จะกลับมาได้เร็ว

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนก.ค ปรับตัวลดลง 2.5% จากเดือนมิ.ย ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงรอดูตัวเลขผลประกอบการที่ทยอยประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันราคาทองคำไทยทะลุบาทละ 30,000 บาท (ราคาทองคำทะลุ $1,900/ออนส์ ครั้งแรกในรอบ 10 ปี) จากประเด็นความเสี่ยงของการฟื้นตัวกำลังซื้อคนทั่วโลกยากที่จะกลับมาได้เร็ว แม้ว่าอัตราการผลิตสินค้าภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวได้จากเดือนเม.ยที่ต่ำสุด แต่ความต้องการบริโภคสินค้าฟื้นตัวได้ช้ากว่าจากภาวะตกงานหรือรายได้ลด

สิ่งที่น่าสนใจจากข้อมูลการใช้บัตรเครดิต พฤติกรรมการใช้บัตรเครดิตเริ่มกระเตื้องฟื้นตัวเมื่อมีการเปิดเมืองอีกครั้ง แต่ยังคงต่ำกว่าปกติ ขณะที่ United Nation ยกตัวอย่าง ประเทศไทย หนึ่งในประเทศกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียน แม้ว่าจะมีการควบคุมการแพร่ระบาดจากไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีเป็นที่ประจักษ์ในสายตาคนทั่วโลก แต่เศรษฐกิจของไทยยังต้องต่อสู้อีกมากจากการฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยว และภาคการส่งออก ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศโดยรวม โดยมองว่าเศรษฐกิจประเทศไทยถูกพิจารณาว่าจัดเป็นประเทศเศรษฐกิจอ่อนไหวมากที่สุดในอาเซียนต่อผลกระทบจากโรคระบาดในครั้งนี้

สิ่งที่เป็นข้อสรุปคือ นักลงทุนไทยยังมองประเมินตลาดหุ้นในเชิงบวกมากสำหรับการฟื้นตัวในกำไร แต่ผมอยากให้พิจารณาทางเลือกอื่นสำหรับการลงทุนไว้บ้าง นอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นอย่างเดียวเท่านั้น

คำถามที่นักลงทุนควรคำนึงถึงคือ

1.หุ้นที่ท่านนักลงทุนมีในพอร์ตนั้น มีฐานะการเงินเข้มแข็งพอต่อการฟื้นตัวที่ช้ากว่าสิ้นปีนี้หรือไม่ พิจารณาจากสัดส่วน หนี้สิน/ทุน หากสูงกว่า 2 เท่าขึ้นไปต้องระวัง เพราะภาระที่ต้องชำระหนี้ระยะสั้นจะกดดันเพิ่มขึ้นต่อกระแสเงินสดบริษัท

2.ผลกระทบในไตรมาสสองที่ประกาศออกมานั้น ส่วนใหญ่ทำให้เราสามารถพิจารณาได้ว่า บริษัทไหนทนทานมากต่อเหตุการณ์ที่แย่สุดหากการฟื้นตัวยังคงช้ามากกว่าที่คาด ภาวะการขาดทุนอาจต่อเนื่องไปในอนาคต ดังนั้น ความเสี่ยงของการเพิ่มทุนจากบริษัทต่างๆที่ธุรกิจอ่อนแอเหล่านั้นจะทยอยประกาศออกมาในอนาคตได้

3.ผลกระทบต่อกระแสเงินสด จะกระทบต่อการจ่ายเงินปันผลที่หดตัว การดูตัวเลขอัตราเงินปันผลย้อนหลังในอดีตปี 2562 นั้นไม่สามารถบ่งชี้ว่า ราคาหุ้นปัจจุบันนั้นถูกมากๆได้ ผมแนะนำให้พิจารณาจากตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์โบรกเกอร์ที่ท่านใช้บริการ และตัวเลขคาดการณ์กำไรจากเวปไซต์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ใส่ค่าเฉลี่ยนักวิเคราะห์มากมายเพื่อช่วยตัดสินใจครับ

4.เงินสดในมือของท่านนั้นเพียงพอต่อเศรษฐกิจแย่ต่อเนื่องในอีก 12 เดือนหรือไม่ ท่านควรพิจารณาทางเลือกในการลงทุนในกองทุน passive income หรือกองทุนประเภทโครงสร้างพื้นฐานที่มีกระแสเงินสดปันผลเข้าพอร์ตตลอดเกือบทุกไตรมาส พร้อมได้ยกเว้นภาษีด้วย หรือไม่

5.ทิศทางราคาทองคำที่ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนเงินที่ไหลเข้าทองคำเนื่องจากสภาพคล่องเงินล้น และขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นหากราคาทองคำยังคงทำจุดสูงสุดใหม่ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน เรายังควรต้องระมัดระวังต่อเนื่องต่อการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยครับ