ความมั่นคงของชาติด้านสาธารณสุข

ความมั่นคงของชาติด้านสาธารณสุข

เมื่อโรคโควิด-19 เกิดการระบาดไปทั่วโลก หลายๆ ประเทศก็ยังควบคุมการระบาดไม่ได้ ยังมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดเพิ่มขึ้น

หรือเคยควบคุมได้แล้วก็กลับมาระบาดใหม่อีกก็มี จนถึงวันที่เขียนบทความนี้ (22 มิ.ย.) มีจำนวนผู้ป่วยทั่วโลก 9,037,142 คน เสียชีวิตไปแล้ว 469,595 คน รักษาหายแล้ว 4,796,528 คน โดยมีสหรัฐที่มีผู้ป่วยจำนวนมากที่สุด แต่สำหรับไทยนั้นนับว่าสามารถป้องกันการแพร่ระบาดในระดับดี มีผู้ป่วยเพียง 3,000 กว่าคน มีผู้เสียชีวิตเพียง 50 คน หลายประเทศกล่าวยกย่องการควบคุมโรคของไทยที่ปกป้องชีวิตคนได้มากมาย

โลกทุกวันนี้สงบจากภัยสงครามระหว่างคนด้วยกันเอง แต่ทุกประเทศต้องสู้ศึกกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19

ถ้าเป็นสงครามกับมนุษย์ ประเทศก็ต้องเตรียมกองทัพให้พร้อม ทั้งกำลังทหารให้เพียงพอที่จะต่อกรกับข้าศึก มีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ร้ายแรง มีศักยภาพเท่าหรือมากกว่าของข้าศึกศัตรู เพื่อที่จะทำลายล้างข้าศึกได้ มีอาวุธประจำกายเพื่อคุ้มครองตนให้ปลอดภัยจากการปะทะ รวมทั้งฝึกซ้อมไพร่พลให้ชำนาญในการทำศึก เชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ มีการจัดหาเงินเดือน ค่าตอบแทนการเสี่ยงภัย การเยียวยาเมื่อเกิดความสูญเสีย ให้บำเหน็จตอบแทนความดี ความชอบ ความกล้าหาญและเสียสละ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจว่า แม้ตัวตาย ทายาทก็ได้รับการช่วยเหลือเลี้ยงดู 

ประเทศไทยนั้น การเตรียมพร้อมสู้ศึกสงครามกับมนุษย์ กองทัพได้รับการสนับสนุนทุกอย่างดังที่กล่าวข้างต้น

แต่การสู้สงครามกับโรคภัยไข้เจ็บนั้น กำลังพลที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยรบ คือบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข หลากสาขาวิชาชีพ หลายความรู้ความเชี่ยวชาญ ที่เป็นหน่วยส่งเสริมสนับสนุนการทำงานร่วมกัน ตั้งแต่พนักงานทำความสะอาด คนเข็นเตียง ยาม คนขับรถ คนครัว ช่างซ่อม (ซ่อมทุกอย่างตั้งแต่ตู้เตียงยันเครื่องมือแพทย์) ช่างออกแบบห้องไอซียู พนักงานรับโทรศัพท์ พนักงานสถิติและเวชระเบียน พนักงานช่วยเหลือผู้ป่วย พนักงานประชาสัมพันธ์

ตลอดจนถึงพนักงานสาธารณสุข พนักงานห้องแล็ป พนักงานรังสีเทคนิค และอีกหลากหลายสาขาวิชาชีพ ที่เป็นกำลังพลของการสู้ศึกกับโรคและเชื้อโรคต่างๆ นานา

คนเหล่านี้ประมาณ 3 แสนคน ทำงานสู้รบกับข้าศึก เพื่อรักษาชีวิตและสุขภาพประชาชนตลอดเวลา จากความเจ็บป่วยที่มันรุกราน รุกล้ำ ทำลายสุขภาพประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีไปจนถึงชาวบ้านทุกคน และบุคลากรสาธารณสุขก็ไม่เว้น

พวกเขาต้องทำศึกทุกวัน แต่ขาดการสนับสนุนทั้งกำลังใจ อาวุธยุทโธปกรณ์ และการตอบแทนการทำงาน การเสียสละอดทน งบประมาณกลับไม่พอ ขาดแคลน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและบุคลากรต่างๆ ต้องทำงานหนักแล้ว ก็ยังต้องดิ้นรนหาเงินมาสร้างตึก ซื้อเครื่องมือแพทย์ สร้างห้องไอซียู หาเงินส่งคนไปฝึกฝนอบรมให้ทันต่อความรุนแรงของโรคร้ายใหม่ๆ

