"โลกาภิวัตน์และโรคาภิวัตน์"

"โลกาภิวัตน์และโรคาภิวัตน์"

การติดต่อค้าขายและเปลี่ยนเศรษฐกิจและวัฒนธรรมแบบโลกาภิวัตน์(globalization)ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

แต่ที่ค่อนข้างแน่นอนคือปริมาณจะเพิ่มทวีคูณอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นวัตกรรมใหม่เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริการ การบริโภคขยายวงกว้างแทบทุกมุมโลก 

โลกาภิวัตน์ยุคแรกๆย้อนอดีตถึงสมัยที่ประเทศที่เจริญและเข้มแข็งกว่าแสดงพลังขยายอิทธิพลออกไป ยกตัวอย่างจักรพรรดิจีนส่งกองทัพเรือไปสำรวจและแผ่บารมีแถบเอเชียจนถึงชายฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกา หรือชาวตะวันตกหลายประเทศซึ่งแข่งขันกันออกมาหาสินค้าแปลกใหม่ส่งผลต่อเนื่องไปถึงการล่าอาณานิคมแทบทั่วโลก

เมื่อมีการเดินทางข้ามถิ่นไปในดินแดนใหม่เชื้อโรคก็อาศัยพาหะติดตามไปและทำให้เกิดการเจ็บป่วยโดยคนพื้นเมืองซึ่งขาดภูมิต้านทานของโรคชนิดนั้น ตัวอย่างกรณีของนักสำรวจและล่าอาณานิคมชาวยุโรปซึ่งโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์แพร่เชื้อโรคไปสู่ดินแดนใหม่ซึ่งปัจจุบันคือทวีปอเมริกาและมีหลักฐานว่าชาวพื้นเมืองล้มตายไปเป็นจำนวนถึง 90%ในระยะเวลาประมาณสี่ศตวรรษ

โลกาภิวัตน์ช่วงที่สองประมาณโดยสังเขปนับหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วจากยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือซึ่งมีความเข้มแข็งทางการทหารและนวัตกรรม เสนอตัวทำหน้าที่ในการเป็นมหาอำนาจจัดการกติกาเศรษฐกิจและความมั่นคง จึงนำมาสู่การส่งออกโลกาภิวัตน์จากตะวันตกสู่ตะวันออก(West to East)จนถึงปัจจุบัน 

นับวันการติดต่อสื่อสารและสัมผัสระหว่างมนุษย์ชนทั่วโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้น ทั้งนั้นเป็นเพราะนวัตกรรมของการคมนาคมและการบริหารธุรกิจสากลมีประสิทธิภาพส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันข้ามประเทศข้ามทวีป การทำธุรกิจและการท่องเที่ยวกลายเป็นกิจวัตรที่เป็นปกติธรรมดา จากเดิมเคยเดินทางใกล้ตามความจำเป็นกลับเปลี่ยนเป็นเดินทางไกลและบ่อยมากขึ้น เมื่อมีโรคระบาดเกิดขึ้นจากส่วนหนึ่งของโลกก็เป็นธรรมดาที่การระบาดจะกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว 

ผลกระทบของโรคระบาดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน (West Nile Virus, Swine Flu, HIV& AIDS, Ebola, etc.) แม้ว่าเราจะควบคุมได้ทุกครั้งแต่ก็เป็นเพียงการผ่อนหนักให้เป็นเบาและยากที่จะกำจัดให้หมดไปได้ โอกาสที่จะเกิดขึ้นอีกก็คงจะค่อนข้างแน่นอนซึ่งยากที่จะรู้ว่าที่ไหนเมื่อไหร่

ไวรัสCovid-19 ที่กำลังเผชิญอยู่ปัจจุบันนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ตะวันออกกำลังจะส่งอิทธิพลไปตะวันตก(East to West) หมายถึงโลกาภิวัตน์ที่กำลังจะเริ่มเข้าสู่ยุคของการส่ง ข้อมูล สินค้า การลงทุนและบุคลากรจากเอเชียไป อเมริกาและยุโรป 

ประเทศต่างๆในโลกพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากเชื่อมโยงระบบกันหมด การคมนาคมมีประสิทธิภาพสูงมากทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกและประหยัด สินค้าในท้องตลาดมีรายการให้เลือกมากเนื่องจากการขนส่งและระบบบริหารสินค้าและการเงินการธนาคารมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะการพัฒนาเพิ่มเติมตลอดเวลาโดยหลักการของโลกาภิวัตน์ ยกตัวอย่างเทศกาลตรุษจีนเฉพาะในประเทศจีนมีการเดินทางถึง 2.4พันล้านเที่ยวและหากนับจำนวนการเดินทางของประชากรในประเทศใกล้เคียงก็คงเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก ชาวต่างชาติที่ทำธุรกิจและอยู่อาศัยในบริเวณที่เริ่มระบาดรวมถึงนักท่องเที่ยว เมื่อไวรัสเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่นตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมและเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นอาจบกพร่องในการวิเคราะห์และอาจเกรงกลัวในการรายงานให้กับรัฐบาลกลาง จนปัญหากลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก ถึงแม้จะมีการพยายามกักบริเวณประชากรหลายล้านคนการแพร่ของเชื้อโรคนี้ก็ไป 20 กว่าประเทศและส่งผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งภาพพจน์ของประเทศจีนเป็นมูลค่าที่ประเมินไม่ได้ 

ประเทศออสเตรเลียซึ่งมีนักศึกษาจากประเทศจีนประมาณแสนคน ก็ต้องหามาตรการด่วนเพื่อป้องกันการระบาดของโรคเนื่องจากจะเปิดเทอมปลายเดือนกุมภาและต้นเดือนมีนานี้ นักศึกษาจากต่างประเทศเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากของมหาวิทยาลัยซึ่งหากเรื่องนี้ไม่สรุปอย่างรวดเร็วก็จะกระทบถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความอยู่รอด 

