เบื่อมั้ย ‘New Normal’

เบื่อมั้ย ‘New Normal’

ตอนนี้หันไปทางไหนก็มีแต่ New Normal ในโซเชียลก็ขึ้นมาเต็มฟีด ตั้งแต่ กินข้าว ออกกำลังกาย ชอปปิง ไปทำงาน ยันการบริหารองค์กรในแบบ New Normal

แปลกแต่จริง!

ร้านอาหารปกติปิดวันจันทร์ ช่วงโควิดประกาศเปิดขายและส่งทุกวัน พอวันนี้ลูกค้าเริ่มกลับมาแล้ว ออกประกาศใหม่ว่า ร้านกลับมาปิดวันจันทร์เหมือนเดิม…แล้วอะไรคือ New Normal? 

ขึ้นลิฟท์ในอาคาร ช่วงแรก ๆ กำหนดให้ขึ้นได้เพียงครั้งละไม่เกิน 8 คน ลงทุนตีตารางในลิฟท์ใหม่ ตอนนี้เปิดลิฟท์มาคนล้นเลย ยิ่งตอนแย่งกันกลับบ้านแทบจะหายใจรดต้นคอกัน...แล้วอะไรคือ New Normal? 

การประชุมที่ปกติต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับ 2 ชั่วโมง เพื่อประชุม 30 นาที ช่วงโควิดประชุมออนไลน์ได้ พอวันนี้กลับมาประชุมแบบต้องเจอหน้ากันใหม่...แล้วอะไรคือ New Normal?

เวลาเข้างานปกติทำงาน 8 โมงเลิก 5 โมงเย็น ช่วงโควิดทำงานที่บ้านได้นี่นา พอประกาศปลดล็อก ตอนนี้บริษัททำ Welcome Back แคมเปญ กลับมาทำงาน 8 โมงเลิก 5 โมงเย็นเหมือนเดิม ลงทุนจัดโต๊ะทำงานใหม่เพื่อรักษาระยะห่าง แต่เรายังอัดกันประชุมกันในห้องเล็ก ๆ แบบไม่ใส่หน้ากากเหมือนเดิมหรือไม่...แล้วอะไรคือ New Normal?

ลูกค้าท่านหนึ่งบอกดิฉันว่า “อาจารย์ค่ะ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าโลกเข้าสู่ New Normal ดังนั้น วิธีการทำงานก็ต้องเป็นแบบ New Normal เลยอยากให้อาจารย์มาให้เครื่องมือใหม่ ๆ แบบสอนออนไลน์ 2 ชั่วโมงเสร็จแล้วคนได้เอาไปใช้ทำงานแบบ New Normal ได้เลยค่ะ”

New Normal!

New Normal!!

New Normal!!!

ส่วนตัวดิฉันเองก็ไม่ค่อยได้เชี่ยวชาญเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะต้องยอมรับว่า พวกเราต่างเจอโควิดพร้อมกันครั้งแรกก็ครั้งนี้ และตอนนี้แอบเอียนกับคำนี้

แต่หากรวบรวมสิ่งที่ดิฉันได้รับจากการเรียนลัดผ่านการทำงานร่วมกับผู้นำองค์กรกว่า 60 องค์กรในช่วงสั้น ๆ ที่มาเล่าให้ฟังถึงการอยู่รอดในวิกฤติและหลังวิกฤติ พอจะสรุปได้ดังนี้

New Normal ไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญสำหรับคนที่ปรับตัวมาตลอด หากธุรกิจของคุณที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงกับโลกที่มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ก่อนโควิดเสียอีก คำว่า New Normal แทบไม่ได้เป็นประเด็นสำคัญสำหรับคุณเลย วิกฤติครั้งนี้เป็นเพียงอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลง และกำลังบอกว่าที่ผ่านมา คุณมาถูกทางแล้ว ที่ไม่ทำตัวเป็นไดโนเสาร์ 

หลังจากนี้การ์ดห้ามตก ไม่หยุดที่จะปรับเปลี่ยนพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่มี Standard New Normal ขึ้นอยู่ว่าเป้าหมายใหม่ของคุณอยู่ที่ไหน หากก่อนหน้านี้ คุณสำเร็จอย่างล้นหลาม เจอโควิดไปหมัดเดียว จากร้อยเหลือศูนย์ 

นี่แหละที่คุณต้องกลับมาคิดว่าจะไปต่ออย่างไร ก็ถึงเวลาที่ต้องมาดูว่าลูกค้าเราเปลี่ยนไปอย่างไร อะไรเป็น New Normal ของลูกค้า แล้วเราจะปรับตัวเปลี่ยน Business Model จะหาดินแดนใหม่ที่คุณจะไปตั้งหลักปักฐานใหม่สร้างธุรกิจให้เป็นร้อย แล้วจึงมาเปลี่ยนวิธีการทำงาน หากเครื่องมือเครื่องไม้มาช่วยให้ใช้ชีวิตรอดได้ในดินแดนใหม่ในความปกติใหม่นั้น

New Normal ที่แท้ทรูคือ จงอย่าหวังว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หากก่อนหน้านี้คุณสำเร็จอย่างล้นหลาม วันนี้เหลือศูนย์และกำลังนั่งโทษโชคชะตา โทษโรคภัยไข้เจ็บ โทษแบงก์ โทษรัฐบาล โทษโน่นโทษนี่ที่ทำให้วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน แถมนั่งรอลุ้นให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเพียง New Abnormal อันนี้อาจรอดยาก 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารธนาคารหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า หากเจ้าของกิจการไม่ปรับตัวใดๆ จะมีธุรกิจขนาดเล็กและกลางกว่า 40% ที่ต้องสูญหายไปไปจากประเทศเพราะวิกฤติในครั้งนี้