วิถีลงทุน New Normal เป็นทั้งหลุมหลบภัยและขุมทรัพย์ ตอนที่ 2

วิถีลงทุน New Normal เป็นทั้งหลุมหลบภัยและขุมทรัพย์ ตอนที่ 2

ในตอนที่แล้ว เราเขียนถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พาดัชนี NASDAQ ทำจุดสูงสุดใหม่ท่ามกลางความเสี่ยงที่รุมเร้า ในตอนนี้

เราจะแนะนำหุ้นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นทั้งหลุมหลบภัยในระยะสั้นและขุมทรัพย์การลงทุนในระยะยาวได้ เช่นเดียวกัน

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในสหรัฐเพิ่มขึ้นถึงวันละกว่า 60,000 ราย ทำจุดสูงสุดตั้งแต่มีการระบาดมา ส่งผลให้ 41 มลรัฐ จาก 50 มลรัฐ ต้องเลื่อนการเปิดเมืองออกไป ทำให้เกิดความกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะไม่ราบรื่นอย่างที่ได้ประเมินไว้

แน่นอนว่าในช่วงที่มีโรคระบาด อุตสาหกรรมที่ดูเหมือนจะได้ประโยชน์มากที่สุดคือการแพทย์ หรือ Healthcare เพราะหากเปรียบเหล่าบุคลากรทางการแพทย์เป็นทหาร ยารักษาโรค และวัคซีน รวมถึงเครื่องมือต่างๆ ก็เปรียบเสมือนอาวุธชิ้นสำคัญในการต่อสู้กับศัตรูที่เราประเมินไม่ได้อย่างไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

อย่างไรก็ตาม หุ้น Healthcare บางกลุ่มยังมีความเสี่ยง โดยช่วงปิดเมือง ผู้ป่วยเข้าใช้บริการในโรงพยาบาลและทันตกรรมลดลง นอกจากนี้ การเลือกตั้งสหรัฐที่ยิ่งใกล้เข้ามาทุกที ทำให้ประเด็นเรื่องการปฏิรูประบบประกันสุขภาพและการลดราคายาถูกหยิบยกขึ้นมาใช้หาเสียง ซึ่งจะกระทบราคาหุ้นของบริษัทผู้ผลิตยา (Pharmaceuticals) กลุ่มโรงพยาบาล และบริษัทประกันสุขภาพ ดังนั้น ในการเลือกลงทุนหุ้นกลุ่ม Healthcare นั้น มีความจำเป็นที่จะต้องคัดสรรเฉพาะหุ้นที่จะได้รับประโยชน์จากโรคระบาดหรือสอดรับกับวิถี New Normal รวมทั้งได้รับผลกระทบจากประเด็นทางการเมืองจำกัด

หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะเป็นผู้ชนะในสถานการณ์นี้ ได้แก่

1. หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ หรือ Biotechnology (บริษัทที่คิดค้นและผลิตยารักษาโรคซับซ้อน วัคซีนป้องกันโรค รวมถึงการตัดต่อพันธุกรรม)

ความหวังของเศรษฐกิจโลกขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการคิดค้นวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19 จากข้อมูลปัจจุบัน ทั่วโลกมีการทดลองยารักษาโรคโควิด-19 เกือบ 1,500 ชนิด และวัคซีน 58 ชนิด ที่บริษัทในกลุ่ม Biotechnology กำลังวิจัยและพัฒนา เช่น บริษัท Moderna ที่กำลังทดลองวัคซีนประเภท mRNA (การฉีดสารพันธุกรรมของไวรัสเข้าไปในร่างกายแล้วให้ร่างกายเป็นโรงงานผลิตวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิต้านทาน) และบริษัท Novavax ที่ทดลอง Protein-Based Vaccine (การฉีดโปรตีนของเชื้อไวรัสเข้าไปในร่างกายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างภูมิคุ้มกัน)

และแม้เมื่อการระบาดจบลง บริษัทกลุ่มนี้ยังคงมีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว เนื่องจากเป็นผู้คิดค้นยารักษาโรคที่ซับซ้อนอื่นๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคกลุ่มหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งยาเหล่านี้มีผู้ผลิตน้อยราย แต่มีความต้องการอยู่มาก

2. หุ้นกลุ่มผู้ให้บริการพบแพทย์ทางไกล (Telemedicine)

ในช่วงที่ภาครัฐใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ผู้ป่วยจำเป็นต้องปรึกษาอาการเบื้องต้นหรือติดตามอาการที่ไม่ร้ายแรงกับแพทย์ผ่านทาง Video Conference เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางมาโรงพยาบาล โดยบริษัทที่เป็นผู้นำในบริการนี้ ได้แก่ บริษัท Teledoc Health นอกจากนี้ยังมี บริษัท Zoom Video ที่เสนอบริการ Zoom for Healthcare ซึ่งเป็นบริการพบแพทย์ทางไกลผ่านทางแอพพลิเคชั่น Zoom

และแม้ว่าเมื่อการระบาดจบลง บริการนี้จะยังใช้อย่างแพร่หลาย เพราะการพบแพทย์ทางไกลถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึงมากขึ้น 

3. หุ้นกลุ่มผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์

อีกหนึ่งอาวุธที่สำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือ การตรวจหาเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีหลายบริษัทได้คิดค้นเครื่องมือตรวจหาเชื้อ เช่น บริษัท Thermo Fisher Scientific และบริษัท Becton Dickinson ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องมือตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ได้รับอนุมัติจากองค์กรอาหารและยาสหรัฐ (FDA)

นอกจากนี้ เครื่องมือแพทย์ยังเป็นอุปกรณ์สำคัญและใช้อย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน เช่น บริษัท Dexcom ที่ผลิตเครื่องมือวัดระดับน้ำตาลกลูโคสแบบ Real-time สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และคนทั่วไปก็สามารถใช้เพื่อการรักษาสุขภาพได้เช่นเดียวกัน

สำหรับความถูกแพงของหุ้น (Valuation) ตอนนี้ ราคาหุ้นกลุ่ม Healthcare ซื้อขายที่ P/E 15.4x (เท่า) ถูกกว่าดัชนี S&P500 ที่ 19.5x ซึ่งเมื่อพิจารณาแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอนาคตแล้ว หุ้น ณ ระดับราคายังเหมาะสมที่จะเป็นตัวเลือกในการลงทุน ไม่ว่าจะลงทุนโดยตรงหรือผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่ม Healthcare จะเป็นหลุมหลบภัยในสถานการณ์ที่มีการระบาดระลอก 2 อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบชิ้นสำคัญสำหรับขุมทรัพย์ความมั่งคั่งในระยะยาวด้วย

ที่มา : The New York Times, Lombard Odier, Bloomberg, Goldman Sachs