อย่ากระสันแย่งอำนาจ!

อย่ากระสันแย่งอำนาจ!

ท่ามกลางวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่ทำลายชีวิตมนุษยชาติและคนไทย รวมทั้งทำลายวิถีชีวิตผู้คน-ระบบเศรษฐกิจ

ที่รัฐบาลทั่วโลกและรัฐบาลของลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังแก้ทั้งวิกฤติสุขภาพและวิกฤติเศรษฐกิจ กลับเกิดศึก “แย่งชามข้าว” ชิงอำนาจภายในพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล เพียงเพื่อหวังเป็นบันได ไต่สู่อำนาจที่สูงกว่าในคณะรัฐมนตรี

แรงกระเพื่อมเกิดจากความเคลื่อนไหวของกลุ่มบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์พรรค ผ่านการยุยงของนักการเมือง อย่างวิรัช รัตนเศรษฐ-สุชาติ ชมกลิ่น-อนุชา นาคาศัย-สันติ พร้อมพัฒน์-ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ -นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และ ส.ส.พลังประชารัฐหลายคน ที่หวังไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งทางการเมือง ยุให้ บิ๊กป้อม ไล่ อุตตม สาวนายน ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

เมื่อยึดพรรคได้ ก็จะใช้มติพรรคต่อรองกับ ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อให้ปรับ ครม.ให้กลุ่มของ “บิ๊กป้อม” เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลหรือบางคนจะได้ตำแหน่งที่มีบทบาทและกุมผลประโยชน์มากกว่าเดิม

ความคาดหวังของกลุ่มนี้ คือให้ พล.อ.ประวิตร ควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย โดยดีด บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไปเป็นรมว.กลาโหม และหวังให้ สันติ พร้อมพัฒน์ ขึ้น เป็น รมว.คลังโดยมี นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมช.คลัง และ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ หวังย้ายไปเป็น รมว.พลังงาน เอา อนุชา นาคาศัย ขึ้นเป็น รมว.ศึกษาธิการ สุชาติ ชมกลิ่น ขออยู่ที่ไหนก็ได้ แค่ให้เป็นรัฐมนตรี ส่วนวิรัช รัตนเศรษฐ หวังโยกลูกชายออกขาย อธิรัตน์ รัตนศรษฐ ออกจาก รมช.คมนาคม ไปกระทรวงอื่น เพราะอยู่ที่เดิม ไม่ได้ทำงานเนื่องจากเป็นกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกุมอำนาจ

จัด ครม.กันเองเสร็จสรรพ โดยใช้แผนบันไดสามขั้น ยึดพรรค-มีมติพรรค กดดันนายกรัฐมนตรีให้ปรับ ครม. ตามนี้ เพราะรู้ดีว่าถ้าแสดงพลัง หรือเดินไปยื่นข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยปราศจากมติพรรค ความหวังที่ “ฝันใฝ่” คง ได้ ”กินแห้ว” เป็นแน่แท้ จึงเร่งยึดพรรคให้เสร็จสิ้นภายในพฤษภาคม เพราะคาดหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะปรับ ครม.ในเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม เป็นอย่างช้า

แต่คำขอให้ อุตตม ลาออกจากหัวหน้าพรรค ได้รับการปฏิเสธ อย่างไม่มีเยื่อใย จึงให้ เสธ.อ. คนข้างกายบิ๊กป้อม เคลื่อนไหวให้กรรมการบริหารพรรค เกินกึ่งหนึ่ง ลาออกเพื่อ ล้างไพ่เลือกกรรมการบริหารใหม่ เพื่อบรรลุภารกิจ ไล่หัวหน้าพรรค

แต่การเมือง ใครจะยอมให้ถูก “กระทำ” ฝ่ายเดียว เมื่อไม่มีการประนีประนอมกัน กลุ่มสี่กุมาร ของ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่กุมอำนาจการบริหารพรรคปัจจุบัน จึงรวมกลุ่มสู้

นั่นคือฉากตะลุมบอนในศึกพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องถามกันว่า “ใช่เวลาไหม” เพราะ ประเทศชาติ อยู่ในวิกฤติ ประชาชน ลำบากยากแค้น ในวิกฤติโควิด-19 แต่นักการเมืองพรรคพลังประชารัฐ กลับ “แย่งชามข้าว” เพื่ออำนาจตน

ต้องบอกว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่น่ารังเกียจ เมื่อประเทศอยู่ในห้วงความทุกข์ยาก แต่นักการเมืองเหล่านี้ ไม่ทุกข์ยากด้วย ช่วยเอาสมองและโอกาสของท่าน ไปช่วยประชาชนก่อนเถิด เรื่อง “อำนาจ” ค่อยมาแย่งกันได้ไหม

ลุงตู่ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ช่วยจัดการทีเถอะ อย่าทำให้ ประชาชี รำคาญนักการเมืองแบบนี้เลย วิกฤติที่เกิดขึ้น ชาวบ้านก็เครียดแล้ว อย่ามาให้ติดตามข่าวนักการเมืองฟัดกัน เพื่อแย่งชามข้าวอีกเลย ... น่าเบื่อ!