“ศรัทธาปสาทะ” ไม่เข้าใครออกใคร

“ศรัทธาปสาทะ” ไม่เข้าใครออกใคร

ความปรารถนาดี ความใจบุญสุนทาน เป็นสิ่งที่คนไทยมีให้เพื่อนร่วมโลกเสมอมา เมื่อญี่ปุ่นมีภัยสึนามิ

แม้กระทั่งเพื่อนบ้านแผ่นดินไหวน้ำท่วม มีภัยพิบัติใดคนไทยเรามีน้ำใจมิได้ขาด หาทางเยียวยาช่วยเหลือเต็มที่

ครั้นเมื่อเรามีวิกฤตการณ์โควิด-19 คนอยู่บ้านกิจกรรมหลักๆ นอกจากนั่งนอนกินข้าวพูดคุยกันแล้ว อีกช่องทางแห่งการติดต่อกับโลกภายนอกและเป็นปัจจัยที่ 6 ที่ แห่งความจำเป็นพื้นฐานของมนุษยชาติในปัจจุบัน คือ โลกเสมือนจริงหรือสังคมออนไลน์

ในเวลาที่ผ่านมาผมจึงได้เตือนใครหลายคนว่าเมื่อคนมีเวลาว่างมากเพราะถูกกักกันอยู่ในที่จำกัดแถมยังมีเคอร์ฟิว สิ่งที่จะเฟื่องฟูและถูกเรียกร้องถวิลหามากที่สุดคือ การเชื่อมต่อกับโลกภายนอกด้วยอินเทอร์เน็ต ดังนั้นจะโพสต์จะแสดงความคิดเห็นอะไรให้ระมัดระวัง ความรุนแรงรวดเร็วในการแพร่กระจายข่าวสาร (viral) จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เรียกว่า ใครทำอะไร กระแอมกระไอ ด่าทอนินทาใครจะรู้ถึงกันทั่วทั้งบ้านทั้งเมืองในพริบตา

กรณีรับเงินบริจาคโน่นนี่ของสังคมเรา เคยได้ยินจากฝรั่งเขียนในหนังสือวิจารณ์สังคมของเราว่าคนไทยชอบทำบุญ การเรี่ยไรทำได้ง่าย ซึ่งเป็นเรื่องจริง เพราะผมเรียนหนังสืออยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยเห็นคนให้เงินคนเร่ร่อน แต่ด้วยความเป็นคนไทย ผมไปอังกฤษใหม่ๆ มองเงินปอนด์ที่เป็นเหรียญ เหมือนเป็นเหรียญ 5 เหรียญ 10 ในบ้านเรา พอมีคนมาขอตังค์ก็หยิบยื่นให้โดยลืมไปว่าปอนด์หนึ่งขณะนั้น 60-90 บาท (โดยเฉพาะช่วงที่เรียนยังไม่จบต้องใช้ทุนส่วนตัวพุ่งไปร่วมๆ 90 บาท) พอให้ไปแล้วคิดได้ เสียดายก็ทำอะไรไม่ได้เพราะให้ไปแล้ว ได้แต่แผ่เมตตาเพราะถือเป็นกุศลจิตเป็นกรรมดีที่ให้ไปด้วยความเต็มใจ แม้จะรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะความคุ้นเคยกับอดีต

แต่การระดมเงินบริจาคกระทั่งกลายเป็นปัญหา เพราะเกิดด้วยเหตุปัจจัยดังพระพุทธวจนะโดยแท้ เพราะการมีศรัทธาปสาทะ สำหรับความคิดผมคือความเชื่อ ความศรัทธา หรือเลื่อมใสโดยปราศจากคำถาม ไม่ต้องการคำอธิบาย เหมือนแม่ยกพ่อยก แขวนพวงมาลัยคล้องคอพระเอกลิเกแบบหมดหน้าตัก ผมจำได้ว่าบางรายบ้านช่องทรัพย์สินเอาไปใช้กับความศรัทธาปสาทะนี้ กระทั่งมีความเดือดร้อนวุ่นวาย จริงๆ แล้ว รัฐเองก็มิได้ปล่อยปละละเลยมีกฎบัตรกฎหมายหลายฉบับควบคุมดูแลกันอย่างเข้มงวด ในการตรวจสอบที่มาที่ไป

