หัวหน้าพรรคการเมืองบางคนเป็นแค่หุ่นเชิด หรือตัวแทนเชิด

หัวหน้าพรรคการเมืองบางคนเป็นแค่หุ่นเชิด หรือตัวแทนเชิด

ไม่รู้มีใครสังเกตหรือเปล่าว่าพรรคการเมืองไทยนี่มีลักษณะแปลกๆ เรามีพรรคร่วมรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านจริง

แต่ผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ๆ กลับไม่ใช่หัวหน้าตัวจริง

ไล่เลียงพรรคใหญ่อันดับหนึ่งคือ พรรคเพื่อไทย คนเป็นหัวหน้าพรรคดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไร นอกจากอ่านคำเปิดอภิปรายในสภา ไม่เคยทำกิจกรรมในนามพรรค ไม่เคยแสดงออกในแนวคิดการทำงานของพรรค ในการรณรงค์หาเสียง ไม่เคยแสดงความเป็นผู้นำในทางการเมือง แต่คนที่ทำงานจริงๆ กลับเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทน หรือ ส.ส. ไม่ได้อยู่ในสภา ไม่ได้มีสิทธิออกเสียง แต่เป็นคนรณรงค์ตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้ง เป็นผู้แถลงการทำงานให้ประชาชนทราบ ทำเรื่องใหญ่ๆ เป็นผู้ระดมกำลังช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุบัติภัย

มาดูพรรคอันดับ 2 คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่คนเป็นหัวหน้าเก็บตัวเป็นโลว์โปรไฟล์อย่างไม่น่าเชื่อ เกือบไม่แสดงความเห็นอะไรในที่สาธารณะ ไม่แสดงบทบาทผู้นำพรรค นอกจากงานในกระทรวงที่รับผิดชอบกระทรวงเดียวในขณะที่ผู้ที่ทำงานออกโรงเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค สื่อเข้าหาอยากรู้อะไรต้องถาม ใครมีปัญหาอะไรต้องถามประธานที่ปรึกษา จะตอบหรือไม่ตอบเป็นเรื่องของท่าน อารมณ์ดีก็ตอบอารมณ์ไม่ดีก็บอกว่าไม่ทราบ ไม่มีใครไปถามหัวหน้าพรรคตัวจริง

พรรคใหญ่อันดับ 3 คือ พรรคอนาคตใหม่ กลายเป็นว่าผู้ที่ทำหน้าที่หัวหน้ากลายเป็นเลขาธิการพรรค เป็นหัวหอกในการทำงานในรัฐสภา เป็นผู้ที่ตอบคำถามสื่อ รวมทั้งเรื่องแผนงานของพรรคในการเลือกตั้งท้องถิ่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ อะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ แม้ว่าจะมีรองหัวหน้าพรรคหลายคน แต่ไม่มีใครขึ้นมารักษาการเป็นปากเป็นเสียง เก็บตัวเงียบ เอาตัวเองปลอดภัยไว้ก่อน คนอื่นช่างมันหัวหน้าพรรคตัวจริงกลับไม่ได้ทำอะไรมากกว่าดิ้นไปดิ้นมาในร่างแหขลุกขลักๆ ถูกห้ามเข้าประชุมสภา ถูกกล่าวหาร้อยแปดพันเก้า ได้แต่เดินสายไปพูดกับคนต่างชาติ แต่คนในชาติในพรรคไม่ได้พูดด้วย เป็นหัวหน้าที่ง่อยเปลี้ยเสียขา มีสภาะเป็นเป็ดง่อยทางการเมือง

คนที่ทำหน้าที่ในสภาจริงๆ ของทั้งพรรคเพื่อไทยก็ดี พรรคพลังประชารัฐก็ดี พรรคอนาคตใหม่ก็ดี กลายเป็นคนระดับรอง ไม่ได้มาจากประชาชนโดยตรง ไม่มีความรู้ความสามารถระดับชาติ ได้แต่เป็นแค่ตัวแทนเชิด เป็นหุ่นเชิดให้หัวหน้าตัวจริงไปวันๆ ทำเรื่องรูทีน ไม่ใช่เรื่องนโยบาย ไม่ใช่เรื่องกลยุทธ์ ไม่ใช่เรื่องระดับประเทศ ไม่ใช่แผนระยะยาว ดูไปดูมาแล้วก็ออกจะแปลก....หรือใครว่าไม่แปลก

ฉะนั้น คนที่ไปพูดๆ อะไรในสภาในนามพรรคนั้น ก็คงไม่ใช่ในฐานะผู้นำจริงๆ เป็นแค่หุ่นเชิดของคนอื่นเท่านั้นคนเหล่านี้คงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมากนัก เพราะคงไม่ต่างกับหุ่นที่ถูกชักใยจากคนเชิด อ้าปากเหมือนคนเชิดให้อ้า ร้องรำทำเพลง ทำท่าทำทางตามที่คนเชิดชักใย

ไม่รู้บ้านเราเมืองเราจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร ในเมื่อคนที่ควรจะเป็นผู้นำไม่ได้นำ แต่คนที่นำไม่มีภาวะผู้นำเรื่องนี้ ถ้าเป็นกฎหมายเรียกว่าตัวแทนเชิดที่คนที่เชิดจะต้องรับผิดเหมือนคนที่ถูกเชิดด้วย จะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ แต่ในทางการเมืองคงไม่สามารถสาวไปเอาผิดได้ ทั้งๆ ที่การกระทำของผู้ถูกเชิดนั้นทำตามผู้เชิดเป็นประเทศกูมีที่ไม่เหมือนใครอีกเรื่องหนึ่ง