ถ้าไม่เชื่อไปดูงานโรงพยาบาลไหนก็ได้ ก็จะเห็นว่าตึกต่างๆ ล้วนมีชื่อคนบริจาคแปะอยู่ แม้แต่โต๊ะ เก้าอี้ ก็ยังมีชื่อคนบริจาคติดอยู่ด้วย หลายๆ มหาวิทยาลัยที่มีคณะแพทย์ก็ยังต้องขอบริจาคจากศิษย์เก่า

บุคลากรขาดความก้าวหน้าตามสายงาน ไม่มีตำแหน่งบรรจุ ต้องออกมาเรียกร้องค่าตอบแทน อัตรากำลัง อย่างซ้ำซาก ซ้ำซ้อน แต่ก็ไม่ทำให้ผู้มีอำนาจบริหารสะดุ้งสะเทือน หันมาเอาใจใส่รับฟังเสียงกำลังพล แม้จะมีคำหวานมาปลอบใจว่าจะให้ตำแหน่งบรรจุ ก็มีความลักลั่นไม่สำเร็จสักที

ในยามปกติ กำลังพลสาธารณสุขก็ทำงานสู้ศึกเชื้อโรคแบบนี้มาตลอดเวลา รัฐบาลก็มองไม่เห็น ประชาชนบางคนก็มองไม่เห็น แต่พอเกิดโรคโควิด-19 มีคนเจ็บป่วยล้มตามมากมายในเวลาเดียวกัน หรือใกล้ๆ กัน ทำให้คนทั่วไปหันมาให้ขวัญกำลังใจและสละเวลา เงินทอง สิ่งของให้แก่บุคลากรสาธารณสุขมากขึ้น

แต่กำลังพลสาธารณสุข คนใต้บังคับบัญชาของฝ่ายบริหาร คนที่ต้องทำงานจนมีผลงานโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากไม่ช่วยเหลือเกื้อกูลให้เกิดขวัญกำลังใจแล้ว พวกเขากับฝ่ายบริหารและลูกน้องคนสนิท ทำการกระทืบเกียรติยศและศักดิ์ศรีให้ช้ำใจ ด้วยการย้ายคนดี โยนเขาเข้ากรุอย่างไม่ชอบธรรม ไม่ชอบด้วยระเบียบวินัยและกฎหมาย ค้านสายตา และความเห็นของบุคลากรทั้งองคาพยพ ค้านมติคนทั้งพื้นที่

ฝ่ายบริหารของรัฐคนนี้ นอกจากจะไม่ยอมทำงานตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของตน พูดแต่ว่าจะไม่แทรกแซงลูกน้อง ไม่แทรกแซงงานในระบบ แล้วไปตั้งคณะกรรมการสอบอีกเป็นร้อยๆ ทำไม ไม่เกี่ยวกับการให้ความเป็นธรรมเลย

ทำไมไม่ตรวจสอบเงื่อนงำว่าทำไมบางคนจึงอยากไปสวมตำแหน่งของคนคนหนึ่ง ที่คนทั้งโรงพยาบาลเขาไม่ต้องการ พฤติกรรมเป็นแบบนี้ นอกจากจะไม่พัฒนาระบบของหน่วยงานให้ก้าวหน้ามั่นคงแล้ว กลับกลายเป็นผู้ทำลายความมั่นคงเสียเอง

ถ้ารัฐบาลนี้ไม่ปลดคนแบบนี้ออกจาก ก็สมควรที่พรรคฝ่ายค้านต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ออกไปเสียจากอำนาจ แล้วหาคนใหม่มากำจัดคนพาล อภิบาลคนดี ให้มีขวัญมีกำลังใจทำงาน จัดให้มีอาวุธยุทโธปกรณ์ในการสู้ศึกเชื้อโรค ความเจ็บป่วย ให้ได้รับชัยชนะ เพื่อดูแลพี่น้องคนไทยให้ปลอดภัยจากโรคร้ายต่างๆ ที่อาจจะเกิดอีกไม่ช้าก็เร็ว

โดย... พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา