ถึงเวลา…รวมพลังฝ่าวิกฤต

ถึงเวลา…รวมพลังฝ่าวิกฤต

ทุกวันนี้ เราต่างทราบกันดีว่า “โควิด-19” เป็นโรคอุบัติใหม่ ที่แพร่ระบาดอยู่ในเกือบ 180 ประเทศทั่วโลก

โดยประชากรกว่า 7.5 พันล้านคน กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจ ตลาดเงินตลาดทุน และอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้น ผมจึงขอพักบทความเรื่องการลงทุนเอาไว้ก่อน และอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นหนึ่งกระบอกเสียงเพื่อช่วยต้านวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน

นับตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. จนถึงปัจจุบัน การระบาดของโควิด-19 ยังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกได้ทะลุครึ่งล้านเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (7.2 แสนราย ณ 30 มี.ค. 2563) และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อีกหลายหมื่นชีวิตถูกสังเวยให้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและมักมีโรคประจำตัว รวมถึงคนไข้ที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทันท่วงที เนื่องจากบุคลากรและอุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะในประเทศอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส หรือแม้แต่เยอรมนี ที่มีสัดส่วนหมอต่อประชากร 1,000 คน สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 3.5 ของประเทศในกลุ่มโออีซีดี อีกทั้ง รัฐบาลของประเทศเหล่านี้ยังทุ่มงบประมาณแต่ละปีในด้านสุขภาพเป็นสัดส่วนที่มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 8.8% เช่นเดียวกันเมื่อเทียบกับจีดีพี (อ้างอิง: Health at a Glance 2019, OECD)

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความบกพร่องในจิตสาธารณะเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ระบบบริการด้านสาธารณสุขล้มเหลวในหลายประเทศ เพราะคนบางกลุ่มยังคงเพิกเฉยต่อคำแนะนำขั้นพื้นฐานหรือข้อควรปฏิบัติจากผู้เชี่ยวชาญระหว่างที่มีการระบาดของโควิด-19 เช่น การไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน การหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์/เจล/สบู่ และการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองและผู้อื่นจากเชื้อไวรัส เป็นต้น รวมถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม/ทางกายภาพ ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วหลายต่อหลายครั้งว่าสามารถช่วยยับยั้งความรุนแรงของการระบาดได้จริง ยังเป็นสิ่งที่เราทุกคนพึงปฏิบัติอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อระหว่างเครือญาติ คนใกล้ชิด หรือเพื่อนร่วมงาน

สำหรับคำแนะนำการลงทุนรอบนี้ ในแง่ของ การกระจายสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ก็คงจะต้องเน้นๆ ไปที่ตราสารหนี้ หรือพันธบัตรระยะสั้น และทองคำ ส่วนสินทรัพย์เสี่ยงคงต้องเลี่ยงไปก่อน แต่สำหรับผู้ที่ยังมีตราสารทุน กับตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว ถ้าหากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ปัจจัยพื้นฐานดี ผมว่า ถือไปก่อนถ้าเราไม่รีบร้อนใช้เงินนะครับ เพราะรอบนี้ ไม่มีใครทำผิดพลาดจนทำให้ธุรกิจพังพาบลงไป ถ้าหากคลังจะมีออกมาแบบแรงๆ และ ยาวๆ เพื่อให้ผ่านช่วงสำคัญนี้ไปได้หลายอย่างน่าจะคลี่คลายลง หากตัดสินใจอย่างตื่นตระหนก อันนั้นแหละจะทำให้เสียหายเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นะครับ

ขอส่งท้ายเรื่องโควิด-19 อีกนิด เราทุกคนทราบว่าไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าการระบาดจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ หรือต้องใช้เวลาพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสอีกนานเท่าใด แต่ในฐานะภาคประชาชน หากเราทุกคนร่วมใจกันคนละไม้คนละมือ ปฏิบัติตนตามคำแนะนำ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” อย่างเคร่งครัด ก็เสมือนว่าทุกคนได้เป็นส่วนหนึ่งในการพิชิตโควิด-19 เพื่อช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปพร้อมๆกันครับ ขอให้ทุกคนโชคดี ปลอดจาก โควิด 19 นะครับ