'อดตาย' จะแรงกว่าโควิด!

เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการสถานการณ์ ทำให้สถานการณ์การติดเชื้อของไทยดูดีกว่าหลายๆ ประเทศในโลก จึงได้รับคำชมจากหลายประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การอนามัยโรค (WHO)

แต่การบริหารตัวเลขผู้ติดเชื้อ และชื่นชมกับจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างเดียว “ไม่ใช่ชีวิตจริง” เพราะตัวเลขที่ดีขึ้น คือความร่วมมือเชิงถูกบังคับของคนไทยส่วนใหญ่ ที่ยอมหมดอาชีพ หยุดทำงานเพราะกลัว “โควิด” จึงให้ความร่วมมือในมาตรการ “บังคับให้ร่วมมือ” ของรัฐบาล

แต่นานวันเข้า เงินสะสมที่มีเพียงเล็กน้อยพอประทังชีวิตในช่วงแรกกำลังหมดลง “ความจริงของชีวิต” กำลังมา “ไม่มีจะกิน” จะออกไปทำมาหากินก็ไม่ได้ 

การช่วยเหลือของรัฐบาล นอกจากจะเล็กน้อยแล้ว “ยังไม่ทั่วถึง” จึงเห็นภาพคนที่เดือดร้อน บุกไปร้องขอความเป็นธรรมในมาตรการ “เราไม่ทิ้งกัน 5,000 บาท” ถึงกระทรวงการคลัง โดยไม่กลัวโควิด 

คนแห่เข้าคิวขายทองคำ เพื่อเอาเงินมาประทังชีวิต รวมถึงข่าวการ “ฆ่าตัวตาย” เพราะหนีการอดตาย เริ่มมีให้เห็นเรื่อยๆ 

หากรัฐบาลปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้อีกต่อไป จะมีคนจำนวนไม่น้อย ลุกขึ้นมาและจะบอกว่า “ไม่กลัวโควิด แต่กลัวอดตาย”มากขึ้น 

ถึงวันนั้น อย่าว่าแต่ขอความร่วมมือ ในการบังคับใช้มาตรการ ลดการแพร่เชื้อมฤตยูเลย ต่อให้บังคับเข้มข้นอย่างไร ก็จะมีการฝ่าฝืนมาตรการเหล่านั้นมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็น “จุดหักเห” ที่จะทำให้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นจน “เอาไม่อยู่” ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับบางประเทศ

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องไม่ละเลยบริหารแค่สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 อย่างเดียวเท่านั้น จะต้องบริหาร “ชีวิตจริง” ของคนไทย 67 ล้านคน ที่เขา “ต้องมีกิน” มาตรการต่างๆ ที่เยียวยา ช่วยเหลือ “แก้อดตาย” ต้องเร่งให้ได้รับการเยียวยาจริง และทั่วถึงจริง

ส่วนฝ่ายการเมืองที่ “เห่าหอนกระตุกขา” ความช่วยเหลือของรัฐบาลที่จะถึงคนไทยทั้งแผ่นดินอย่าไปสนใจให้มากนัก คนพวกนี้ไม่เข้าใจ “ความอดตาย” เพราะร่ำรวยอยู่บนความทุกข์ยากของพี่น้องคนไทยมาเนิ่นนาน 

ถ้าใส่ใจคำ “เห่าหอน” ของพวกนี้มาก การช่วยเหลือเยียวยา คนไทยที่กำลังจะ “อดตาย” ก็จะล่าช้า 

ถึงวันนั้น คนที่กำลังจะอดตาย จะเป็น “ปัจจัย” เปลี่ยนสถานการณ์ในทุกสิ่ง ทั้งโควิด-19 และรัฐบาล “ลุงตู่”!