ดอลลาร์กำลังเสื่อมคุณค่า หรือนี่คือเจตนาของสหรัฐฯ

ดอลลาร์กำลังเสื่อมคุณค่า หรือนี่คือเจตนาของสหรัฐฯ

ดอลลาร์อ่อนค่าในเดือนกรกฎาคมถึง 5% ซึ่งเป็นเดือนที่การด้อยค่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี

โดยเริ่มมีกระแสข่าว และบทวิเคราะห์ออกมาว่าค่าเงินดอลลาร์กำลังถูกลดบทบาทความสำคัญต่อความเป็นสกุลเงินหลักของโลก วันนี้ผู้เขียนจะมาชวนวิเคราะห์กันว่าการอ่อนค่าในครั้งนี้มีเหตุและผลอย่างไร

ดอลลาร์กำลังจะไม่ใช่เงินสกุลหลักของโลกจริงหรือ

การจะดูว่าดอลลาร์ยังเป็นเงินสกุลหลักของโลกหรือไม่ ให้เริ่มดูจากสัดส่วนของเงินดอลลาร์ในตะกร้าทุนสำรองของแต่ละประเทศในโลก ซึ่งพบว่าในปัจจุบันเงินดอลลาร์ยังคิดเป็นสัดส่วนถึงกว่า 60% ของทุนสำรองของทุกประเทศในโลกรวมกัน และไม่ได้มีแนวโน้มที่ลดลงแต่อย่างใด

อีกประเด็นคือต้องดูว่าการค้าการแลกเปลี่ยนเงินของโลกส่วนใหญ่ยังทำผ่านสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ หรือไม่ ซึ่งทุกวันนี้กว่า 80% ของธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราของโลกยังทำผ่านสกุลดอลลาร์ และแนวโน้มตรงนี้ไม่ได้ลดลง ถ้าแนวโน้มตรงนี้ลดลงนั่นหมายความว่าการแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศไม่จำเป็นต้องใช้เงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินทางผ่านแล้วซึ่งจะสะท้อนว่าความจำเป็นของเงินดอลลาร์ในระบบเศรษฐกิจลดลง

สรุปก็คือเราคงยังไม่ได้เห็นเงินดอลลาร์หลุดจากการเป็นเงินสกุลหลักของโลกเร็ว ๆ นี้ และแต่ละประเทศก็จะยังคงใช้เงินตราของตัวเองเทียบกับเงินดอลลาร์เป็นหลักอยุ่ต่อไป

แล้วทำไมดอลลาร์ถึงอ่อนค่ารุนแรงรอบนี้

นอกเหนือจากเศรษฐกิจที่ปรับลดลงรุนแรงอันเป็นผลมาจากวิกฤต COVID-19 สิ่งที่เกิดขึ้นคือมาตรการอัดฉีดเงินของสหรัฐฯ ในรอบนี้ทำให้ปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในอัตราส่วนอย่างมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ถึง 20% ของปริมาณเงินที่มีอยู่จาก 15.5 เป็น 18 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทานปกติเลยว่าเมื่อปริมาณเงินเพิ่มขึ้น ค่าของเงินก็ปรับลดลง การเพิ่มขึ้นของปริมาณเงินนี้จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงในรอบนี้

การจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นนอกจากการอัดฉีดด้วยนโยบายการเงิน การคลังแล้ว ค่าเงินที่อ่อนตัวก็มีส่วนช่วยสนับสนุนเช่นกันเพราะทำให้มูลค่าการส่งออกสูงขึ้นจากราคาสินค้าที่ถูกลง รวมถึงสนับสนุนให้ต่างชาติมาท่องเที่ยวเพราะค่าเงินของประเทศถูกลง ผู้เขียนจึงมองว่าการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งน่าจะเป็นมาจากเจตนาของสหรัฐฯ เองซึ่งทำผ่านการพิมพ์เงินเพิ่มปริมาณเงินในระบบเป็นอย่างมากให้ค่าเงินอ่อนลง เพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่

ดอลลาร์อ่อนค่าส่งผลต่อสินทรัพย์ลงทุนอย่างไรในช่วงเศรษฐกิจขาลง

ในภาวะเศรษฐกิจปกติถ้าเงินดอลลาร์อ่อนค่าจะมาจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ลดลง ซึ่งจะทำให้เงินลงทุนไหลออกไปลงในสินทรัพย์ของภูมิภาคอื่น ๆ เช่นยุโรป หรือเอเชีย เพราะนักลงทุนจะได้ผลตอบแทนจากค่าเงินของประเทศอื่นที่แข็งค่าขึ้น ควบคู่ไปกับผลตอบแทนจากการลงทุน

แต่ในภาวะเศรษฐกิจขาลงอย่างในภาวะวิกฤต COVID-19 ในปัจจุบัน เม็ดเงินแม้จะมีไหลออกจาการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ก็จะไหลเข้าไปสู่ตลาดหุ้นของประเทศอื่น ๆ ได้ในปริมาณที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนมีความกลัวว่าตลาดหุ้นจะตกอันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

เงินลงทุนจึงไหลไปหาสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ อย่างทองคำมากขึ้น เพราะไม่อยากเสี่ยงกับตลาดหุ้น แต่ก็ไม่อยากถือครองเงินสกุลดอลลาร์เนื่องจากค่าเงินมันอ่อนลง จึงทำให้เงินถูกโยกไปซื้อทองคำมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นสุงสุดในรอบประวัติการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา

159645733810