แต่ส่วนมากปัญหามักจะตามมาเมื่อมีการบริจาคได้เงินได้ทองกันหลายสิบล้าน บางรายเป็นร้อยล้านก็มี เพราะความเชื่อความศรัทธาดังว่า

ยังขาดมาตรการที่จะป้องกันมิให้การเปิดรับบริจาคการเรี่ยไรกระทำกันโดยง่าย เพียงใครมีเฟซบุ๊ค เป็นยูทูปเบอร์ เป็นโค้ช หรือเป็นคนมีญาณวิเศษ (ตามคำกล่าวอ้าง) ก็สามารถระดมทุนกันได้โดยไม่ต้องมีมาตรการอะไรมาคุ้มครองคนบริจาคเงิน แม้จะมีข้อกำหนดให้มีการขออนุญาต แต่ส่วนใหญ่มักไม่มีคนทำเพราะอ้างการไม่รู้กฎหมายข้อบังคับ จึงอาจจำเป็นที่เจ้าของแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือที่คนรับบริจาคใช้ในการระดมทุนต้องคอยตรวจสอบดูแล หรือเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะต้นตอสาเหตุมาจากพื้นที่ของตนที่อนุญาตให้คนเข้ามาหาประโยชน์ได้อย่างเสรี

ถึงกระนั้นก็ต้องให้คำแนะนำเตือนสติมายังทุกท่าน ที่เชื่อว่าอย่างไรก็น่าจะเคยมีเจตนาดีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ให้ตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้ และให้ตั้งตนด้วยแนวทางหลักกาลมสูตรขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสให้พวกเราทั้งหลายคิดและทำในเรื่องต่างๆ ด้วยความรอบคอบ การจะปักใจเชื่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งควรใช้วิจารณญาณและปัญญาไตร่ตรองให้ถ่องแท้

ปัจจุบันมีทั้งรายการ มีทั้งช่องทางติดต่อตรวจดวงชะตา นักแสดงคนมีชื่อเสียงหลายคนผันตัวเองมาเป็นโหราจารย์ ทำนายทายทักเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปทั่ว ถูกบ้างผิดบ้างเป็นโลกะวัชชะ (หรือสังคมคนทั่วไปติติงไปตามสิ่งที่เขาต้องการ) แต่บางรายทำเงินถึงขนาดมีรถซูเปอร์คาร์คันละหลายสิบล้าน (เรื่องภาษีไม่แน่ใจว่าเป็นอย่างไร) แต่คนก็ยังเชื่อถือศรัทธาเอาเงินไปใส่ให้เขาเพลิดเพลิน ตั้งตนเป็นเอกทัตคะ หยั่งรู้ความเป็นไปของโลกและของผู้อื่น เวลาทำนายทายทักบางเรื่องก็กำกวมมาก ตีความไปได้หลายนัย แต่ถือว่าเมื่อผลออกมาย่อมมีโอกาสถูกหรือตีความได้ว่าแม่น แม้แต่ทำการพาณิชย์เกี่ยวกับเครื่องรางของขลังผ่านจอทีวีมีให้เห็นกันดาษดื่น กองเซนเซอร์ หรือ กสทช.น่าจะช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย

เมื่อพูดถึงศรัทธาปสาทะแล้ว ก็คงต้องวกเข้าเรื่องหลักการบริหารงานบริหารคน ไม่ว่าจะในทางการเมืองระบบราชการหรือองค์กรใด ด้วยคำว่าศรัทธาปสาทะ บางทีอาจมองคล้ายเป็น ความลุ่มหลง” อย่างที่บางคนมองเห็นว่า ถ้าใครรักใครชอบใคร ทำอะไรไม่มีคำว่าผิด และมักจะนำไปสู่อาการเป็น “คนหูเบา” โดยง่าย ยิ่งกระบวนการทำลายกันที่มักใช้ได้ผลเป็นที่ประจักษ์ คือการใส่ร้ายป้ายสีอาศัยความเชื่อถือเลื่อมใสที่มีต่อกัน กล่อมเกลาหรือให้ข่าวสารผิดๆ กันเป็นชุดๆ กับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเพื่อแย่งชิงหักโค่นฝ่ายตรงข้าม จึงต้องให้ผู้นำของเรามีความหนักแน่นไม่เชื่อคนง่ายเพื่อรักษาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเอาไว้นานๆ