ก้าวไกล (แค่ไหน?)

ไม่ว่าจะเป็นตัวหัวหน้าพรรคอย่าง “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือในส่วนของเลขาพรรคอย่าง “ต๋อม”ชัยธวัช ตุลาธน เพื่อนรักร่วมอุดมการณ์“เอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถือว่าออกหน้าฉากอย่างเต็มตัว

จังหวะก้าวย่างของ “ก้าวไกล”และ “50ส.ส.”(อีก4คนยังไม่ได้เขียนใบสมัคร )ที่ใช้ยุทธศาสตร์ “แยกกันเดินร่วมกันตี” กับ “อดีต16กก.บห.” นำโดย “เอก” ธนาธร และ “ป็อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล พรรคอนาคตใหม่ทั้งในสภาฯและนอกสภายังเป็นจังหวะที่ต้องจับตา เพราะอย่างไรเสีย “ก้าวไกล” ก็ยังหนีไม่พ้นการอยู่ภายใต้เงาของ “ธนาธร” และ“ปิยบุตร”

ขณะที่ตัว “ทิม” เองซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่า “ก้าวไกล” ถือเป็นบทบาทที่สองของอนาคตใหม่ ยังมีหลายโจทย์ที่ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับบทบาทจากการเป็น “ส.ส.ดาวรุ่ง” ขึ้นแท่น “ผู้นำพรรค”ในการคุมเกมในสภาในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน 

ในประเด็นนี้ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมา จนกระทั่งศึกล่าสุดคือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ6รัฐมนตรี อดีตส.ส.อนาคตใหม่ซึ่งปัจจุบันสังกัดพรรคก้าวไกลถือว่าแจ้งเกิดไปหลายคนทั้งตัวทิมเองหรือ ส.ส.ไม่ว่าจะเป็น วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ,พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ทั้งหมดก็มาจากการวางหมากโดย“ธนาธร” และ “ปิยบุตร” แทบทั้งสิ้น

เช่นเดียวกับการรักษาสัมพันธ์ภาพ สมานรอยร้าวพรรคร่วมฝ่ายค้านซึ่งสั่นคลอนไปก่อนหน้านี้ จนถึงขั้นที่อดีตแกนนำพรรคอนาคตใหม่อย่าง “ธนาธร” จะต้องเข้าไปเป็นเจ้าภาพปิดร้าน เลี้ยงข้าวเคลียร์ใจแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ถือเป็นอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ที่ทิมจะต้องเผชิญ เพราะในสภาวะที่เสียงฝ่ายค้านเหลือเพียงแค่ประมาณ210เสียง การจับมือร่วมทีมยังเป็นผลดีมากกว่าการเป็นฝ่ายค้านอิสระ

ขณะที่อีกหนึ่งโจทย์ที่ท้าทายของ “ทิม” ในฐานะผู้นำพรรค หนีไม่พ้นการจัดแถวส.ส.ภายในพรรค ในสภาวะที่มีการเปลี่ยนขั้ว ถูกดูด ถูกซื้อตัวอย่างไม่หยุดหย่อน และยังมีปัญหาความไม่ลงรอยภายในพรรค อย่างกรณีล่าสุดคือกรณีของ “คารม พลพรกลาง” ที่ก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีดราม่าออกจากไลน์กลุ่มส.ส.และอาจไม่ไปต่อกับพรรค ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนใจอยู่ต่อในวินาทีสุดท้าย

ห้วงเวลานี้จึงถือเป็นการวัดฝีมือและพิสูจน์ตัวเองของทั้งตัว “ทิม” และทีมกก.บห.รวมถึง“50ส.ส.” ว่าจะสามารถนำพรรคก้าวไกลไปได้ไกลแค่ไหน!!