หลักธรรมของรัฐ ไม่ประมาทในธรรม ชาติพ้นภัย !!

หลักธรรมของรัฐ ไม่ประมาทในธรรม ชาติพ้นภัย !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา คำว่า ธรรม ในความหมายของพุทธศาสนา คือ ความเป็นธรรมดา

ที่จักเกิดปรากฏอันเป็นไปตามกฎธรรมชาติ ดังที่ว่า เพราะอาศัยสิ่งนี้ สิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น (อิทัปปัจจยตา)” ซึ่งนั่นหมายถึง ธรรม จักต้องแสดงความเป็นเหตุเป็นผลอย่างเป็นธรรมดา

เรื่องราวของ ธรรม จึงแสดงให้เห็นความเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นๆ หรือความเป็นผลนั้นๆ อันเกิดมาจากเหตุปัจจัย ซึ่งสะท้อนความเป็นจริงแท้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผุดปรากฏ หาสาระเที่ยงแท้ในตัวเองมิได้เลย พูดภาษาพระ คือ ไร้ความเป็นอัตตาในสิ่งนั้นๆ อันเป็นการแสดงความจริงขั้นสูงสุดของหลักธรรมตรัสรู้ของพระพุทธองค์ที่เรียกว่า กฎอนัตตา!

การไม่ประมาทในธรรม จึงเป็นยอดแห่งธรรมแท้จริง ธรรมทั้งปวงจึงประชุมลงที่ความไม่ประมาท นั่นหมายถึง การจะคิดทำสิ่งใดจักต้องคำนึงถึงเหตุและผลที่จะเกิดขึ้นตามเหตุที่ก่อขึ้นนั้นเป็นสำคัญ ด้วยเมื่อตั้งใจทำเหตุที่ดี ก็ต้องได้รับผลดีเป็นปกติ แต่หากทำเหตุที่ชั่ว ก็ฉิบหายเป็นธรรมดา ตามกำลังของการกระทำเหตุนั้น

สติ จึงเป็นเครื่องหมายของความไม่ประมาท หมายถึง การจะกระทำสิ่งใดไม่ว่าด้วย กาย วาจา หรือใจ จักต้องมี สติสัมปชัญญะ เพื่อกำหนดรู้ในการกระทำด้วยเจตนาเพื่อสร้างเหตุนั้นๆ

ดังที่เมื่อเรารู้ว่า นี่คือ เหตุแห่งทุกข์ ก็เพื่อสร้างเหตุอันนำไปสู่การสลายเหตุนั้นๆ ให้สิ้น ที่เรียกว่า การดับกรรม ด้วยกรรมตรงข้ามที่เหนือกว่า ดังวิธีการดับกรรมด้วยอริยมรรคอันมีองค์แปดในพระพุทธศาสนา ที่เรียกว่า วิธีปฏิบัติในทางสายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) ซึ่งธรรมวิธีที่แท้จริงของการปฏิบัติ คือ การเจริญสติปัฏฐาน 4 หรือการเจริญสติ เพื่อความรู้ชอบสู่การกระทำที่ชอบ ถูกต้องตรงธรรม เพื่อนำผลแห่งธรรมอันเกิดจากการกระทำตามธรรมที่ตรงเหตุ ไปแก้เหตุอันเป็นสมุทัยของ ความทุกข์

ความทุกข์ เป็นของแสลงของสัตว์โลก รวมถึง โรค ภัย ทั้งหลาย ที่รวมความหมายลงในความทุกข์ ดังเหตุการณ์ในสังคมโลกปัจจุบันที่สัตว์โลกกำลังเผชิญกับความทุกข์อย่างเปิดเผย ด้วยโรคภัยที่ชื่อ ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดแผ่กว้างไปทั่วโลก

แต่ดูเหมือนชาวโลกกำลังมองไปที่ผล จนลืมเหลียวแลดูเหตุ ไม่ว่าเหตุในอดีตที่มาเป็นผลปัจจุบัน หรือ ผลในปัจจุบันที่กำลังแปรรูปเป็นเหตุไปในเบื้องหน้า เพื่อการแสดงความเป็น ธรรม ในธรรมชาติ !!!

แต่ไม่ใช่เรื่องของปุถุชนคนหยาบทั่วไปที่จะทำได้ เมื่อการจะรู้เข้าใจใน ธรรมะ ได้นั้น จักต้องใช้ สติ เป็นเครื่องกำหนด สัมปชัญญะ เป็นเครื่องรู้ เพื่อนำไปสู่ วิริยะ อันเป็นเครื่องปฏิบัติชอบ การสร้างเหตุแห่งปัญหาจึงไม่เคยจบสิ้น จึงได้เห็นการสืบเนื่องของปัญหา ให้สร้างผลที่นำไปสู่เหตุแห่งปัญหาที่ไม่รู้จบสิ้นปัญหาตามกฎลูกโซ่ ด้วยเพราะความไร้สติปัญญา ในการเข้าไปเพื่อดับสิ้นปัญหานั้นๆ ด้วยความเข้าใจในความเป็น ธรรม ในธรรมชาติ !!

การแก้ไขปัญหาอย่างผิดธรรม เพราะขาดสติ จึงเกิดขึ้นในมวลมนุษยชาติอยู่เสมอ ทั้งนี้ เพราะความไม่เข้าใจธรรม ในธรรมชาติเป็นสำคัญที่สุด ปัญหาหรือความทุกข์จึงไม่เคยจบสิ้นจากวงจรชีวิตของมนุษย์ มิหนำซ้ำยังขยายผลเหตุปัญหาจากปัจเจกชนไปสู่ปัญหาของภาคสังคม ด้วยความเป็นมวลรวมของกรรม อันเป็นไปตาม ธรรม ในธรรมชาติ !!

ดังการแก้ไขปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วทุกกลุ่มเผ่าพันธุ์ของสัตว์มนุษย์อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งพอสรุปได้ 2 แนววิธี ได้แก่

1.แก้ปัญหา ตรงเหตุแห่งปัญหา จบปัญหา เพราะเข้าใจ ธรรม ในธรรมชาติ !!

2.แก้ปัญหา ไม่ตรงเหตุแห่งปัญหา นำไปสู่การขยายผลแห่งปัญหา จนไม่จบสิ้นปัญหา เพราะไม่เข้าใจธรรม ในธรรมชาติ !!

ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายในสังคม ประเทศชาติ จักต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในการแก้ไขปัญหาด้วย การเจริญสติ พิจารณารู้ชอบในเรื่องนั้นๆ ก่อนจะปฏิบัติอย่างระมัดระวัง ไม่ก่อปัญหาแทรกซ้อนด้วยการรู้เห็นชัดเจนตรงธรรม ว่า

เหตุอันใด นำไปสู่การสร้างเหตุแห่งกุศลธรรม

เหตุอันใด นำไปสู่การขจัดเหตุแห่งอกุศลธรรมให้สิ้นไป

เมื่อรู้เช่นนี้ พึงทำเหตุ ให้ตรงผล ก็ย่อมได้รับผลที่เป็นธรรม จักยุติปัญหาทั้งปวงโดยธรรม ด้วยการตั้งอยู่ในความไม่ประมาทในธรรมแท้จริง !!

 

เจริญพร