มหัศจรรย์แห่ง 'พี่บัว'

มหัศจรรย์แห่ง 'พี่บัว'

รีบปลดทุกล็อกให้พวกเขา ได้กลับมาทำมาหากินอย่างเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

ที่ปั๊มน้ำมันใกล้บ้านย่านลาดพร้าวซึ่งผมเติมน้ำมันเป็นประจำ มีพนักงานบริการคนหนึ่งชื่อ 'พี่บัว' เธอเป็น 'เด็กปั๊ม' ที่ผมไม่เคยลืม อันเนื่องมาจากความสามารถและการให้บริการอันน่าประทับใจหลายอย่างๆ

ทุกครั้งที่ผมขับรถเข้าไปในปั๊ม พี่บัวไม่เคยถามผมว่าจะเติมน้ำมันประเภทไหน และจะเติมเท่าไร แต่จะถามคำเดียวว่า 'เหมือนเดิมนะ?' แล้วก็จัดแจงเติมให้จนเสร็จเรียบร้อย

ฟังดูแค่นี้อาจจะธรรมดา แต่พี่บัวยังเหนือกว่านั้น เวลาทางปั๊มมีโปรโมชั่นอะไร พี่บัวไม่เคยลืมที่จะบอกผม และคอยเตือนอยู่เสมอว่า บัตรสมาชิกของผมมีคะแนนอยู่เท่าไร และควรใช้คะแนนนั้นอย่างไร

เช่นเดียวกับบริการอื่นๆ เช่น การเช็ดกระจก หรือเติมลมยาง ที่ผมแทบไม่เคยต้องร้องขอ ทุกครั้งที่ผมไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม พี่บัวจะถามว่า 'ลมยางไหม?' หากผมเพียงพยักหน้า เธอจะกุลีกุจอจัดการให้จนเรียบร้อย โดยไม่เคยถามอีกเช่นกันว่าต้องการแรงดันล้อละกี่ปอนด์ ล้อหน้าเท่าไร ล้อหลังเท่าไร เนื่องจากเธอจำได้ทุกรายละเอียดไม่เคยผิดพลาด

ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากพี่บัวจะจำผมได้แล้ว พี่บัวยังจำสมาชิกในครอบครัวผมได้ทุกคน บางครั้งเวลาผมไปเติมน้ำมัน พี่บัวจะบอกผมว่า 'วันก่อนคุณพ่อเพิ่งมา' วันหนึ่งพี่บัวเปรยกับผมว่า พ่อผมไม่ค่อยสนใจที่จะเก็บแต้มโดยใช้บัตรสมาชิก ทำให้เสียโอกาสในการได้สิทธิพิเศษต่างๆ

ผมฟังแล้วรู้สึกประทับใจมาก และเคยถึงกับนึกในใจว่า 'มีพนักงานที่ดีอย่างนี้ในโลกด้วยหรือ?'

จะเห็นได้ว่า นอกจาก 'หัวใจบริการ' ที่มีอยู่เต็มเปี่ยม พี่บัวยังมีความจำอันยอดเยี่ยม ผมมั่นใจว่าความจำของเธอดีกว่าของผมมาก ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของปั๊มน้ำมันดังกล่าว ผมเชื่อว่าพี่บัวน่าจะให้บริการลูกค้าประจำไม่ต่ำกว่าร้อยราย เป็นไปได้อย่างไรที่เธอสามารถจดจำรายละเอียดได้ทุกกระเบียดนิ้ว

ผมเคยพูดให้เพื่อนที่นั่งรถมาด้วยกันฟังว่า ผมอิจฉาเจ้านายของพี่บัวที่ได้ลูกน้องดีและมีความสามารถขนาดนี้ ผมยังคิดด้วยซ้ำไปว่าด้วยความสามารถระดับนี้ พี่บัวสามารถทำงานได้อีกหลายอย่าง แต่นั่นคงไม่จำเป็น เพราะเท่าที่ผมเห็น พี่บัวน่าจะ 'รักในงานที่ทำ' ไม่น้อยไปกว่าใครในโลกนี้

ผมยังเคยนึกขำๆ ว่า ถ้าบริษัทไหนมีพนักงานอย่างนี้มากๆ ก็น่าจะทุ่มเงินเพื่อลงทุนในหุ้นของบริษัทนั้น

ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่พุ่งเข้าใส่คนทั่วโลกอย่างไม่บันยะบันยัง มีผู้คนที่ทำมาหากินด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและรักในวิชาชีพอย่างพี่บัวอีกมากมายทั่วประเทศกำลังได้รับความเดือดร้อน หลายคนตกงาน หลายคนเป็นหนี้เป็นสินล้นพ้น ทั้งที่พวกเขาตรากตรำทำงานเป็นรากฐานให้ประเทศของเราเคลื่อนที่ไปข้างหน้า

เมื่อการระบาดของโรคคลี่คลาย ก็ควรรีบ 'ปลดทุกล็อก' ให้พวกเขาซึ่งเปรียบเสมือนคนที่เรือล่มและกำลังลอยคออยู่ในน้ำ ได้กลับมาทำมาหากินอย่างเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

ก่อนที่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคน 'ไร้อภิสิทธิ์' เหล่านี้จะหมดลง