แอปสั่งอาหารกับอำนาจของการรวมศูนย์

แอปสั่งอาหารกับอำนาจของการรวมศูนย์

ในหนึ่งปีที่ที่ผ่านมา คงมีน้อยคนที่ไม่เคยใช้ หรือกระทั่งไม่รู้จัก แอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่

แอปสั่งอาหารเหล่านี้ ได้เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเริ่มดิสรัปต์พฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล

อาหาร มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งของปัจจัยสี่ เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และไม่สามารถขาดได้ การดิสรัปต์ห่วงโซ่ของงปัจจัยสี่ย่อมมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการดำรงชีวิตของมนุษย์

ในด้านบวก แอปสั่งอาหาร ช่วยแมตช์ ลูกค้า กับ ร้านอาหาร และอำนวยความสะดวกด้วยการขนส่ง เป็นการเพิ่มรายได้ช่องทางใหม่ให้กับร้านอาหาร นอกเหนือจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่เดินทางมาที่ร้าน

จนกระทั่ง เกิดเป็นธุรกิจใหม่ของร้านอาหารประเภทเวอร์ชวล หรือ ครัวผี(Virtual Resturants, Ghost Kitchens, Cloud Kitchensฯลฯ)ที่ไม่มีหน้าร้าน แต่มีผลิตอาหารสำหรับส่งลูกค้าที่สั่งผ่านแอปแต่เพียงอย่างเดียว

แต่ในด้านลบ เริ่มมีการกล่าวถึงในต่างประเทศ จนกระทั่งได้มีการเสนอกฎหมายออกมากำกับดูแล

โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า แอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ที่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งกลายมาเป็นธุรกิจขนาดยักษ์ มีอำนาจของการรวมศูนย์ จนร้านอาหารโดยทั่วไป ปราศจากอำนาจในการต่อรอง เพื่อเงื่อนไขที่เป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ โดยความไม่เป็นธรรมดังกล่าว ประกอบไปด้วย

การหักค่าหัวคิวที่อาจไม่เป็นธรรมกับร้านอาหารการให้บริการเดลิเวอรี่โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของร้านอาหารการไม่แชร์ข้อมูลของลูกค้าที่ปลายทางให้กับร้านอาหาร

สำหรับกรณีที่1.และ2.คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก แต่สำหรับกรณีที่3.นั่นหมายความว่า ร้านอาหารเหล่านี้ นอกจากจะไม่มีปฏิสัมพันธ์ตรงกับลูกค้า แต่ยังจะไม่รู้ด้วยว่า ลูกค้าที่ปลายทางนั้นเป็นใคร มาจากไหน มีโปรไฟล์อย่างใด โดยข้อมูลบิ๊กดาต้าของลูกค้าทั้งหมด จะถูกเก็บอยู่ที่ ผู้ให้บริการแอปสั่งอาหารเดลิเวอรี่

เพราะร้านอาหารจะรู้จักเพียง พนักงานเดลิเวอรี่ที่เดินเข้ามารับออเดอร์ในร้านเท่านั้นและได้สูญเสียความสามารถที่จะติดต่อโดยตรงกับลูกค้าที่ปลายทาง

ล่าสุด รัฐแคลิฟอร์เนีย แห่งสหรัฐอเมริกา ได้มีความพยายามที่จะออกกฎหมายอาหารเดลิเวอรี่ที่เป็นธรรม (Fair Food Delivery Act)หนึ่งในเงื่อนไขนั้นบังคับให้แอปต้อง1.ขออนุญาตร้านอาหารก่อนการให้บริการเดลิเวอรี่และ2.ส่งต่อข้อมูลของลูกค้าให้กับร้านอาหาร เช่น ชื่อ ที่อยู่ และ อีเมล์ ฯ

ไม่เพียงเท่านั้นโรดไอแลนด์ซึ่งเป็นอีกรัฐหนึ่งในสหรัฐ ก็มีความพยายามที่ออกกฎหมายที่คล้ายกันในอีกไม่ช้านี้

อย่างไรก็ดี เรื่องราวดังกล่าวยังไม่ได้เกิดเป็นข้อถกเถียงในประเทศไทย แต่ก็เป็นสิ่งที่สมควรติดตาม ว่าการดิสรัปต์พฤติกรรมการบริโภคอาหารในยุคดิจิทัล จะวิวัฒนาการต่อไปในรูปแบบอย่างไร