คนข้างกาย อุปสรรคลุงป้อม?

คนข้างกาย อุปสรรคลุงป้อม?

การหวังเปลี่ยนขั้วกุมอำนาจ พรรคพลังประชารัฐ พรรคการเมืองที่เป็นฐานค้ำยันหลัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เกิดขึ้น

มีการช่วงชิงอำนาจการบริหารพรรค มานับตั้งแต่การกำเนิดของพรรคการเมืองนี้ เมื่อปี 2561 ระหว่างแนวคิดให้ ทีมเศรษฐกิจมาบริหาร กับส่งนายพล สีเขียวมาโดยตรง สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า หากเป็นนายพลสีเขียว ภาพลักษณ์จะชัดเจนว่าเป็น พรรคทหาร

ก่อนและหลังเลือกตั้ง คนใกล้ชิดของ ลุงป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ “ยุ” นายให้ยึดพรรค และนำไปสู่การเสนอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นหัวหน้าพรรค โดยมีลุงป้อม เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคหลังจัดตั้งรัฐบาล เพื่อจะเปลี่ยน “4 กุมาร อันได้แก่ อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ -สุวิทย์ เมษินทรีย์ และกอบศักดิ์ ภูตระกูล สายตรงของสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ออกจากการกุมอำนาจในพรรค เพื่อเป็นบันไดในการ “โละ” ทีมเศรษฐกิจในรัฐบาล

แต่ “ลุงตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เอาด้วยกับเกมนั้น เนื่องจากสถานะของลุงตู่ อยู่เหนือหัวหน้าพรรค จะลงมา “คลุกฝุ่นการเมือง” ให้เปลืองตัวทำไม 

เกมนั้นถูกพับไป เหลือเพียงตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์พรรคให้ลุงป้อม แต่โครงสร้างการบริหารพรรคยังเป็นดังเดิม

เกมใหม่เกิดขึ้นช่วงปลายเดือนเมษาฯ เพราะความคาดหวังว่า ลุงตู่จะมีการปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้ มาจาก คนข้างกายของลุงป้อม ที่เป็นทั้ง เสธ.และนักการเมือง ที่เกาะติดเสมือน “ปลิง” ที่คอยหาประโยชน์ทั้งตำแหน่งและ “กล้วย” ที่ลุงจะหยิบยื่นให้ เลยคิดแผนให้ลุงป้อมยึดพรรครอบใหม่ และวาดหวังว่า ในฐานะคนรอบกาย จะได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรี หรือที่เป็นอยู่แล้ว จะได้สลับเก้าอี้สำคัญขึ้น

เพื่อน-พ้อง-น้อง-พี่ ที่หวังดีกับลุงป้อม พยายามส่งสัญญาณให้ลุงรู้ว่า อย่าเชื่อคนรอบกายที่หวังประโยชน์ และควร “แกะปลิง” เหล่านี้ให้หลุดจากตัว เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ลุงมีปัญหาภายหลังได้ 

โดยเฉพาะการดันไปเสนอว่า อยากให้ลุงป้อมเป็น รองนายกฯ ควบ รมว.มหาดไทย เพราะไป “แตะ” ดวงใจของ ลุงป๊อก -พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ ของ “สาม ป.” มีปัญหาได้

แม้ว่าเกมถูกดับร้อน ด้วยการลงมา “หย่าศึก” ของลุงตู่ ในการส่งสัญญาณชัดให้ “อุตตม-สนธิรัตน์” ทำงานต่อ แต่ถ้าลุงป้อมยังเลี้ยงคนรอบกายประเภท “ปลิง” อยู่ ความขัดแย้งรอบใหม่จะตามมา

หันไปดูคนรอบกาย ล้วนแต่เป็นพวก “รักชาติน้ำลายไหล” มีนักการเมือง 2 คน กำลังรอ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ที่เหลือคือประเภท แบมือขอ “ปัจจัย” และตำแหน่ง อ้างว่าไปดูแล ส.ส.ในกลุ่ม แต่ข่าวในพรรคเต็มไปหมด 

โดยการ ”โวย” ของ ส.ส.รุ่นใหม่ในจังหวัดใหญ่ว่า ไม่ได้รับการดูแลจากพวกที่อ้างว่าเป็นหัวหน้ากลุ่ม และใช้คำว่า “หัวหน้ากลุ่ม” ไปต่อรองกับลุง สรุปคือ “ถูกอม” 

นี่คือความคลาสสิก ของนักการเมืองพวก เขี้ยวลากดินที่ลุงป้อม-ส.ส.รุ่นใหม่ ควรเข้าใจไว้