ฝันไปถึงโลกหลัง COVID-19

ฝันไปถึงโลกหลัง COVID-19

ขณะที่องค์กรจะต้องปรับตัวเพื่อรับมือต่อผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

แต่ขณะเดียวกันก็จะมีผู้บริหารและองค์กรบางแห่ง ที่นอกเหนือจากจะมุ่งแก้ไขปัญหาในระยะสั้นแล้ว กลับถือโอกาสนี้มองไปในระยะยาว ว่าภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแล้ว องค์กรจะต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากโควิดนี้อย่างไร

ทาง IMF ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่าในปี 2020 นี้ ทั่วโลกจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งอาจจะรุนแรงกว่าช่วงวิกฤติทางการเงินเมื่อปี 2008-2009 ขณะเดียวกันบรรดาหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยก็เริ่มพยากรณ์กันแล้วว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ที่ -5% เป็นอย่างน้อย ส่วนการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจโลก ทาง IMF ก็ระบุว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2021 แต่จะเริ่มจากบางประเทศก่อนเท่านั้นเอง

ดังนั้น แผนระยะปานกลางถึงยาวสำหรับหลายๆ องค์กร (รวมทั้งของประเทศไทย) คงจะต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถรองรับต่อการถดถอยทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก

ขณะเดียวกันการเติบโตในด้านดิจิทัลเทคโนโลยีจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากสถานการณ์โควิดทำให้ทุกภาคส่วนได้เห็นถึงความจำเป็นของดิจิทัลเทคโนโลยีในอดีตความสำคัญของดิจิทัลเทคโนโลยีอาจจะเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป แต่การปรับตัวและเปลี่ยนแปลงนั้นจะยังเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่จากสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้ทั้งองค์กรและคนจะต้องปรับตัว โดยนำดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาใช้กันมากขึ้น จนขั้นถึงมีคำกล่าวว่าสถานการณ์โควิด-19 กลายเป็นตัวแปรที่ทำให้หลายๆ องค์กรเกิด Digital Transformation ได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ยิ่งกว่าผู้บริหารเองเสียอีก

นอกจากนี้ ดิจิทัลเทคโนโลยีก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนแบบที่ไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน โดยได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตคน ทั้งในด้าน การทำงาน การเรียนหนังสือ การสั่งซื้อสินค้าและอาหาร และคาดกันว่าภายหลังจากสถานการณ์คลี่คลายแล้วการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19 ก็จะไม่ได้จางหายไป แต่จะยังฝังอยู่และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคนและทุกองค์กร

อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังของการพึ่งพาดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างมากในโลกหลังโควิดนั่นคือ ความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นความเสี่ยงสำคัญที่อยู่แล้วก่อนหน้าสถานการณ์โควิดจะเกิดขึ้น แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงและมีการเติบโตในการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีมากขึ้น ความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ก็จะมีมากขึ้น อีกทั้งจะพบเจอภัยทางไซเบอร์ในรูปแบบที่หลากในรูปแบบที่แตกต่างและหลากหลายไปจากเดิม

อีกหนึ่งผลพวงจากสถานการณ์โควิดและการเติบโตของดิจิทัลเทคโนโลยี คือการเติบโตและความสำคัญของธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระที่ทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ ไม่เกิดการขาดแคลน อีกทั้งกลายเป็นเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงให้สินค้าและอาหารต่างๆ ไปถึงมือผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังนั้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อีกทั้งประชาชนมีความคุ้นชินต่อการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในการได้มาซึ่งสินค้าและอาหาร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน ก็จะทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์มีการเติบโตและทวีความสำคัญมากขึ้นไปอีก

อีกธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเป็นที่สนใจมากขึ้นในโลกหลังโควิด คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะโรงพยาบาลหรือบริษัทยาเท่านั้น ความสำคัญในเรื่องของการดูแลสุขภาพอนามัยจะเป็นกระแสที่ต่อเนื่องจากยุคโควิด ทุกประเทศและทุกคนจะเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ และระบบสาธารณสุขมากขึ้น ทำให้ประเทศต่างๆ ก็จะเร่งยกระดับโครงสร้างด้านสาธารณสุขของตนเอง ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจะมีความสำคัญยิ่งขึ้น

โลกหลังโควิดยังคงมีอีกหลายมุมมองที่ต้องคิดถึง ประเด็นสำคัญคือจะต้องหาทางแก้ไขปัญหาสถานการณ์เฉพาะหน้าที่กำลังเกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องอย่าลืมคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวด้วย