หาโอกาสในวิกฤติ

หาโอกาสในวิกฤติ

“คนเราไม่ได้จมน้ำตายเพราะตกน้ำ แต่เพราะเราดำดิ่งอยู่ใต้นั้น” ผมขออนุญาตยกข้อความนี้ที่ผมได้เห็นจากเพจ Kanin the movie

เป็น Quote ที่มาจากภาพยนต์เรื่อง Extraction วันนี้ผมอยากชวนทุกคนมาดำดิ่งด้วยกันครับ แต่ไม่ใช่เป็นการดำดิ่งที่อยู่แบบเฉยๆนะครับ แต่จะเป็นการดำดิ่ง เพื่อหาโอกาสในสถานการณ์ Covid-19 นี้ไปด้วยกัน

 ในช่วงเดือนที่ผ่านมาคงไม่มีเรื่องอะไรที่ทุกคนจะเฝ้าติดตามไปมากกว่าเรื่อง Covid-19 กันใช่มั้ยครับ ผมเชื่อว่าแทบทุกธุรกิจต่างก็โดนผลกระทบการเหตุการณ์นี้ ไม่มากก็น้อย มากสุดก็คงจะไม่พ้นธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่ต้องพึ่งพาลูกค้าที่เป็นลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนรวมไปถึงร้านอาหารเล็กตามข้างทาง ที่ก็ต้องปรับเปลี่ยนการขายจากนั่งทานในร้านได้เป็นขายแบบห่อกลับบ้านเท่านั้น หลายๆธุรกิจรายได้ลดลง แต่ในขณะที่ค่าใช้จ่ายยังมีเท่าเดิม ภาระการดูแลตัวเอง หรือการดูแลครอบครัวก็ยังมีเหมือนเดิม ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในช่วงนี้คือการหา Cash flow เพื่อใช้ในธุรกิจให้ได้

ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนๆนักธุรกิจ เพื่อนเจ้าของกิจการหลายท่านในช่วงนี้ สินค้าบางอย่างที่ก่อนหน้านี้อาจไม่ใช่เป็นที่ต้องการของตลาด แต่พอมีวิกฤติครั้งนี้ กลับมีโอกาสที่ทำยอดขาย ได้ New high ผมจะขออนุญาตเล่าให้ฟังซัก 2-3 ธุรกิจนะครับ

ธุรกิจแรก ธุรกิจเครื่องออกกำลังกาย เป็นเพราะช่วงนี้ฟิตเนส สวนสาธารณะก็ต้องปิด แต่เทรนการรักสุขภาพก็ยังมีอยู่ ทำให้ลู่วิ่ง หรือแม้เครื่องเล่น อย่าง Ring fit ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะหลายท่านก็คงยังอยากรักษาหุ่นเอาไว้ เพื่อที่จะยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมได้ในวันที่ต้องกลับไปทำงานปกติจริงมั้ยครับ

ธุรกิจที่สอง ธุรกิจเครือข่าย ตอนที่ผมได้ฟังครั้งแรก ผมก็ยังมีคำถามในใจ ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่เมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของ จึงได้เห็นว่า บางคนส่วนใหญ่จะเลือกธุรกิจเครือข่ายเป็นงาน Part time แต่พอมีวิกฤติ บางคนอาจจะตกงาน หรือบางคนมีเวลาจากการทำงานมากขึ้น จึงมีเวลามาทุ่มเทกับงานนี้มากขึ้น

ธุรกิจที่สาม ธุรกิจขายอุปกรณ์ IT เนื่องจากคนต้อง WFH  กันมากขึ้น จึงต้องมี Notebook หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ทำงานกันที่บ้าน ทำให้ธุรกิจนี้ มียอดขายที่พุ่งขึ้นอย่างมาก

หรือถ้าในต่างประเทศก็คงไม่พ้นการประชุมแบบออนไลน์ที่ทำให้ หุ้นบริษัท Zoom (ตัวย่อ ZM นะครับ อย่าเข้าใจผิดตัว) พุ่งขึ้นอย่างมากมาย และผมเชื่อว่า นี้จะเป็น New normal ใหม่ แม้ว่า Covid-19 จะหายไป แต่การประชุมออนไลน์ก็จะยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ

 แต่ธุรกิจต่างๆที่ผมได้กล่าวไปนั่น ยอดขายอาจเกิดขึ้นจากความต้องการของลูกค้าที่มี แต่มีบางธุรกิจครับที่เค้าเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้อย่างแท้จริง เช่นบางธุรกิจปกติทำอาหารส่งให้โรงแรม ทำให้ตัวเองมี supplier วัตถุดิบคุณภาพอยู่ในมือ ก็เปลี่ยนธุรกิจจากขายอาหารให้โรงแรม มาเป็นส่งวัตถุดิบให้ผู้บริโภคโดยตรง โดยสามารถสั่งผ่าน App แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะมีวัตถุดิบส่งตรงให้ถึงบ้าน เลยไม่น่าแปลกใจเลยครับ ว่าทำไมช่วงนี้เราถึงเห็นมาสเตอร์เชฟเกิดขึ้นเต็มไปหมด เพียงเพราะเจ้าของธุรกิจนี้เห็นโอกาสในวิกฤตินี้ หรือเจ้าของธุรกิจให้เช่ารถ Taxi เจ้าหนึ่ง  ที่เห็นว่าบริษัทขนส่งบริษัทหนึ่งมีกองพัสดุที่ค้างไว้เท่ากองภูเขาเจ้าของธุรกิจให้เช่ารถนั้นจึงเสนอขอนำรถที่ตัวเองมี ไปเป็นรถที่สำหรับส่งสินค้าให้บริษัทขนส่งแห่งนั้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ Win-Win ทั้งสองฝั่งครับ คนขับแท๊กซี่ก็มีรายได้ ลูกค้าของบริษัทขนส่งนั้นก็ได้รับสินค้าตามเวลาที่ต้องการ

มาถึงตรงนี้แล้วท่านผู้อ่านเห็นอะไรมั้ยครับ ในช่วงชีวิตที่หลายๆคนคิดว่าคือช่วงชีวิตที่ดำดิ่ง แต่หากเพียงแค่เราปรับความคิดและมุมมอง หาโอกาสจากวิกฤติในครั้งนี้ แล้วต่อยอดให้ได้ ให้เราเต้นรำไปกับสถานการณ์นี้ ลองมองว่า ตอนนี้ในธุรกิจเราสามารถทำอะไรได้บ้าง ปรับหรือลดอะไรได้บ้าง มี pain point อะไรหรือไม่ที่ธุรกิจของเราสามารถไปแก้จุดตรงนั้นได้ รวมไปถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่อง คือการคิดถึงเรื่องว่าเรามีเงินสดสำรองเท่าไร มีอะไรที่จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินสดได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มี ทองคำที่เราเคยเก็บสะสมไว้ กองทุนต่างๆที่เคยได้ซื้อไว้ ลองลิสต์ออกมาครับ เพราะในมุมมองเชิงการเงิน หลังเหตุการณ์นี้บรรเทาลง เราจะมีโอกาสลงทุนใหม่ได้เพิ่มเติมแน่นอนครับ

สุดท้ายนี้ เหตุการณ์นี้ ก็จะผ่านไปเหมือนหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดมาก่อนหน้านี้ แต่เราจะผ่านมันไปอย่างไร อยู่ที่มุมมองของเราแล้วหล่ะครับ ให้เรามาเลือกเล่นเกมส์มองหาโอกาสในวิกฤตินี้กันนะครับ แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน