ระวัง!สิ่งที่จะเกิดขึ้น ใน3เดือนข้างหน้านี้...

ระวัง!สิ่งที่จะเกิดขึ้น ใน3เดือนข้างหน้านี้...

Part 1. เรื่องมีอยู่ว่า....2-3 เดือนที่ผ่านมา ทั่วโลกและในประเทศไทย ต่างก็ตกอยู่ในสภาวะตื่นกลัว ธุรกิจแทบทุกอย่างเกือบหยุดชะงัก

จากสถานการณ์“ไวรัสพลิกโลก”ที่เปลี่ยนการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจให้ต่างจากเดิม

วันที่เขียนคอลัมน์ตอนนี้ วันเสาร์ 27 มิ.ย. 2563 ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยยังเป็นเลขศูนย์ต่อเนื่องมายี่สิบกว่าวัน มีแต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่นำเข้ามาอยู่ในสถานที่กักบริเวณเพื่อป้องกันการระบาดเท่านั้น (Stage Quarantine ) ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆที่ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ในประเทศไทยให้สบายใจขึ้นบ้าง

มาตรการผ่อนคลายเป็นระลอกทีละเฟสอย่างระมัดระวังของภาครัฐช่วยให้หลายๆธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ถึงแม้จะไม่ใช่การทำธุรกิจได้เต็มรูปแบบ และต้องทำธุรกิจภายใต้เงื่อนไขใหม่ๆที่แตกต่างจากเดิม ก็ยังดีกว่า อยู่เฉยๆไม่สามารถทำอะไรได้ไปวันๆ

Part 2. แต่เรื่องที่เกิดขึ้น...

ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งประชาชนทั่วไปและคนทำธุรกิจ ต่างก็เดือดร้อนเนื่องจากขาดรายได้ ขณะที่รายจ่ายยังต้องจ่ายทุกวัน ทั้งอึดอัดขยับตัวทำอะไรไม่ค่อยได้ ทำมาหากินก็ลำบาก จะไปเที่ยวผ่อนคลาย พบปะญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ก็ยังไปไม่ได้ สรุปง่ายๆว่า 2-3เดือนที่ผ่านมาทั้ง “อัดอั้นทั้งอึดอัด!”

แต่เมื่อมาตรการของภาครัฐผ่อนคลาย..

ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือกระตุ้นให้ท่องเที่ยวในประเทศ คนที่พอจะยังมีเงินจับจ่ายใช้สอย ที่อัดอั้นมานาน เริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ กินเที่ยวในสถานที่ที่เปิดให้บริการ (ทั้งภาคกลางวันและภาคกลางคืนที่แอบเปิด)

จำนวนพนักงานที่เคย Work From Home ทยอยถูกบริษัทเรียกให้กลับเข้าสถานที่ทำงานตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สถานศึกษาเริ่มทยอยเปิดในเดือนกรกฎาคม แทบทุกธุรกิจเริ่มกลับมาให้บริการ “เกือบเต็มรูปแบบ” ในเดือนก.ค.

Part 3.เรื่องราวจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ...

ดูเผินๆ แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับสภาวะปกติ แต่จะปกติดีขึ้นเรื่อยๆ หรือ จะกลับมาหยุดชะงักอีกครั้งขึ้นอยู่กับ...เงื่อนไขเดียว!

“จะมีการระบาดระลอกสองในประเทศไทยหรือไม่!?”

“จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทย” ที่เป็นศูนย์มานาน (ไม่นับกรณีนำเข้าและอยู่ในสถานที่กักบริเวณ)

ถ้ายังเป็นศูนย์อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดียาวไป

แต่ถ้ามีผู้ติดเชื้อในประเทศกลับขึ้นมา จากการใช้ชีวิตแบบปกติ ลดความระมัดระวัง กินเที่ยว ทั้งกลางวันและกลางคืน หรือสถานที่ที่ให้ความบันเทิงทั้งหลายกลับมาแออัด จนกลับมาระบาดอีกครั้ง งานเข้า!

Part 4. ความเป็นไปได้ในเดือน ก.ค.- ก.ย.ที่จะถึงนี้...

