ทางเลือกธุรกิจหลังยุคโควิด-19

ทางเลือกธุรกิจหลังยุคโควิด-19

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้นจะเริ่มมีการพยากรณ์ถึงโลกหลังโควิดกันมากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาถึงของNew Normal และภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย อย่างไรก็ดี สิ่งที่ยังไม่เห็นเท่าไรคือจากภาพในอนาคตดังกล่าวธุรกิจจะมีแนวทางในการดำเนินงานต่อไปอย่างไร เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ได้ลองนำโมเดลทางธุรกิจต่างๆ มาปรับและออกมาเป็นทาง 4 แนวทางที่ธุรกิจสามารถลองนำไปปรับใช้ได้โดยทั้ง 4 แนวทางนี้เป็นกรอบความคิดเพื่อให้ผู้นำองค์กรสามารถพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง โดยไม่สามารถระบุได้ว่าแนวทางใดที่เหมาะสมที่สุดหรือดีที่สุด เนื่องจากสถานการณ์ของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกัน อีกทั้งแต่ละองค์กรก็ไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงแนวทางเดียวเท่านั้น สามารถผสมผสาน ทั้ง 4 แนวทางให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองได้

158840715546

แนวทางแรกเรียกว่า มุ่งมั่น นั้นคือยังคงทำในสิ่งเดิมด้วยรูปแบบเดิมหรืออีกนัยหนึ่งชีวิตหลังโควิด ไม่มีสิ่งใดที่แตกต่างจากยุคก่อนโควิดเลยไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสินค้าบริการที่นำเสนอหรือรูปแบบและวิธีการในการดำเนินงานหรือนำเสนอ ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่ต้องปิดไปเพราะสถานการณ์โควิด เมื่อโควิดผ่านพ้นและกลับมาเปิดบริการได้อีกครั้ง ร้านอาหารดังกล่าวก็ยังขายอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบเดิม(ตั้งโต๊ะเสิร์ฟ) เหมือนยุคก่อนโควิด

ซึ่งองค์กรที่เลือกที่จะมุ่งมั่นก็จะมีข้อดีคือ มีความเชี่ยวชาญในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ แต่ข้อควรระวังคือ ผลเสียของการไม่ปรับตัวแต่ประการใดเลย

แนวทางที่ 2 เรียกว่า เปลี่ยนแปลง นั้นคือยังคงทำในสิ่งเดิมแต่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่นจากตัวอย่างเดิมเมื่อร้านอาหารเปิดให้บริการหลังโควิดแล้ว ยังคงขายอาหารเหมือนเดิมแต่รูปแบบและแนวทางนั้นเปลี่ยนไปนั้นคือ นอกเหนือจากตั้งโต๊ะเสิร์ฟแล้วยังมุ่งเน้นการขายอาหารผ่านทางระบบการจัดส่งหรือDelivery แทนซึ่งแนวทาง“เปลี่ยนแปลง” นี้จะพบได้เยอะจากตัวอย่างรอบๆตัวของธุรกิจที่ต้องปรับตัว เนื่องจากสถานการณ์โควิด ข้อดีคือ เป็นทั้งการเพิ่มทางเลือกเพิ่มช่องทางเพิ่มกลุ่มลูกค้า ข้อควรระวังคือ การลงทุนในระบบใหม่วิธีการใหม่ทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคยและอาจจะส่งผลต่อของเดิมที่ทำอยู่

แนวทางที่ 3 เรียกว่า ขยายตัว เป็นการทำในสิ่งใหม่ (ธุรกิจสินค้าหรือบริการ) แต่ด้วยรูปแบบและวิธีการเดิมๆ เช่นจากตัวอย่างร้านอาหาร ภายหลังหลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นอาจจะเลือกที่จะขยายเข้าไปสู่ธุรกิจชนิดอื่นเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต อาจจะไปเปิดร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้น (เผื่อเกิดโควิดอีกรอบร้านอาหารต้องปิดแต่ร้านสะดวกซื้อยังเปิดอยู่) ซึ่งเป็นการทำในธุรกิจใหม่แต่รูปแบบและวิธีการในการขายของร้านสะดวกซื้อก็ยังเป็นในลักษณะเดิมเหมือนร้านอาหารคือตั้งร้านและรอให้ลูกค้ามาหา

ข้อดีของแนวทางนี้คือ การกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่ยังทำในรูปแบบและวิธีการเดิมๆ อยู่ซึ่งอาจจะไม่ได้เกาะกุมโอกาสจากNew Normal ที่จะเกิดขึ้นเท่าใด

แนวทางสุดท้ายเรียกว่า ริเริ่ม นั้นคือทั้งทำในสิ่งใหม่และด้วยรูปแบบและวิธีการใหม่ๆ จากกรณีตัวอย่างเดิม ร้านอาหารขยายไปทำร้านสะดวกซื้อ แต่แทนที่จะเป็นร้านสะดวกซื้อแบบเดิมที่ต้องมีหน้าร้านและรอให้ลูกค้ามาซื้อของที่ร้าน ก็จะเป็นระบบการสั่งซื้อผ่านทางแอพพลิเคชั่นและส่งของผ่านทางระบบ Delivery แทน

ทางเลือกทั้ง 4 แนวทางข้างต้นเป็นกรอบให้ธุรกิจสามารถคิดได้ว่าเพื่อต้อนรับ New Normal และภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะมีแนวทางในการทำธุรกิจต่อไปอย่างไรขณะเดียวกันไม่ได้มีแนวทางไหนที่ดีที่สุดและธุรกิจก็ไม่จำเป็นต้องเลือกเพียงแค่แนวทางใดแนวทางหนึ่งเท่านั้น สามารถที่จะเลือกใช้ได้อย่างผสมผสาน ซึ่งแนวคิดนี้ก็สามารถปรับใช้แม้กระทั่งในระดับบุคคลที่แต่ละคนสามารถเลือก 4 แนวทางเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไปในยุคหลังโควิดก็ได้