วันนี้ไม่ใช่วันนั้น !

วันนี้ไม่ใช่วันนั้น  !

การลงทุนก็เป็นเช่นเดียวกับการป้องกันไวรัส คือเมื่อหวังพึ่งใครไม่ได้ ก็ต้องคิดเอง พึ่งพาตัวเอง

ประเด็นหลักอันเป็นที่พูดคุยกันเวลานี้ในหมู่นักลงทุน คงหนีไม่พ้นเรื่องของวิกฤตไวรัสโคโรนา ที่เริ่มต้นระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งได้ลากเอาตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งหุ้นไทยดิ่งลงเหวไปด้วย

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา SET Index ปรับตัวลดลงเยอะมาก และมากกว่าดัชนีของหลายๆ ประเทศ สาเหตุสำคัญน่าจะเป็นเพราะประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคเหมือนในแผ่นดินมังกร

หากจะกล่าวถึงโอกาสในการลงทุนท่ามกลางวิกฤตครั้งนี้ ในความเห็นของผม ตลาดหุ้นไทยเองก็ปรับตัวลงเยอะอยู่แล้วก่อนที่จะเกิดไวรัสโคโรนา ต่างจากตลาดหลักๆ ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาที่ขึ้นเอาๆ และทำนิวไฮหลายครั้ง

ในส่วนของหุ้นไทยที่ปรับลดลงมา ผมขอแยกออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ ประเภทแรกคือ หุ้นที่เกี่ยวพันกับการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงพึ่งพาตลาดจีน เช่น หุ้นสนามบิน หุ้นโรงแรม หุ้นของกินของใช้ที่ขายให้คนจีน อาทิ เครื่องสำอาง ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ

หุ้นกลุ่มนี้ ต้องยอมรับว่า 'ดูยาก' เพราะเรายังไม่รู้ว่าผลกระทบอันเกิดจากวิกฤตไวรัสครั้งนี้จะรุนแรงขนาดไหน และผลที่สะท้อนเข้ามาในราคาหุ้นถือว่าพอสมพอควรแก่เหตุหรือยัง ในเมื่อ 'เหตุ' เป็นเรื่องของอนาคตที่ยังไม่ชัดเจน 'ผล' จึงยากที่จะคาดคำนวณได้

หุ้นอีกประเภทหนึ่ง คือหุ้นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างๆ ข้างต้น แต่ถูกลากลงตามตลาด หุ้นเหล่านี้เองที่เป็นโอกาสให้เราสามารถเข้าลงทุน โดยต้องเลือกเฉพาะหุ้นพื้นฐานดี ที่แม้ราคาอาจไม่ 'ถูก' มาก แต่ปรับตัวลดลงมาเมื่อเทียบกับค่า P/E ของตัวมันเองในช่วงหลังๆ

ข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งก็คือ สมัยที่ผจญกับโรค SARS ดัชนี MSCI World ปรับลดลงราว 10 เปอร์เซ็นต์ และใช้เวลาราวหนึ่งเดือนจึงกระเตื้องกลับมา ขณะที่ตลาดหุ้นไทยลงหนักถึง 21 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็กลับมาได้และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะรัฐบาลไทยเวลานั้นสกัดการแพร่ระบาดของโรค SARS ได้อยู่หมัด ถ้าครั้งนี้เป็นเหมือนครั้งนั้น ก็คาดได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสทำกำไรงามๆ จากวิกฤตครั้งหนึ่งเลยก็ได้

อย่างไรก็ตาม วันนี้ไม่ใช่วันนั้น การจัดการกับวิกฤตโรคระบาด พ.ศ. นี้ มีประสิทธิภาพหรือไม่อย่างไร เป็นการจัดการอย่างนักบริหาร ใช้การแก้ปัญหาแบบบูรณาการ หรือแก้ปัญหาไปวันๆ แบบรัฐราชการ คำตอบคงมีให้เห็นกันอยู่แล้ว และผลลัพธ์ที่ออกมาก็อาจจะแตกต่างกันค่อนข้างมาก

นี่คือความเสี่ยงใหญ่ที่แขวนคออยู่ ซึ่งทุกคนที่หวังจะฉวยโอกาสจากวิกฤตครั้งนี้ควรระลึกไว้ในใจ เพราะการลงทุนก็เป็นเช่นเดียวกับการป้องกันไวรัส คือเมื่อหวังพึ่งใครไม่ได้ ก็ต้องคิดเอง พึ่งพาตัวเอง

จะไปฝากชีวิตกับใครที่ไหนไม่ได้เลย