ข้อมูลแบบเรียลไทม์คือสิ่งที่ต้องให้ความสนใจในเวลานี้
ที่ผ่านมา ผมและคนกลุ่มหนึ่งที่ทำงานด้านดิจิทัล แต่ละคนต่างมีเจตนาและไอเดียที่ดี ที่สำคัญมีข้อมูลจำนวนมากอยู่ในโลกออนไลน์ ได้รวมตัวกันตั้งกลุ่มขึ้นมาทำงานด้านดิจิทัลเกี่ยวกับเรื่องไวรัส COVID19 ชื่อ Thailand COVID19 Digital Group (TCDG) พื้นที่ตรงนี้เราได้มีการแลกเปลี่ยนและนำข้อมูลมารวมกัน น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรดี ๆ ที่จะเกิดขึ้น
ซึ่งตอนนี้ได้มีทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมด้วย โดยเราแบ่งออกเป็นหลายเรื่อง อาทิ แอปพลิเคชันในการติดตามกลุ่มเสี่ยง จุดจำหน่ายหน้ากากอนามัยและแอลกอออล์ การประสานงานของเจ้าหน้าที่รัฐกับคนในชุมชน ฯลฯ ได้มีการออกแบบเฟรมเวิร์คทางด้านดิจิทัลขนาดใหญ่ขึ้น อย่างการเก็บข้อมูลคนที่เดินทางเข้าประเทศตรงจุดตรวจคนเข้าเมือง
ในส่วนภาครัฐบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เองได้มีแอพพลิเคชันที่ติดตามนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยแล้ว และยังสามารถระบุตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องบินหากบุคคลใดมีการติดเชื้อก็สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงสายการบิน ที่นั่ง บุคคลรอบตัว และมีใครอยู่ในลำนั้นบ้าง และเรายังได้รับความร่วมมือจาก NECTEC นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพของไทยมาช่วยทำระบบการวิเคราะห์บิ๊ก ดาต้าและอื่น ๆ อีกด้วย
ดังนั้น เมื่อพูดถึงแอพพลิเคชันแผนที่ที่ระบุตำแหน่งของคนติดเชื้อโควิด-19 อยากให้คนที่จัดทำแน่ใจว่าข้อมูลที่ใช้นั้นเป็นข้อมูบลแบบที่เป็นทางการจริง ๆ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากภาครัฐ เพราะการไประบุตำแหน่งที่ลึกจนเกินไปก็อาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ และอาจส่งผลกระทบต่อบุคคลหรือสถานที่ที่เกี่ยวข้องได้
เรียกได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรก ๆ ที่นำเอาระบบติดตามผู้ป่วยในลักษณะนี้มาใช้ (ยกเว้นจีนที่เขาใช้ไปแล้วเพราะมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมาก) ตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ของประเทศในการข้อนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์คนกลุ่มเสี่ยง
หากได้รับความร่วมมือจากโอเปอเรเตอร์จะทำให้ติดตามคนเหล่านั้นได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะคนกลุ่มเสี่ยงไม่จำเป็นต้องลงแอพพลิเคชั่นใด ๆ แค่รู้เบอร์โทรศัพท์เขาก็สามารถติดตามได้แล้ว แม้ว่าจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์แต่ก็ยังสามารถติดตามได้จากหมายเลขบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต จุดนี้เองทางกลุ่มได้ตั้งคณะทำงานเพื่อผลักดันให้เครื่องมือตัวนี้ออกมาโดยเร็วที่สุด
การร่วมมือกันของคนไทยเรากันเอง ไม่ว่าจะเป็นใครหรือกลุ่มใดก็ตาม ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก บางครั้งเราจะรอแต่ทางภาครัฐอย่างเดียวคงไม่ทันการณ์แน่ ๆ ตอนนี้เหล่าคนที่มีความรู้ด้านดิจิทัลได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กันมากขึ้น มีการรายงานข้อมูลตำแหน่งข้อมูลของคนที่ติดเชื้อโควิด-19 รายงานการเชื่อมโยงของคนที่ติดเชื้อจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ปัญหาของการทำแผนที่คือการระบุตำแหน่งผู้ป่วยนั้นมีความอ่อนไหวต่อพื้นที่มาก ข้อมูลที่ปักลงไปในพื้นที่มักเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วมีการทำความสะอาดหรือจัดการเรียบร้อยไปแล้ว ไม่ใช่เหตุการณ์แบบเรียลไทม์จริง ๆ การปักหมุดอยู่อย่างนั้นส่งผลต่อทั้งพื้นที่ตรงนั้น ธุรกิจ และคนที่อาศัยอยู่ในย่านนั้นอย่างแน่นอน
ข้อมูลแบบเรียลไทม์คือสิ่งที่ต้องให้ความสนใจ เพราะข้อมูลมีการเปลี่ยนไปตลอดเวลา ข้อมูลที่แชร์กันบนโซเชียลมีเดียคือข่าวในอดีตที่เกิดไปแล้ว พื้นที่ตรงนั้นได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น เราควรสนใจข้อมูลในปัจจุบันมากกว่าว่า พื้นที่ไหนบ้างที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ข้อมูลบางอย่างมีความละเอียดอ่อน สุดท้ายจึงเกิดเป็นแพลตฟอร์ม www.th-stat.com ช่องทางหลักในการนำเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ในการรายงานข้อมูลผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยง ผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงฯ
https://covid19.ddc.moph.go.th นี่คือผลงานความร่วมมือของภาคประชาชนกับภาครัฐ ที่เป็นความภูมิใจอย่างหนึ่งของผมและทีมงาน เราจะรอดด้วยกันครับ