การประชุมนานาชาติที่สิงคโปร์ก็เป็นกรณีตัวอย่างของการกระจายโรคานิวัตน์โดยผ่านโลกานิวัฒน์ เชื้อโรคที่ติดต่อจากสิงคโปร์ข้ามไปถึงห้าประเทศรวมทั้งเกาหลีใต้และสเปน

เรือสำราญซึ่งล่องอยู่ในน่านน้ำหลายประเทศในเอเชียและเทียบท่าที่ญี่ปุ่นมีผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่นานาชาติรวม 3500 คนเกิดโรคติดต่อครั้งนี้ 218คน อีกลำหนึ่งมีคนบนเรือ 2200 คนซึ่งในที่สุดได้ขึ้นเทียบถ้าที่เขมรก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อนี้เกินกว่า 20 คน

นอกเหนือจากเชื้อโรคยังมีปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการผลิตและบริโภคตามกระแสสากลเช่นเรื่องมลภาวะในดิน น้ำและอากาศซึ่งเกิดขึ้นจากแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆซึ่งเร่งรีบผลิตสินค้าป้อนตลาดโลก การใช้รถยนต์เชื้อเพลิงไม่สะอาด การใช้ปุ๋ยเคมี เป็นต้น ซึ่งผลกระทบข้างเคียงก็คือคุณภาพชีวิตที่ลดลงเพราะการบั่นทอนโดนมลภาวะต่างๆจากฝุ่นจิ๋วจนถึงแม่น้ำที่โสโครกแสารเคมีในอุตสาหกรรมเกษตรฯลฯ

โลกาภิวัตน์จากตะวันตกสู่ตะวันออก หลายสิ่งหลายอย่างเป็นประโยชน์เพราะมีการถ่ายทอดความรู้และการพัฒนาต่างๆที่เป็นประโยชน์มาสู่ประเทศที่กำลังพัฒนาและเสริมคุณภาพชีวิตให้อยู่อาศัยด้วยความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีผลข้างเคียงที่เป็นปัญหาตามมาเช่นอาหารสำเร็จรูปยารักษาโรคบุหรี่แอลกอฮอล์และสิ่งฟุ่มเฟือยต่างๆซึ่งกลายเป็นความนิยมเกินความจำเป็นเกิดปัญหาของเศรษฐกิจส่วนตัวและสุขภาพที่เสื่อมโทรม

ตัวอย่างข้างต้นเป็นสัญญาณเตือนให้เราต้องเตรียมพร้อมเสมอว่าเศรษฐกิจและสังคมตามแนวโลกาภิวัตน์จะต้องมีอุปสรรคและเราจะต้องไม่ประมาท ปัญหาหรือสิ่งท้าทายจะไม่มีขอบเขตจำกัดว่าเกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้นเพราะเป็นสิ่งที่แพร่หลายเป็นสากล(global problems) เพราะฉะนั้นวิธีการแก้ปัญหาก็ควรเป็นความร่วมมือโดยทุกฝ่ายในโลก(global solutions)

จีนซึ่งเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจเป็นอันดับสองของโลก(รองจากอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง)นั้นมีแนวโน้มว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ภายในอีกไม่กี่ปีนี้และประเมินว่าจะมีการเปลี่ยนเป็นอินเดีย ซึ่งหลายสถาบันโรคได้ประเมินว่าประมาณปีค.ศ. 2060 จะมีประชากรถึง 1.7พันล้านคนและจะมีนวัตกรรมเพียงพอที่จะผลักดันให้อินเดียกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเป็นอันดับหนึ่งและจีนจะเป็นอันดับสอง 

โลกาภิวัตน์ยุคต่อไปภายในอีกไม่กี่ปีนี้จะเป็นกระแสของการแพร่อิทธิพลและความเจริญจากเอเชียไปสู่ยุโรปและอเมริกา ซึ่งประเทศใกล้เคียงสองมหาอำนาจนี้รวมทั้งไทยซึ่งโดยภูมิรัฐศาสตร์และความใกล้ชิดทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกับจีนและอินเดียมาเป็นเวลานานแล้วและมีชาวจีนโพ้นทะเลมากที่สุดในโลกก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการรับผลกระทบทุกด้าน ทั้งทางบวกและทางลบ

ในช่วงวิกฤติไวรัสใหม่ครั้งนี้ ขอชมเชยผู้นำประเทศไทยภาครัฐและภาคเอกชนที่ได้ใช้วิจารณญาณและความหนักแน่นในการประคับประคองความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและขณะเดียวกันดูแลถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน ทั้งที่นับวันเศรษฐกิจกำลังจะย่ำแย่ตั้งแต่การท่องเที่ยวการคมนาคมธุรกิจการเกษตรส่งออกจนถึงอุตสาหกรรมใหญ่ต่างๆ ซึ่งกำลังโดนมรสุมหนัก เราเคยผ่านวิกฤติใหญ่มาหลายครั้งแล้วและครั้งนี้ก็จะไม่เกินความสามารถของเราได้ 

สำหรับผู้อ่านหลายท่านวิกฤติครั้งนี้ก็อาจเป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินใจรอบคอบและถี่ถ้วนในการวางยุทธศาสตร์ของชีวิตให้พร้อมกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นไดอีก หากธุรกิจหรือวิชาชีพที่ท่านกำลังทำอยู่ในปัจจุบันมีความเสี่ยงสูงก็อาจเป็นโอกาสที่ดีในการปรับทิศทางใหม่ ขออวยพรให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤตินี้มีสุขภาพกายใจและเศรษฐกิจครอบครัวสมบูรณ์และสมดุลย์ครับ