ยุบ 'อนาคตใหม่' ได้จริงหรือ?

ยุบ 'อนาคตใหม่' ได้จริงหรือ?

ยิ่งใกล้วันที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่กล่าวหา พรรคอนาคตใหม่ ล้มล้างการปกครอง ปรากฏว่ากระแสยุบพรรคยิ่งมาแรงขึ้นเรื่อยๆ

จนขณะนี้ทุกคนเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ต้องถูกยุบแน่นอนแล้ว

แนวทางดีที่สุดของพรรคการเมืองนี้ คือรอดคดี “อิลลูมินาติ” แล้วไปโดนคดีกู้เงิน แต่หลังๆ กระแสยุบในคดี “อิลลูมินาติ” มาแรงจริงๆ

สำหรับผมเอง ยังงงๆ อยู่ว่าศาลจะวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ได้อย่างไร หรือเรื่องนี้มีการสร้างกระแสกันจนลืมข้อเท็จจริง ซึ่งผมขอแยกเป็นประเด็นๆ ดังนี้

- คุณณฐพร โตประยูร ผู้ร้องคดีนี้ กล่าวหาพรรคอนาคตใหม่ล้มล้างการปกครอง จึงยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยลงโทษ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49

- รัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 49 เขียนล้อมาจากมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญปี 50 ซึ่งอยู่ในหมวด “พิทักษ์รัฐธรรมนูญ” แต่สาระสำคัญที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างมาตรา 49 กับมาตรา 68 คือ มาตรา 68 ระบุโทษยุบพรรคเอาไว้ กรณีที่การกระทำล้มล้างฯ เป็นการกระทำของพรรคการเมือง ส่วนมาตรา 49 ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน ตัดเนื้อหาในส่วนนี้ออกไป

- ฉะนั้นสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถดำเนินการได้ หากวินิจฉัยว่าพรรคอนาคตใหม่มีความผิดจริง คือ “สั่งหยุดการกระทำ” (ที่ถูกกล่าวหาว่าล้มล้างฯ)

- ในระบบกฎหมายปัจจุบัน การยุบพรรคการเมืองที่มีพฤติการณ์ล้มล้างฯ เป็นโทษตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 แต่กฎหมายเขียนชัดว่า กกต.ต้องเป็นผู้ยื่นคำร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น (เหมือนกรณียุบพรรคไทยรักษาชาติ) แต่กรณีพรรคอนาคตใหม่ ชัดเจนว่าไม่มีคำร้องของ กกต. แล้วศาลจะยุบพรรคได้อย่างไร

- เจ้าหน้าที่ระดับสูงใน กกต. และนักกฎหมายบางท่าน บอกว่าความผิดฐานล้มล้างฯ ที่มีโทษถึงยุบพรรค ประชาชน (กรณีนี้คือคุณณฐพร) ยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้เลย กกต.ไม่ต้องยื่นอีก โดยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นบรรทัดฐานอยู่แล้ว แต่เมื่อตรวจสอบย้อนกลับไปกลับพบว่า บรรทัดฐานที่ว่านี้ ศาลวางไว้สืบเนื่องจากบทบัญญัติมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญปี 50 เขียนไม่ชัดว่า ประชาชนต้องยื่นคำร้องผ่านอัยการสูงสุดได้เท่านั้น หรือยื่นตรงต่อศาลได้ด้วย 

สุดท้ายศาลวินิจฉัยว่ายื่นตรงต่อศาลได้ แต่ปัจจุบันรัฐธรรมนูญปี 50 เลิกใช้ไปแล้ว และรัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 49 ไม่มีโทษยุบพรรค แล้วจะใช้บรรทัดฐานเดิมตีความได้หรือไม่

ถ้าคำตอบสุดท้ายคือยุบพรรคไม่ได้ ด้วยเหตุผลข้างต้น ซึ่งคนในแวดวงกฎหมายรู้ พรรคอนาคตใหม่ก็รู้ แต่ก็ปล่อยให้กระแสยุบพรรคไหลไปเรื่อยๆ น่าคิดว่าใครได้ประโยชน์มากที่สุดจากสถานการณ์นี้