วิกฤติที่แสนคิดถึง !

วิกฤติที่แสนคิดถึง !

'โคโรน่าไวรัส' อาจเป็น 'คำตอบสุดท้าย'

มีคำกล่าวในหมู่นักลงทุนว่า วิกฤติมักเกิดขึ้นทุกสิบปี อันหมายถึงการเกิดวิกฤตการณ์บางอย่างที่ส่งผลต่อตลาดหลักทรัพย์อย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้ ในช่วง 2-3 ปีหลัง ซึ่งเป็นเวลาประมาณหนึ่งทศวรรษหลัง 'วิกฤติการเงิน' ปี 2008 หลายคนจึงตั้งคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่า 'วิกฤติจะมาเมื่อไร'

และแล้ว ก็มีทีท่าว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือ 'โคโรน่าไวรัส' อาจเป็น 'คำตอบสุดท้าย' ต่อคำถามดังกล่าว เห็นได้จากดัชนีทั่วโลกที่ดิ่งลงเหวกันเละเทะ ผมจึงอยากฝากข้อคิดสั้นๆ ให้ท่านปรับไปใช้กับการลงทุน ดังนี้ครับ

1) เขียน Wish List ของคุณไว้ ระบุให้ชัดว่าเล็งหุ้นตัวไหนไว้บ้าง หากราคาตกลงมาถึงเท่าไรจะซื้อเป็นจำนวนเท่าไร รวมแล้วมีงบสำหรับหุ้นตัวนี้เท่าไร เป็นสัดส่วนเท่าไรของพอร์ท ลองร่างภาพรวมของพอร์ทที่ต้องการออกมาเลยยิ่งดี

2) เตรียมกระสุน หากคุณมีเงินสด จงเตรียมไว้ให้พร้อม แต่หากไม่มี และจำเป็นต้องขายหุ้นที่มีเพื่อเอาไปซื้อตัวอื่น ก็ต้องชั่งน้ำหนักว่าหุ้นตัวไหนมีโอกาสเติบโตน้อยที่สุดแล้วขายตัวนั้น

3) อย่าพยายามหาจุดต่ำสุด คุณไม่มีทางรู้ว่าก้นเหวอยู่ที่ไหน อย่าพยายามหา เชื่อเถอะว่า 'ไม่มีใครรู้หรอก'

4) ดูหุ้นเป็นรายตัว หากจะลงทุนในหุ้นตัวไหน ให้ศึกษาพื้นฐานของกิจการและจับตาความเคลื่อนไหวของหุ้นตัวนั้นๆ อย่ารอจนวันที่หุ้นตกทั้งตลาดแล้วซื้อสะเปะสะปะ

5) ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ อย่าคิดว่าหุ้นตัวหนึ่งๆ ไม่มีทางตกลงไปมากกว่าจุดนั้นจุดนี้ ในเวลาวิกฤต ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ

6) อย่าหลงไปกับการรีบาวด์ เวลาหุ้นถูกกดให้ต่ำลงมาเรื่อยๆ พอมีข่าวดีเพียงเล็กน้อย มันจะดีดกลับขึ้นแรงมาก ซึ่งไม่ได้แปลว่าวิกฤตผ่านไปแล้ว และบางครั้งอาจเกิด 'Head & Shoulders Pattern' คือตกถึงจุดหนึ่งแล้วก็หันหัวกลับขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ หลายคนนึกว่า 'คราวนี้ของจริง' จึงโดดเข้าไปซื้อ แล้วดัชนีก็ตกหนักอีกครั้ง ดังนั้น อย่าเพิ่งทุ่มสุดตัว แต่จงดูให้ดีก่อน

7) ซื้อแล้วอย่าคิดมาก เราไม่มีทางซื้อได้ที่จุดต่ำสุด อย่าอิจฉาใครถ้าเขาซื้อได้ถูกกว่าเรา บั่นทอนจิตใจเปล่าๆ

8) เน้นหุ้นพื้นฐานดีสุดๆ เวลาเช่นนี้ คุณไม่ต้องไปเสี่ยงกับกิจการที่อนาคตไม่แน่นอน เพราะหุ้นพื้นฐานดีมันก็ถูกอยู่แล้ว เมื่อโอกาสทองมาถึงแล้วจะเสี่ยงไปทำไมเล่า?!

สุดท้าย หากครั้งนี้คือวิกฤติจริง ขอให้ท่านอย่าพลาดโอกาส อย่าหนีไปไหน เพราะมันคือวิกฤติที่เราแสนคิดถึง และรอคอยมายาวนานเหลือเกินมิใช่หรือ?