นักการเมืองอย่าทำชาติพัง!

นักการเมืองอย่าทำชาติพัง!

มี 3 เรื่องร้อนทางการเมือง ที่ทำให้คนในชาติ เกรงว่านักการเมืองจะทำให้ประเทศเกิดวิกฤติครั้งใหญ่ ซ้ำเติมทุกข์ยากของประชาชน

เรื่องแรก การเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.ผู้ไม่รักษาเกียรติยศ และหน้าที่ของความเป็นตัวแทนปวงชน ชาวไทย

เริ่มต้นจาก ส.ส.ภูมิใจไทย ที่ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดโปงพฤติกรรมอันไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ของ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย สองคน คือ ฉลอง เทอดวีระพงษ์ และนาที รัชกิจประการ ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจชาติ ที่กฎหมายงบประมาณต้องค้างเติ่ง หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล ทำได้แค่ ตักเตือน ลูกพรรคที่มอบสิทธิการใช้อำนาจผู้แทนปวงชนชาวไทยไปให้ผู้อื่นทำหน้าที่แทน แล้วความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ใครต้องรับผิดชอบ หรือคนไทยต้องรับกรรมกันเอง

ต่อมาเรื่องเสียบบัตรแทนกันลามไปถึง ส.ส.ภูมิใจไทย คนอื่นและ ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ส่งผลให้ งบประมาณแผ่นดินยังออกประกาศใช้ไม่ได้ รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าจะมีทางออกอย่างไร นี่คือความเสียหายทีเราคนไทยไม่ควรยอมรับการที่ ส.ส.มีพฤติกรรมเลวร้ายเยี่ยงนี้ ต้องมีมาตรการลงโทษและไม่ควรยินยอมให้คนทำผิดกติกาเช่นนี้เป็นผู้แทนปวงชนอีกต่อไป.

เรื่องร้อนเรื่องที่สองคือ การวินิจฉัยคดีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่ ที่จะจบด้วยการยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง กรรมการบริหารพรรคหรือไม่อย่างไร ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่เล่นเกม ยื้อ ขอเลื่อนการชี้แจงไปเรื่อยๆ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนให้ไปครั้งหนึ่งแล้ว จึงยื่นขอเลื่อนรอบสอง แค่คราวนี้ศาลยืนตามวิธีการพิจารณา ไม่ให้เลื่อน และนัดวินิจฉัยในวันที่ 21 ก.พ.นี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าระทึกใจอย่างยิ่งทางการเมือง ว่าจะไปต่อหรือหยุดแค่นี้สำหรับกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และการเดินเกมบนท้องถนนแทนในสภาจะเกิดขึ้นอย่างไร ต้องจับตา

ร้อนสุดท้ายคือ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีทั้ง 6 คน (รวมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) เป้าหลักหาใช่รัฐมนตรี อีก 3 คน แต่เป้าหลักพุ่งไปที่ 3 ป. ( ประยุทธ์ ประวิตรและอนุพงษ์) 3 ทหารเสือที่สร้างแค้นสั่งฟ้าให้กับฝ่ายค้านในปัจจุบันที่ถูกโค่นอำนาจ เมื่อปี 2557 และเป้าใหญ่พุ่งตรงไปที่พลเอกประยุทธ์เป็นแน่แท้ รัฐมนตรีคนอื่นเป็นแค่ “น้ำจิ้ม” เท่านั้น

แต่ 3 เรื่องนี้จะร้อนแค่ไหน ขอทำนายว่าประเทศเดินต่อได้ ถ้านักการเมืองคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และไม่ซ้ำเติมประเทศชาติให้วิกฤติไปกว่านี้