กาฝาก

กาฝาก

ถ้อยแถลง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ประกาศ แยกตัว ไม่ใช่ ลาออก จากพรรคเศรษฐกิจใหม่ นับว่าไม่เหนือความคาดหมาย

“มิ่งขวัญ” ฉลาดพอที่จะเลือกใช้คำว่า แยกตัว ไม่ใช่ “ลาออก” เนื่องจากผลต่างกันลิบลับ เพราะหากใช้คำว่า ลาออกจะทำให้ มิ่งขวัญพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ทันที เนื่องจากรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบ กำหนดว่า ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง

 ด้วยเหตุนั้น “มิ่งขวัญ” จึงเลี่ยงใช้คำพูดเป็น “...ในเมื่ออุดมการณ์ไปด้วยกันไม่ได้ ผมจะไม่ร่วมอุดมการณ์กับพรรคเศรษฐกิจใหม่ต่อไป ขอประกาศแยกทางจากพรรคเศรษฐกิจใหม่อย่างเด็ดขาด ส่วนพรรคเศรษฐกิจใหม่จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของพรรคเศรษฐกิจใหม่”

 อีกครั้ง ในตอนนักข่าวถามว่า จะลาออกหรือไม่ “มิ่งขวัญ” บอกว่า “...ถ้าลาออกวันนี้ ผมก็ไม่มีสิทธิอภิปรายไม่ไว้วางใจ และ คนจำนวนครึ่งล้านเลือกเข้ามา ถ้าผมลาออก คนครึ่งล้านจะคิดอย่างไรกับผม และผมไม่ได้ยึดติดกับการเป็นรัฐบาล เรื่องลาออก ถ้าพูดตรงๆ ก็ไม่ได้ยึดติด แต่ถ้าผมได้ทำประโยชน์กับประชาชน จะให้ผมทำต่อหรือไม่ หรือถ้าอยากให้ผมออก ก็ให้พรรคเศรษฐกิจใหม่ขับผมออกได้ และคงไปอยู่กับพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน”

 เรียกว่า ทำการบ้านมาดี ไม่ลาออก แต่จะให้พรรคมีมติขับออก ซึ่งจะทำให้ มิ่งขวัญหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน สถานะจากนี้ไป จึงน่าสนใจว่า มิ่งขวัญจะยังอาศัยคราบความเป็นส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ เปรียบเป็น กาฝากในพรรคเศรษฐกิจใหม่

 โดยท่าทีของ “มิ่งขวัญ” ไม่ได้มีผลทางการเมืองต่อทั้งฝ่ายใดทั้งสิ้น แต่เป็นเป็นผลประโยชน์ส่วนตนของ “มิ่งขวัญ” ล้วน ๆ คือสนองตัณหาตนเอง โดยไม่ใส่ใจมติพรรคต้นสังกัดที่ประกาศลาออกจากพรรคร่วมฝ่ายค้านไปแล้ว

 ในเชิงอุดมการณ์ส่วนตน “มิ่งขวัญ” อาจจะอ้างใครต่อใครได้ว่า จะยังอยู่กับฝ่ายค้าน แต่สำหรับ “มารยาท” ทางการเมืองนั้น เป็นคนละเรื่อง ในเมื่อพรรคลาออกจากฝ่ายค้านแล้ว “มิ่งขวัญ” ก็ไม่ต่างอะไรกับ “ข้าวนอกนา” ในพรรคฝ่ายค้าน

 เรื่อง “มิ่งขวัญ” เป็นเพียงสีสันการเมือง บทบาท “กาฝาก” พรรคเศรษฐกิจใหม่ มิอาจใช้เสียงเดียวต่อรองอะไรได้ ยกเว้นเป็น “เบี้ย” บนกระดานการเมือง

 ศึกซักฟอกรัฐบาล ของพรรคฝ่ายค้าน มือใหม่และอ่อนพรรษาในยามนี้ ประเด็นเศรษฐกิจ จึงต้องฝากผีฝากไข้กับ ส.ส.กาฝากคนนี้ไปพลางก่อน