สวยไม่มีสมอง ไม่สวยฉลาดกว่า ความสวยที่ลุงตู่ควรรู้ก่อนพูด?

สวยไม่มีสมอง ไม่สวยฉลาดกว่า ความสวยที่ลุงตู่ควรรู้ก่อนพูด?

ดราม่าอยู่เหมือนกันเรื่อง "สวยไม่มีสมอง" จากเหตุที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าว

ที่อาคารรุ่งอรุณภายในตัวเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระหว่างการพบปะประชาชน (20 ม.ค. 2563) ว่า การพัฒนาฝีมือแรงงานถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องรู้จักปรับปรุงตัวเอง ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของตลาดแรงงาน เพื่อที่จบออกมาแล้วจะได้มีงานทำ เด็กนักศึกษาที่จบใหม่ต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้​ จะใช้กำลังกายอย่างเดียวไม่ได้​

"เพราะบางคนสนใจแต่เรื่องความสวยงาม​กันเยอะ แต่สวยงาม​ต้องมีสติปัญญา​ มีสมอง ไปสมัครงานถามอะไรต้องตอบได้ ไม่ใช่ยิ้มนั่งสวยอย่างเดียว ถ้าเป็นอย่างนี้ไม่มีใครรับทำงาน ต้องสวยและมีสมอง​ แต่ส่วนใหญ่คนไม่สวยกลับมีสมองเยอะ​ แต่คนสวยที่มีสมองก็มี และที่นั่งอยู่ในหอประชุมนี้ก็เป็นคนสวยที่มีสมองทุกคน​ ที่พูดแบบนี้เพื่อต้องการให้เห็นภาพ ไม่ได้เจาะจงว่าใคร เดี๋ยวจะหาว่าไปละเมิดสิทธิมนุษยชน"

การพูดเรื่องเพศกับเรื่องสติปัญญา คนที่ชอบลุงตู่ก็คงไม่คิดมาก แต่คนที่ไม่ชอบก็ติดใจว่าจะพูดไปทำไม จนการเป็นประเด็นดราม่าเล็กๆ ว่า สวยไม่มีสมอง แต่โชคดีว่ายามนี้มีเรื่องใหญ่ๆ ในสังคมที่ผู้คนสนใจหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่เรื่อง 1.ศาลตัดสินให้ "สรยุทธ" ติดคุก 6 ปี 24 เดือนไม่รอลงอาญา , 2.พรรคอนาคตใหม่รอดยุบพรรค , 3.ฝุ่นพิษ PM2.5 และ 4.รมต.และพ่อปมถางป่าเขาใหญ่

เหตุ 4 เรื่องนี่เอง.. ทำให้กระแสดราม่า สวยไม่มีสมอง ปลุกไม่ขึ้น

แต่จริงๆ การที่ "นายกฯประยุทธ์" ใช้คำว่า "สวย" ในหลายวาระ เช่น ช่วงแถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก เมื่อช่วงดึกนี้ (26 ก.ค. 2562) พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและอาเซียน กรณี "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับต่างประเทศและการทูต โดยบอกว่า "พรรณิการ์นะครับ คุณคนสวย" ทำให้ พรรณิการ์ขอใช้สิทธิพาดพิงให้ถอนคำพูดว่าสวย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ถอนคำพูดทันที

หรือกรณีช่วงปลายปีที่ผ่านมา (2562) พล.อ.ประยุทธ์ พูดในงานเปิดตัว "เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนประเทศไทย" (2 ธ.ค. 2562) ทำนองว่าคนไทยใช้เงินไปกับการทำศัลยกรรมจมูก หรือด้านความสวยความงาม ว่า เรื่องหนี้เสียภาคครัวเรือน คำว่าหนี้ครัวเรือนถึงมันสูงก็โอเค เราก็ต้องยอมรับว่ามันสูงขึ้น แต่สูงขึ้นด้วยอะไร ผมให้แยกแยะมาแล้วว่า อะไรคือหนี้ที่มีมูลค่า อันไหนที่เป็นหนี้เสีย อันไหนเป็นหนี้ที่เกิดจากความไม่จำเป็น วันนี้ทุกคนบอกว่าเป็นเรื่องจำเป็นหมด ผมดูในโพลมา ทั้งหมดคนรุ่นใหม่เนี่ย เรียนหนังสือจบมาแล้วต้องมีบ้าน มีรถ ต้องมีทันที นั่นแหละครับ ในขณะที่รายได้เราไม่พอตรงนี้ เราจะทำยังไงในความต้องการของประชาชน เพราะนั้น เขาต้องมีรายได้ ย้อนกลับไปดูเรื่องการศึกษาจะทำยังไงกับเขา จบมามีงานทำ มีรายได้ที่เพียงพอ

