มูรินโญ กับ บัฟเฟตต์

มูรินโญ กับ บัฟเฟตต์

จาก 'เสียงด่า' จึงกลายเป็น 'เสียงชื่นชม'

โฆเซ มูรินโญ เข้ามารับงานเป็นผู้จัดการสโมสรท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยขณะนั้น สเปอร์สอยู่ในอันดับที่ 14 ของตาราง เก็บได้เพียง 20 จากแต้มสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 36 แต้ม

ช่วงแรกที่มูรินโญเข้ามาคุมทีม สเปอร์สเอาชนะคู่แข่งได้หลายนัดติดต่อกัน ดูเหมือนขวัญและกำลังใจของพลพรรคไก่เดือยทองจะกลับมา แต่แล้ว ฟอร์มก็เริ่มกระท่อนกระแท่นเหมือนเคย เมื่อบวกกับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ สเปอร์สจึงกลายเป็นสเปอร์สทีมเดิม ชนะยาก เสมอบ่อย แพ้ประจำ เสียประตูง่าย

นักวิจารณ์จำนวนมากเริ่มตั้งคำถามต่อแท็คติคของมูรินโญอีกครั้ง คำค่อนขอดว่าเขา 'ตกยุค' และใช้สไตล์การทำทีมที่ไม่เหมาะกับฟุตบอลสมัยใหม่เริ่มกู่ก้องขึ้นมาอีกหน ทั้งที่ผู้ชายคนนี้พิสูจน์ตัวเองมาสิบกว่าปี ว่าเขาคือสุดยอดโค้ชคนหนึ่ง หากไม่ใช่ 'อันดับหนึ่ง' ของโลก

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟุตบอลพรีเมียร์ลีกหวนกลับมาฟาดแข้งหลังพักเตะไปนานจากสถานการณ์โควิด-19 สเปอร์สที่ได้ผู้เล่นตัวหลักๆ กลับมาครบก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทาง โดยแพ้เพียงนัดเดียวจากการลงเตะเก้านัด เก็บไปได้ 18 จาก 27 แต้ม ปีนป่ายไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 6 จบฤดูกาลด้วยพื้นที่ยูโรป้าลีกในที่สุด

จาก 'เสียงด่า' จึงกลายเป็น 'เสียงชื่นชม'

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า มูรินโญใช้วิธีทำทีมที่ได้ผลในทางปฏิบัติ ภาษาอังกฤษเรียกว่า 'pragmatic' มากขึ้น แม้จะเป็นฟุตบอลที่ไม่หวือหวา เร้าใจ เหมือนสมัยของเมาริซิโอ ปอเชตติโน แต่เล่นกันอย่างเป็นระบบระเบียบ มีวินัยทั้งในเกมรุกและรับ

แม้แต่แฮรี เคน สุดยอดดาวยิงของทีมยังยอมรับว่า มูรินโญใช้ช่วงพักโควิด ปรับนักเตะให้เข้ากับระบบการทำทีมของเขาได้เป็นอย่างดี

เมื่อเทียบกับโลกของการลงทุน ขณะนี้ นักลงทุนอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ กำลังถูกตั้งคำถามว่าเขา 'ตกยุค' ไปแล้วหรือยัง ที่ไม่โดดเข้าไปตะลุยเก็บหุ้น แถมยังหมางเมินหุ้นเทคโนโลยี (ยกเว้น Apple) และกอดเงินสดเอาไว้แน่น ทั้งที่ตลาดวิ่งเอาๆ นับจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคม

แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่า บัฟเฟตต์เป็นคนที่ยอม 'ดูโง่' ในระยะสั้น เพื่อทำสิ่งที่ถูกต้องและส่งผลดีในระยะยาวเสมอ เหมือนครั้งที่ 'ปู่' เอาตัวรอดจากหายนะฟองสบู่ด็อทคอมเมื่อ 20 ปีก่อน และให้บทเรียนราคาแพงแก่นักลงทุนทั่วโลกที่เคยเย้ยหยันเขามาแล้ว

เราไม่รู้ว่ารอบนี้บัฟเฟตต์ทำถูกหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือ เขายังคงมีวินัยและ 'เล่นตามระบบ' ของตัวเอง โดยไม่สนใจใครที่หาว่า 'น่าเบื่อ' ไม่ต่างจากสิ่งที่ โฮโซ มูรินโญ กำลังทำอยู่ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน

สุดท้ายจะลงเอยอย่างไร มีเพียง 'เวลา' เท่านั้นที่บอกได้