ชาวอเมริกันอาจไม่มีวันตื่น

ชาวอเมริกันอาจไม่มีวันตื่น

ชาวอเมริกันนำโด่งในด้านการเจ็บป่วยและตายจากไวรัสโควิด-19 ปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้มีหลายอย่างซึ่งสร้างความฉงนใจให้ผู้คนจำนวนมาก

เนื่องจากสหรัฐก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ปัจจัยนำได้แก่จุดยืนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งเล็งผลเลิศทางการเมืองเรื่องตนจะชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่เป็นหลัก จุดยืนนี้ทำให้เขามักไม่ยอมฟังผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ส่งผลให้เกิดมาตรการและพฤติกรรมที่มีผลร้าย แม้จุดยืนของเขาจะสร้างความเสียหายร้ายแรง แต่เขาไม่เปลี่ยน ตรงข้ามยังพยายามทำทุกอย่างรวมทั้งการบิดเบือนความจริงและโทษผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์เพื่อหวังจะคงฐานด้านการเมืองไว้ นั่นคือ จูงใจผู้เคยเลือกเขาเมื่อ 4 ปีก่อนให้ทำซ้ำอีกครั้งในการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.

ย้อนไปหลังนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คอลัมน์นี้ชี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้เขาชนะทั้งที่เขามีประวัติด่างพร้อยนั้น ชาวอเมริกันและชาวโลกไม่สะกิดใจ หรือมองไม่เห็น นั่นคือ ความฝันของชาวอเมริกัน” (American Dream) ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สังคมอเมริกันก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ แก่นของปัจจัยได้แก่ความฝังใจที่ว่า ชาวอเมริกันต้องมีทุกอย่างครบถ้วนสำหรับดำเนินชีวิต และรุ่นปัจจุบันต้องก้าวหน้าพร้อมกับมีอะไรต่อมิอะไรมากกว่ารุ่นก่อน ปัจจัยนี้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของระบบตลาดเสรีที่สังคมอเมริกันใช้ อย่างไรก็ดี มันมีคำสาปแฝงอยู่

คำสาปมีผลร้ายทั้งในระดับโลกและในสังคมอเมริกัน การที่ชาวอเมริกันรุ่นปัจจุบันต้องมีสรรพสิ่งมากกว่ารุ่นก่อน นำไปสู่การใช้ทรัพยากรมากขึ้นทั้งที่จำนวนมากเกินจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต การใช้ทรัพยากรแนวนี้นำไปสู่การทำลายระบบนิเวศจนขาดสมดุลและภาวะโลกร้อนซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของโลก

สังคมอเมริกัน นอกจากจะรับผลกระทบด้านระบบนิเวศแล้ว ยังรับด้านสังคมอีกด้วย ทั้งนี้เพราะระบบตลาดเสรีที่เขาใช้ได้ถูกบิดเบือนไปอย่างมีนัยสำคัญโดยชนชั้นมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจรัฐ กล่าวคือ ชนชั้นมหาเศรษฐีและผู้มีอำนาจรัฐสร้างกฏเกณฑ์ขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกตนมากกว่าประโยชน์ของสังคมโดยรวม ผลพวงของกฏเกณฑ์จำพวกนี้ได้แก่ ชนชั้นเศรษฐีแย่งส่วนแบ่งของการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปเกือบหมด ทำให้ความยากจนไม่ลดลง ตรงข้าม มันทำให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นพร้อมๆ กับทำความขุ่นข้องหมองใจให้แก่ชาวอเมริกันนับล้านคนซึ่งพร้อมใจกันมองข้ามความด่างพร้อยของนายทรัมป์ในการเลือกประธานาธิบดีปี 2559

ในช่วงเวลาเกือบ 4 ปีที่นายทรัมป์กำอำนาจรัฐ เป็นที่ประจักษ์ว่า นโยบายของเขามุ่งเน้นการเสริมความฝันของชาวอเมริกันผ่านความพยายามทำให้เศรษฐกิจขยายตัวสูงสุด โดยไม่คำนึงถึงการทำลายระบบนิเวศและสภาพความเหลื่อมล้ำที่มีแนวโน้มว่าเลวร้ายยิ่งขึ้น ในภาวะปกติ นโยบายแนวนี้จะมีผลทำให้ชาวอเมริกันตัดสินใจจะเลือกเขาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหรือไม่ แต่ในภาวะวิกฤติอันเกิดจากไวรัสโควิด-19 ปัจจัยที่จะทำให้ชาวอเมริกันตัดสินใจเลือกใครสลับซับซ้อนมากขึ้น หากชาวอเมริกันส่วนใหญ่มองทะลุทั้งนโยบายพื้นฐานและการบิดเบือนต่างๆ ในระหว่างเกิดวิกฤติของนายทรัมป์ที่ทำให้ชาวอเมริกันป่วยและตายแบบนำโด่ง เขาคงแพ้การเลือกตั้ง ในกรณีที่เขาชนะ น่าจะตีความหมายได้ว่าความชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังไม่ตื่น

อย่างไรก็ดี ในกรณีที่นายทรัมป์แพ้ก็ไม่ได้หมายความว่าชาวอเมริกันตื่นแล้ว ทั้งนี้เพราะนโยบายที่คู่แข่งหลักของเขาเสนออาจต่างออกไปในด้านระบบนิเวศและด้านการมองความเหลื่อมล้ำ แต่ไม่ต่างในด้านพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรมากขึ้นเพื่อสนองความฝันของชาวอเมริกัน ฉะนั้น การมองว่าไวรัสโควิด-19 จะทำให้ชาวอเมริกันตื่นและพร้อมที่จะเปลี่ยนแนวคิดพื้นฐานในการดำเนินชีวิตตาม “ปกติใหม่” (New Normal) ที่ไม่ใช้ทรัพยาการเพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การทำลายระบบนิเวศและลดความเหลื่อมล้ำนั้นยังเร็วเกินไป เรื่องนี้จะต้องรออีกไม่ต่ำกว่า 4 ปีหากมีผู้สมัครประธานาธิบดีที่เสนอทางเลือกแนวปกติใหม่แล้วได้รับเลือก ณ วันนี้ยังไม่มีตัวชี้บ่งว่ามันจะเกิดขึ้น