"วันนี้นอกจากการใช้จ่ายในเรื่องของคุณภาพชีวิตแล้ว ก็เรื่องความสวยงาม แต่งตัว ทำหน้าสวยๆ การเสริมจมูก อันนี้เป็นความต้องการของมนุษย์ ผมก็ไม่ติดอะไรกับท่านหรอก ก็ยินดีที่ทำแล้วสวยขึ้น ผมไม่ว่าอะไร แต่คนจะสวย คนจะงาม งามที่ใจใช่ใบหน้า ทำความดีไว้นะ เดี๋ยวก็สวยเองอะ"

พูดก็พูดเถอะ การที่ "พล.อ.ประยุทธ์" ยกเรื่องความสวยมาพูดบ่อย โดนสวนกลับตลอด อย่างกรณีล่าสุดก็ถูกหลานสาว "ทักษิณ ชินวัตร" อย่าง วชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือ แซน โพสต์แสดงทัศนะ ระบุว่า คิดว่านายกฯมีเรื่องเร่งด่วนที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมากมายที่ต้องแก้ไข การที่นายกฯ วิพากษ์เรื่องความสวยกับสมองของเพศหญิง อาจฟังดูแล้วไม่เหมาะสมเพราะดิฉันเป็นห่วงว่าหลายคนจะมองได้ว่านอกจากท่านจะมองประชาชนไม่เท่ากันแล้ว ยังมองเพศแม่ไม่เท่าเทียมกับเพศชายอีกด้วย

หากจะว่ากันตามจริง คนที่รู้จักมักคุ้นกัน ไม่มีความขัดข้องหมองใจกันมาก ถูกชมว่าสวยก็น่าจะเป็นเรื่องชื่นชมให้กำลังใจ แต่ว่าคนไม่ได้สนิทชิดเชื้อกัน หรือโกรธเกลียกกัน พูดคำเดียวกัน อาจถูกตีความว่าไม่ดีหรือไม่จริงใจ

ขณะเดียวกัน คนที่มีสถานะเป็นครู ผู้อาวุโส ผู้นำทางความคิด สั่งสอนเรื่องสวย ไม่สวย ก็ยังถูกตีความอยู่ดีเมื่อเรื่องออกสู่สาธารณะ ความคิดผู้คนด้วยวัยและการศึกษาย่อมมีความเห็นแตกต่าง

และอ่านบทความ "สวยเลือกได้...สบายจริงหรือ" จาก cea.or.th ยิ่งน่าสนใจว่า ระบุว่า ดร.ฮาโรลด์ ซีแกล (Dr.Harold Sigall) จากมหาวิทยาลัยแห่งแมรีแลนด์สรุปผลการวิจัยไว้ว่า เมื่อให้ผู้เข้ารับการทดสอบทำการ “ประเมินผลงาน” ของอีกฝ่ายโดยเห็นหน้าค่าตากัน พบว่า คนรูปร่างหน้าตาดีจะได้ผลการประเมินสูงกว่า และถูกมองว่า “มีความสามารถสูงกว่า” 

ดร.โธมัส แคช (Dr.Thomas Cash) จากมหาวิทยาลัยโอลด์ โดมิเนียน ในรัฐเวอร์จิเนีย ทดสอบผู้มีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจรับคนเข้าทำงานจากบริษัทรับจัดหางานและฝ่ายบุคคลจากบริษัทต่างๆ เขาสรุปไว้ว่า คนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมองผู้สมัครหน้าตาดีว่า ‘น่าจะ’ ประสบความสำเร็จในงานมากกว่าคนหน้าตาด้อยกว่าที่คุณสมบัติอื่นเท่าเทียมกัน และตัดสินใจจ้างผู้สมัครหน้าตาดี

ทว่า กรณี "นายกฯ" พูดล่ะ สมควรหรือไม่ กระนั้นเมื่อฟังความตั้งแต่ต้นแล้ว พอเข้าใจได้ "นายกฯ ลุงตู่" ประมาณว่า อยากพูดให้เห็นภาพ มีทั้งติทั้งชม หรือถ้าพูดกันแบบภาษาละครหรือหนังก็เรียกกันว่า "ตบ-จูบ" แนะนำทั้งคนสวยและไม่สวย ในเรื่องของทักษะความรู้เพื่อเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ

หากแต่..ต้องประเมินดูเถิด "นายกฯประยุทธ์" ได้อะไร คุ้มเสี่ยงถูกด่าหรือไม่ กับการถูกปั้นปั่นกระแส สร้างวาทกรรม "สวยไม่มีสมอง" ถูกกล่าวหาว่าเหยียดเพศแม่ ซึ่งคะแนนนิยมในหมู่กลุ่มผู้หญิงจะดีขึ้นหรือลดลง เป็นเรื่องที่ควรตรึกตรองยิ่ง!!