เมื่อโจร (ไม่) กลับใจ ? (2)

เมื่อโจร (ไม่) กลับใจ ? (2)

ขอย้อนกลับไปยังบทความตอนที่แล้ว ในประเด็นลูกหนี้ผิดนัดชำระและปฏิเสธการยึด อายัดทรัพย์ ขายทอดตลาด

ในขณะที่ศาลออกหมายจับ และพนักงานสอบสวน ยืนยัน สั่งฟ้องลูกหนี้รายนี้ให้ตกเป็นผู้ต้องหา

บทความตอนที่แล้ว >>> เมื่อโจร (ไม่) กลับใจ ? (1)

พร้อมตัวอย่างนิติบุคคลอาคารชุด ชื่อ ก. มีนาย ข.เป็นผู้จัดการ เมื่อเดือน เม.ย.2560 โดย ก.ว่าจ้างนิติบุคคลชื่อ ค.เข้ามาบริหารทรัพย์สินเป็นเวลา 2 ปี แต่ก่อนที่จะครบสัญญาจ้าง เมื่อ ต.ค.2560 ที่ประชุมคณะกรรมการมีมติไม่ต่อสัญญาจ้าง, บริษัทบริหารทรัพย์สิน ค.จึงทำการคัดเลือกสรรหานิติบุคคล ผู้รับจ้าง บริษัทบริหารทรัพย์สินรายใหม่แทนนิติบุคคล ค. ชื่อ ง. 

เมื่อนิติบุคคล ค.ทราบข่าวว่าคณะกรรมการมีมติคัดเลือกนิติบุคคลผู้รับจ้าง ง. นาย ข.ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของนิติบุคคลฯ จึงส่งหนังสือลาออกจากผู้จัดการและยกเลิกการรับจ้างบริหารทรัพย์สินชุด ก. ส่งให้ประธานคณะกรรมการ และกรรมการทราบ

หนังสือดังกล่าวที่ประชุมคณะกรรมการของนิติบุคคลฯชุด ก.รับทราบ พร้อมประกาศผู้รับการอนุมัติคัดเลือกนิติบุคคล ผู้รับจ้าง ง.รายใหม่ ตลอดจนหนังสือขอลาออกฉบับดังกล่าวให้เจ้าของร่วมทราบเช่นกันด้วย

นาย จ.ในฐานะประธานคณะกรรมการจึงจำเป็นต้องลงลายมือชื่อการจ้างนิติบุคคลผู้รับจ้างรายใหม่แทนนาย ข. ซึ่งพ้นจากการเป็นผู้จัดการตามข้อบังคับของนิติบุคคลฯ ชุด ก. ข้อ 40 (1) และ พ.ร.บ.อาคารชุด มาตรา 35/3 เป็นหลักฐานการจ้างงานดังกล่าว

ต่อมา เมื่อ ม.ค.2562 คณะกรรมการตรวจสอบพบกิจกรรมการจัดประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2562 ตามที่นาย ข.และนิติบุคคลผู้รับจ้าง ค.ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อขออนุมัติการจัดจ้างนิติบุคคล ผู้ชำนาญงานตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ตามเอกสารเปรียบเทียบเสนอราคาการดำเนินงานดังกล่าว พบการทุจริตด้วยการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ หลอกลวง ทำให้คณะกรรมการหลงเชื่อการอนุมัติการจ้างนิติบุคคล ผู้ชำนาญงานตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำตามเอกสารเปรียบเทียบเสนอราคา เกิดความเสียหายแก่คณะกรรมการและนิติบุคคลอาคารชุด ก.

ประธานคณะกรรมการด้วยความเห็นชอบคณะกรรมการจึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญากับพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงงานตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำต่อผู้ถูกกล่าวหารวมทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่ ผู้จัดการ นาย ข. นิติบุคคลผู้รับจ้าง ค. และบุคลากรตำแหน่งผู้จัดการอาคาร และผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวจนถึงที่สุด

ภายหลังการลงนามการจ้าง นิติบุคคลผู้รับจ้าง ง.รายใหม่แทนที่นิติบุคคล ค.และผู้จัดการนาย ข. จะทำหน้าที่ส่งมอบงานทรัพย์ส่วนกลางให้แก่คณะกรรมการหรือนิติบุคคล ผู้รับจ้าง ง.ตามปกติ ดังเช่นบุคคลหรือนิติบุคคลทั่วไป พึงกระทำ ปรากฏว่าผู้จัดการนาย ข.และนิติบุคคลผู้รับจ้าง ค.กลับไม่ทำ กลับร่วมมือกันปฏิเสธการส่งมอบงานทรัพย์ส่วนกลางของนิติบุคคลฯ ก.ให้แก่คณะกรรมการ และ/หรือนิติบุคคล ผู้รับจ้าง ง.อีกด้วย

นอกจากนั้นนาย ข.กลับใช้อำนาจจัดประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2562 ขอมติถอดถอนคณะกรรมการชุดเดิมและแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ด้วยการอาศัยคะแนนเสียงของเจ้าของโครงการ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวนมากกว่า กึ่งหนึ่งของคะแนนเสียงเจ้าของร่วมทั้งหมด

นิติบุคคลผู้รับจ้าง ง.จึงฟ้องร้องนิติบุคคลฯ ก. และประธานคณะกรรมการ นาย จ. เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ต่อศาลจังหวัด ความผิดสัญญาจ้างละเมิดเรียกค่าเสียหาย 4 ล้านบาท เป็นคดีนัดพิจารณาต่อเนื่องต้นปี 2563

ประธานคณะกรรมการ นาย ง.ฟ้องเพิกถอนมติที่ประชุม โต้แย้งสิทธิต่อศาลจังหวัดทันที ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 1/2562 เป็นการประชุมใหญ่โดยมิชอบ นัดพิจารณาเป็นคดีต่อเนื่องต้นปี 2563 รวมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญาต่อพนักงานสอบสวน จำนวน 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ผู้จัดการและคณะกรรมการชุดใหม่ จดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน และเจ้าพนักงานที่ดินกับพวกปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา เหตุเพราะนาย ข.ไม่มีอำนาจอันเนื่องจากพ้นจากการเป็นผู้จัดการตามข้อบังคับ และเจ้าพนักงานที่ดินรับจดแจ้งผู้จัดการ นาย ข.และคณะกรรมการไม่ชอบด้วยข้อบังคับ และ พ.ร.บ.อาคารชุด

ผู้ประนอมสอบถามโจทก์เหตุคดีความเกิดจากเรื่องใด โจทก์กล่าวเป็นผู้ถูกกระทำจากจำเลยทั้ง 4 และจำเลยทั้ง 4 ร่วมกันฉ้อโกงงานตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเห็นว่าจำเลยทั้ง 4  ประสงค์ได้มาซึ่งอำนาจ และผลประโยชน์จากการรับจ้างบริหารอาคารชุดคอนโดมิเนียม นิติบุคคลอาคารชุด ก. (โปรดติดตามตอนจบ)

โดย... 

พิสิฐ ชูประสิทธิ์

นายกสมาคมนักบริหารอาคารชุด – หมู่บ้าน จัดสรรไทย 

“ที่ปรึกษา”ฝ่ายบริหารทรัพย์สินธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ

[email protected]