ยังดีอยู่!

ยังดีอยู่!

All is well! เป็นคำที่ประธานาธิบดีทรัมพ์ทวีตหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานทัพสหรัฐในอิรักในวันที่ 8 ม.ค.

แต่หลังจากตลาดตื่นตกใจในช่วงแรก เหตุการณ์ก็ได้สงบลงรวดเร็ว กระแสข่าวจากสหรัฐที่ว่าไม่มีผู้เสียชีวิตและความเสียหายมีจำกัด และส่งสัญญาณไม่ตอบโต้กลับ ทำให้ความเสี่ยงลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาทองคำและน้ำมันปรับลดลง ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐสูงขึ้น เช่นเดียวกับราคาหุ้นโลกที่ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง

ในภาพใหญ่ สถานการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนโลกยังคงเป็นขาขึ้นเชิงวัฐจักร (Cyclical upswing) เห็นได้จากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อโลกทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการที่ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่การส่งออกของจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่ถูกมองว่าเป็นเครื่องชี้วัดภาคการค้าโลก) หดตัวน้อยลงหรือขยายตัวดีขึ้นกว่าที่นักวิเคราะห์คาดทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางชั้นนำ  ต่าง ๆ ยังคงทำอย่างต่อเนื่อง

ด้านสถานการณ์ต่าง ๆ ก็ดูดีขึ้นชัดเจน ในส่วนของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิหร่านนั้น แม้การสังหารผู้นำทางทหารคนสำคัญและเป็นที่รักของประชาชนชาวอิหร่าน ทำให้ความโกรธแค้นมีมากขึ้นและอาจนำไปสู่ความรุนแรง แต่พัฒนาการในช่วงหลังช่วยลดทอนความรุนแรงของเหตุการณ์ได้ กล่าวคือ

(1) การตอบโต้ของอิหร่านที่ยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานทัพสหรัฐนั้น ทางอิหร่านได้ส่งสัญญาณเตือนก่อน ทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต

(2)  การที่กองทัพอิหร่าน ยิงเครื่องบินของสายการบินยูเครนตก และทำให้ผู้โดยสาร 176 คน เสียชีวิต ทำให้กระแสสังคมเริ่มตีกลับไปที่กองทัพอิหร่าน และลดทอนกระแสต่อต้านสหรัฐลงบ้าง

(3) การที่ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี เริ่มส่งสัญญาณรุนแรงขึ้นให้อิหร่านกลับมาที่โต๊ะเจรจา มิฉะนั้นอาจนำไปสู่การผลักดันให้สหประชาชาติคว่ำบาตรเศรษฐกิจอิหร่าน ทำให้ความเป็นไปได้ที่จะกลับมามีการเจรจาอีกครั้งในกรณีของอิหร่านมีมากขึ้น

อีกเหตุการณ์ที่สำคัญ คือการลงนามข้อตกลงสนธิสัญญาการค้าเฟสแรกของสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นไปตามที่มีกระแสข่าวก่อนล่วงหน้า คือสหรัฐจะลดภาษีนำเข้าจากจีนมูลค่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐลง จาก 15% เป็น 7.5% แลกกับ

(1) จีนจะนำเข้าสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 2 ปี

(2) จีนจะเคารพทรัพย์สินทางปัญญา และไม่บังคับให้ต่างชาติถ่ายโอนเทคโนโลยีในบริษัทร่วมทุน

(3) จีนจะเปิดเสรีทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทบัตรเครดิตที่จะอนุญาตให้ Visa และ Master Card เข้ามาทำธุรกิจในจีนได้ ขณะที่ Union Pay ของจีนก็สามารถทำธุรกิจในสหรัฐได้เช่นกัน และ

(4) จีนจะไม่ทำให้เงินหยวนอ่อนเกินไป ในขณะที่สหรัฐก็ถอนรายชื่อจีนออกจากประเทศผู้บิดเบือนค่าเงิน

แม้ว่าอัตราภาษีที่สหรัฐยังเก็บจากจีนยังอยู่ในระดับสูง (โดยสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐยังถูกเก็บที่อัตรา 25%) ขณะที่สหรัฐส่งสัญญาณยังไม่รีบที่จะลดทอนอัตราภาษีลงจนกว่าหลังเดือน พ.ย. แต่ข้อตกลงเฟสแรกก็ทำให้ความขัดแย้งด้านการค้าของสองมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของโลกบรรเทาลง ส่งผลดีต่อการลงทุนและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศบ้าง

ในส่วนของไทย กระแสข่าวด้านเศรษฐกิจยังไม่สดใสนัก โดยแม้ว่าร่าง พรบ. งบประมาณประจำปี 2563 ที่ล่าช้านั้นได้ผ่านสภาผู้แทนราษฎร และกำลังส่งให้วุฒิสภาพิจารณาตามกำหนดการเดิม แต่หากพิจารณารายละเอียดแล้ว จะพบว่าในงบประมาณโดยรวม 3.2 ล้านล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นจาก 3.0 ล้านล้านบาทในปีก่อนนั้น สัดส่วนงบลงทุนลดลงจาก 6.60 แสนล้านบาทเป็น 6.56 แสนล้านบาท ทำให้ความเป็นไปได้ที่จะเห็นการลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดมีน้อยลง

นอกจากนั้น เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ภาคธุรกิจเอกชน ภาคการเงิน รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนส่งสัญญาณไม่เห็นด้วยกับนโยบายการเงินในปัจจุบัน จนทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องออกมาแถลงข่าวว่าได้เข้าแทรกแซงจนทุนสำรองเพิ่มขึ้นถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และกล่าวว่าการแข็งค่าของเงินบาทเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งต้องการความร่วมมือของหลายฝ่าย ทำให้นักลงทุนกังวลทิศทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทยในอนาคต จึงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจนทำให้ผลตอบแทนของพันธบัตร 3 เดือน ถึง 5 ปี ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย

ภาพทั้งหมดบ่งชี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มเป็นขาขึ้น สภาพคล่องยังคงสูง และความเสี่ยงเหตุการณ์ต่าง ๆ บรรเทาลง ซึ่งภาวะเช่นนี้เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง ในส่วนของไทย แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะไม่สดใสเท่าต่างประเทศ แต่สัญญาณบวกอาจปรากฎขึ้นจาก (1) การค้าโลกที่เริ่มฟื้นตัว (2) ราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับขึ้นบ้าง และ (3) ความเป็นไปได้ ที่สถาบันจัดอันดับเครดิตอาจปรับอันดับของไทยขึ้น ซึ่งทำให้หุ้นไทยอาจเริ่มเป็นที่น่าสนใจ ในระยะต่อไป

ด้วยปัจจัยข้างต้น เราจึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนสะสมสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นในตลาดที่พัฒนาแล้ว และในตลาดเกิดใหม่ ในขณะที่ลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้สม่ำเสมอ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ที่จัดอยู่ในกลุ่มน่าลงทุน (investment-grade) และ REIT ลงบ้าง และเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ประกันความเสี่ยง เช่น ทองคำ เพิ่มขึ้น

ไฟจราจรข้างหน้ายังเขียวอยู่ โปรดเหยียบคันเร่งก่อนไฟเหลืองจะเปล่งแสง