4.1. มองแบบโลกไม่สวย เมื่อภาครัฐผ่อนคลาย หลายๆธุรกิจเร่งกลับมาหารายได้ชดเชยที่ขาดรายได้ไปในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา

ส่วนภาคประชาชน จากที่อัดอั้นกันมานาน ครั่นเนื้อตัวไม่ได้ออกไป“ใช้ชีวิตให้บันเทิง สรวลเสเฮฮา เหล้ายาครบถ้วน”อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของคนส่วนหนึ่ง (ส่วนใหญ่ในประเทศซะด้วย!)

สรุปง่ายๆว่า ทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชนกลับมาพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม การ์ดตก ขอชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาอย่างเต็มที่

มีความเป็นไปได้ที่ การระบาดรอบสองอาจเกิดขึ้นภายในประเทศ ด้วยสาเหตุต่างๆเช่น มีผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ แต่ไปใช้ชีวิตปกติพบปะผู้คนในสถานที่แออัด สถานบันเทิง หรืออีกกรณีก็เป็นไปได้เช่นกันที่ผู้ที่รักษาหายแล้ว แต่ร่างกายอ่อนแอลง เชื้อกลับมาอีกกลายเป็นผู้ติดเชื้อและแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพ ในต่างจังหวัดที่มีผู้คนแออัด ผ่อนคลายไม่ระมัดระวัง (ลองสังเกตุดูสิครับ คนใส่หน้ากากกันน้อยลง การใช้เจลล้างมือลดลง การวัดอุณหภูมิในสถานที่ต่างๆที่ไปใช้บริการเริ่มปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวดเหมือนที่ผ่านๆมา และคนลืมรักษา ระยะห่าง มากขึ้น!)

นี่ยังไม่รวมสถานการณ์ทาง การเมืองเริ่มกลับมาร้อนแรง ตามสภาวะ"โรคระบาดลดลง โรคกระสัน โรคแก่งแย่งชิงอำนาจทางการเมืองในประเทศ จะพุ่งขึ้นสวนทาง!

ถ้ามีการแพร่ระบาดรอบสองในประเทศ แบบจำนวนมากและควบคุมไม่ได้ งานนี้ทำใจและเตรียมรับมือประคองสถานการณ์ธุรกิจรักษาเงินสด(ที่ยังพอมี)ไว้ให้ดีๆเลยนะครับ

4.2. มองแบบกลางๆ มีระบาดรอบสอง แต่ควบคุมได้

สถานการณ์คล้ายแบบโลกไม่สวย คือมีการระบาด แค่ภาครัฐเตรียมรับมือเพราะคาดการณ์ไว้บ้างแล้ว ก็ทำให้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ จำกัดบริเวณสถานที่ที่ระบาดได้เป็นจุดๆไม่แพร่กระจาย

ในเรื่องของธุรกิจก็คงสะดุดอีกครั้ง แต่ไม่เลวร้ายเท่ากรณีควบคุมสถานการณ์การระบาดไม่ได้ เงินสดยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องประคอง รักษาให้ได้เช่นกัน

4.3. มองแบบโลกสวย. ทุกอย่างไปได้ดี ไม่มีการระบาดรอบสอง

ถ้าเป็นแบบนี้ นอกจากการท่องเที่ยวที่มีโอกาสกลับมาได้บ้างจากการจับคู่กับประเทศที่ไม่มีการระบาดแล้ว ทุกธุรกิจก็จะได้เริ่มกลับมาหายใจหายคอกันได้คล่องขึ้น เป็นเรื่องที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้น

Part.5 .บทสรุป

ขอให้สถานการณ์เป็นแบบที่ 3 แต่ขอให้ทุกท่านเตรียมพร้อมรับมือสำหรับสถานการณ์แบบที่1 และ2 เพื่อความไม่ประมาท เพราะถ้าสถานการณ์กลับมาเลวร้าย ท่านก็จะมีแนวทางรับมือ แต่ถ้าสถานการณ์ออกมาดี ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่เสียหายกับการเตรียมพร้อมรับมือ

แต่ควรระวังสถานการณ์ที่ 2 ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นจะได้ครับ!