เมื่อโจร (ไม่) กลับใจ ? (จบ)

เมื่อโจร (ไม่) กลับใจ ? (จบ)

โจทก์ ผู้เสียหาย นาย จ แจ้งผู้ประนอม เมื่อผู้จัดการ นาย ข และนิติบุคคล ค ขอลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการ

และบอกเลิกการรับจ้างบริหารทรัพย์สินต่อนิติบุคคลอาคารชุด ก ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 จึงจำเป็นต้องลงลายมือชื่อการจ้างในสัญญาจ้างนิติบุคคล ผู้รับจ้าง จ รายใหม่ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 เข้าปฏิบัติหน้าที่แทน เพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่นิติบุคคลอาคารชุด ก และเจ้าของร่วม

จำเลยที่ 1 และ 2 แจ้งผู้ประนอมเป็นสิทธิของนิติบุคคล จ สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายตามสัญญาจ้างต่อศาลจังหวัดตามฟ้อง ต่อนิติบุคคลอาคารชุด ก ดังกล่าวได้ แต่ผู้รับผิดในความเสียหายดังกล่าว มิใช่ตน ในฐานะผู้จัดการ แต่เป็นนิติบุคคลอาคารชุด ก และอดีตประธานกรรมการ นาย จ ดังกล่าว

นาย ข แจ้งต่อผู้ประนอม การถอดถอนคณะกรรมการ ซึ่งมี นาย จ เป็นประธานคณะกรรมการรวมอยู่ด้วยนั้น เกิดจากมติของที่ประชุมใหญ่เจ้าของร่วม เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 นั้น ตนไม่มีสิทธิก้าวล่วงต่อเรื่องดังกล่าว ส่วนการถูกดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันจดแจ้งข้อความ (การจดทะเบียนคณะกรรมการ) อันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน และเจ้าพนักงานที่ดินกับพวก ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา ก็ขอให้เป็นไปตามสิทธิ์ของผู้เสียหาย และขั้นตอนของกฎหมาย ตน กับพวกผู้ถูกกล่าวหา พร้อมต่อสู้คดีตามขั้นตอนกฎหมายดังกล่าว ส่วนการยอมรับว่าเป็นมติที่ประชุมใหญ่โดยมิชอบ ตามข้อบังคับ และกฎหมายและการยินยอม จ่ายค่าเสียหาย จำนวน 4 ล้านบาท หรือให้นิติบุคคล ผู้รับจ้าง จ เข้าปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารทรัพย์สินของนิติบุคคลอาคารชุด ก และตามสัญญาจ้าง ตนกับพวก รับไม่ได้ และไม่ยินยอมเรื่องดังกล่าว

ผู้ประนอม ไกล่เกลี่ย กล่าวทิ้งท้าย เห็นว่าการทำสัญญาจ้างบริหารทรัพย์สิน อาคารชุด ก ระหว่างประธานคณะกรรมการ นาย จ กับนิติบุคคล ผู้รับจ้าง ง รายใหม่ ซึ่งกระทำเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562 ก่อนวันประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ถอดถอนคณะกรรมการ ถูกต้อง เหมาะสมแล้ว เหตุเพราะเกิดจากหนังสือลาออกของผู้จัดการ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นตัวกำหนด บังคับ ต่อประธานคณะกรรมการให้ปฏิบัติ ส่วนการจัดประชุมวิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 เห็นว่าผู้จัดการ นาย ข จำเลยที่ และนิติบุคคล ค จำเลยที่ 2 มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ อาจกลั่นแกล้ง และเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจของนาย ข ได้เป็นผู้จัดการต่ออีกวาระ และผลประโยชน์ของนิติบุคคล ค ซึ่งมีนาย ข เกี่ยวข้องด้วย

อย่างไรก็ดี การไกล่เกลี่ยคดีความของผู้ประนอมท่านดังกล่าว กระทำด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ เป็นกลาง และความพยายามยิ่ง ที่จะให้ทั้งสองฝ่าย สามารถตกลงกันได้ ในขณะที่โจทก์ ผู้เสียหาย พร้อมรับเงื่อนไขข้อเสนอตามที่ผู้ประนอมเสนอ แต่จำเลยทั้งสี่ ไม่สามารถกระทำเรื่องดังกล่าวได้ เหตุเพราะอำนาจ และผลประโยชน์ กอง หรือมีอยู่ตรงหน้า เมื่อจำเลยทั้งสี่ ไม่ยินยอม ก็ให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาไต่สวนมูลฟ้อง และสืบพยาน คดีร่วมกันฉ้อโกงของศาลแขวงในโอกาสต่อไป