ฟังคุณหมอ เลิกเชื่อนักการเมือง!

ฟังคุณหมอ เลิกเชื่อนักการเมือง!

 ภาพการระดมคุณหมอชั้นนำของประเทศไทย มาระดมสมองเพื่อออกชุดมาตรการ ในการสกัดกั้นการขยายวงของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โรคโควิด-19 

 โดยลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะ และมีนายแพทย์ระดับสุดยอดของเมือง 5 ท่าน เข้าร่วมให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะ โดยปราศจากนักการเมืองและนักการทหารเข้าร่วม เมื่อช่วงกลางวัน วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ถูกต้องในการรับมือ วิกฤตการณ์ครั้งนี้

เพราะคณะบุคคลที่ร่วมวงประชุม คือกลุ่ม หมอที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นระดับอาจารย์หมอของเมืองไทย ผู้สร้างหมอขึ้นมาในประเทศนับหมื่นชีวิตให้ทำงานต่อประเทศชาติ ประกอบด้วย

1) ศ.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

2) ศ.นพ.อุดม คชินทร อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อดีต รมช.กระทรวงศึกษาฯ

3) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์"

4) ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์แพทย์อายุรศาสตร์ นายกแพทยสมาคม

5) ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ นายกแพทยสภา

ทั้งหมดถูกเรียกตัวด่วน เพื่อคุยกับนายกรัฐมนตรี ในการให้คำปรึกษาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

พวกเขาไม่ใช่แค่บรมครูของหมอทั้งประเทศ หากแต่ยังมีชื่อเสียงระดับโลก ด้านวงการแพทย์อีกด้วย จากนั้นเราจึงเห็นมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลออกมา โดยเฉพาะกับการประกาศไม่ให้หยุดสงกรานต์วันที่ 13-15 เมษายนนี้ ซึ่งมันมีความหมายอย่างมาก ต่อการหยุดแพร่ระบาด เพราะมาตรการนี้จะช่วยให้เกิดการหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายคน อันเป็นอีกปัจจัยของการกระจายไวรัส

รวมทั้งมาตรการปิดสถานบันเทิง สนามกีฬา และที่ที่ผู้คนคับคั่ง 14 วัน เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อมฤตยูร้าย เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ระยะที่ 3 ของการระบาดช้าที่สุด เพื่อความพร้อมทั้งสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ในการรับมือ

การรับฟังและเชื่อในมาตรการของคุณหมอระดับเกจิ และออกชุดมาตรการเป็นการมา ถูกทางแต่ปัญหาเรื่องการสื่อสารที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะนายกรัฐมนตรีเชื่อคุณหมอด้วยนั้น จำเป็นต้องปรับปรุง ต้องหานักสื่อสารชั้นยอดในการสื่อความกับประชาชนในภาวะวิกฤติ เพราะบรรดาคุณหมอเก่งในการป้องกันและรักษา แต่คุณหมอก็ไม่เก่งเรื่องการสื่อสาร ลุงตู่ “ต้องรู้จักเลือกใช้คน”

แต่อย่าไปเอานักการเมืองมายุ่งกับทั้งมาตรการและการสื่อสาร เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ ดีแต่ พ่นน้ำลายและอาจจะเป็นน้ำลายพิษที่ทำให้การทำงานของรัฐแย่ลงไปอีก

วันนี้ เราต้องใช้สรรพกำลังคนเก่ง คนต้องการช่วยประเทศในภาวะวิกฤติที่ดีๆ มีอีกเยอะ ลุงตู่เลิกใช้คนแวดล้อมข้างตัวที่มี “วาระซ่อนเร้น” หลากหลายประการเถิด