Ant Group กับการทำ IPO ขนาด 6 ล้านล้านบาท

Ant Group กับการทำ IPO ขนาด 6 ล้านล้านบาท

ภายในปี 2020 Ant จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง

ในแวดวงของคนที่ชอบเทคโนโลยีแล้ว ชื่อของ Alibaba คงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในนามยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce สัญชาติจีน ซึ่งก่อตั้งโดย Jack Ma ผู้โด่งดังในเวทีระดับโลก ในปัจจุบันหุ้นของ Alibaba มีการซื้อขายในตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกาและฮ่องกง โดยได้ทำ All Time High มีราคาสูงสุดตั้งแต่ได้เข้าเทรดมา และมูลค่าตลาดหรือ Market Capitalization ประมาณ 22 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดของหุ้นไทยใน SET และ mai รวมกันทุกตัวที่ประมาณ 15 ล้านล้านบาท แต่ในวันนี้ผมจะขอพูดถึงหนึ่งในบริษัทที่ Alibaba ถือหุ้น โดยบริษัทนี้ได้ Spin Off นำบริการด้าน Fintech ออกมาบริหารตั้งแต่ปี 2014 ภายใต้ชื่อ Ant Financial Group ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Ant Group

Ant Group บริหารงานโดย CEO ที่ชื่อ Eric Jing โดยเขาได้อธิบายที่มาของชื่อ Ant ว่ามาจากความต้องการในการช่วยคนตัวเล็ก ๆ ซึ่งน่าจะสื่อถึงบริการ Fintech ที่เน้นเข้าถึงคนจำนวนมากเพื่อช่วยเรื่อง Financial Inclusion ให้คนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงบริการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพอย่างเท่าเทียมในต้นทุนที่เป็นธรรม ในปัจจุบัน Ant Group มีฐานผู้ใช้งานประมาณ 1,300 ล้านคนทั่วโลก แม้จะมีฐานผู้ใช้งานหลักอยู่ในประเทศจีน แต่ Ant ก็ได้ขยายขอบเขตบริการไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อรองรับทั้งการใช้งานของคนจีนที่เดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งทำข้อตกลงทางธุรกิจหรือเข้าถือหุ้นกับบริษัท Fintech ที่ให้บริการอยู่แล้วในแต่ละประเทศเพื่อให้บริการกับคนท้องถิ่น หนึ่งในประเทศลำดับต้น ๆ ที่ Ant ได้ขยายธุรกิจไปในช่วงปี 2015 -2016 คืออินเดียและไทย โดยได้เข้าถือหุ้นของบริษัท Paytm ในอินเดีย และบริษัท Ascend Money ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ในเครือของ TRUE นั่นเอง

Ant มี ALIPAY เป็นบริการหลักเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2004 ในสมัยที่ยังอยู่ภายใต้ Alibaba โดยตรง โดยปัจจุบันมี Market Share เป็นอันดับหนึ่งในจีนหากวัดจากมูลค่าธุรกรรม โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ WeChat Pay ซึ่งอยู่ใน Super App อย่าง WeChat Messenger ซึ่งคนจีนเกือบทุกคนต้องมี App นี้ เหมือนกับการที่คนไทยต้องมี LINE เพื่อติดต่อสื่อสารกันทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน ส่งผลให้ WeChat Pay มีจำนวนผู้ใช้งานในจีนมากกว่า ALIPAY

ในแง่ของวิวัฒนาการของบริการนั้น Ant ได้เปิดตัวบริการด้านการลงทุนภายใต้ชื่อ Ant Fortune ในปี 2015 ซึ่งได้ปฏิวัติวงการ Wealth Management ของจีนให้เข้าถึงคนจำนวนมากได้ โดยปัจจุบันได้นำเสนอกองทุนรวมทั้งที่บริหารงานโดยบริษัทในเครือ และที่บริหารโดย บลจ. รายอื่น ๆ คล้ายกับบริการด้านการลงทุนของไทยในปัจจุบันที่เป็น Open Architecture มากขึ้น นอกจากนี้ หนึ่งในกองทุนยอดฮิตที่เป็นกองทุนรวมตลาดเงิน หรือ Money Market Fund ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเองก็เป็นของ Ant ด้วยเช่นกัน ภายใต้ชื่อ Yu’e Bao ซึ่งมีการเจริญเติบโตสูงมากในช่วงที่ดอกเบี้ยในตลาดเงินอยู่ในระดับสูง เนื่องจากสามารถดึงดูดคนที่ไม่เคยลงทุนย้ายเงินฝากจากธนาคารมาเริ่มต้นลงทุนได้ โดยมีความสะดวกในการใช้จ่ายเงินผ่าน ALIPAY ได้ทันที นอกจากนี้ Ant ก็ได้เปิดตัว Mybank ในปี 2015 เช่นกัน เพื่อให้บริการด้านสินเชื่อกับลูกค้าบุคคล เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และ SMEs โดยเน้นการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างทั่วถึงในต้นทุนที่เหมาะสมและเป็นธรรม

ภายในปี 2020 นี้ Ant จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง โดยคาดการว่าจะมีมูลค่าบริษัทประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็นเงินไทยสูงกว่า 6 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่เป็นประมาณสองเท่าของ CITIBANK และน่าจะสามารถไล่ตาม JP Morgan ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้อย่างสนุก เหมือนกับการที่ TESLA สามารถแทรง TOYOTA ได้เลยทีเดียว