บุกออนไลน์จีนต้องรู้จัก ‘เมืองแต่ละโซน’ (จบ)
การเข้ามาลงทุนใน 'จีน' จำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ
ดังที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่า “ประเทศจีนไม่ใช่เอกภาพทั้งหมด” มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลเป็นอันดับ 3 ของโลก ประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน มากกว่าประเทศไทย 20 เท่า
ดังนั้นการเข้าไปบุกตลาดจีนจึงต้องทำความเข้าใจความต้องการที่มีความหลากหลายอย่างมาก สัปดาห์ก่อนผมได้กล่าวถึงกรุงปักกิ่งกับโซนภาคเหนือ รวมถึงเมืองเสฉวนกับโซนภาคตะวันตก
ไปแล้ว สัปดาห์นี้มาต่อกันที่เมืองอื่นๆ ที่เหลือกันครัับ
เมืองกว่างโจว เซินเจิ้น และโซนภาคใต้ ภาคใต้ของจีนถือเป็นประตูสำคัญสำหรับการติดต่อค้าขายกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย โดยคนจากมณฑลกวางตุ้งที่อยู่ทางใต้ของจีน คือกลุ่มคนที่เข้ามาเมืองไทยมากที่สุด
กล่าวได้ว่า ในปัจจุบันเมืองกว่างโจวและเซินเจิ้นกลายเป็นสองเมืองสำคัญที่ผู้ประกอบการไทยไม่สามารถมองข้าม หรือเรียกได้ว่าเป็นไฟลท์บังคับถ้าจะบุกตลาดจีนเลยก็ว่าได้
แต่เดิมทีนครเซินเจิ้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภคในอันดับต้นๆ ของจีน ทั้งยังสามารถเดินทางติดต่อกับเกาะฮ่องกงได้ ขณะที่กว่างโจวซึ่งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งนั้นก็เป็นจุดศูนย์กลางในการค้าขายของจีน แต่ละปีจะมีการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า “Canton Fair” สองครั้งต่อปี ซึ่งได้รับความสนใจจากนักธุรกิจ นักลงทุน จากทั่วทุกมุมโลก
ทุกวันนี้นครเซินเจิ้นและเมืองหางโจวเป็นเมืองสำคัญด้านอุตสาหกรรม การผลิต ทั้งเป็นที่ตั้งของบริษัทเทนเซนต์ ซึ่งเวลานี้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดของจีน ขณะที่เมืองหางโจวเองก็เป็นที่ตั้งของเครืออาลีบาบาซึ่งเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซจีน
นอกจากนี้ สองเมืองนี้ยังมีความสำคัญในแง่ของการเป็นเมืองแห่งโรงงานและการผลิต สำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะนำเข้าสินค้าจากจีนสองเมืองนี้คือช่องทางสำคัญที่จะต้องติดต่อ ขณะเดียวกันมีราคาค่อนข้างถูก แม้ว่าในอดีตจะมีปัญหาในเรื่องคุณภาพสินค้าอยู่บ้าง จากการที่มีคำล้อเลียนว่าเป็นของก็อปจากเซินเจิ้น แต่ทุกวันนี้ทางเซินเจิ้นก็ได้พยายามที่จะยกระดับคุณภาพสินค้าให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ทว่าสำหรับผู้ประกอบการไทยเองก็ยังต้องระวังในการมองหาสินค้าต่างๆ จากที่นี่เช่นกัน
ในบรรดาเมืองต่างๆ คนไทยมีโอกาสไปทำธุรกิจที่สองเมืองนี้ได้สะดวกกว่าที่อื่น เนื่องจากปัจจุบันมีสถานกงสุลที่กว่างโจวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปทำธุรกิจหรือบุกตลาดจีน
นครเซี่ยงไฮ้ กับ โซนภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเป็นแหล่งความเจริญและการลงทุนจากต่างแดนของจีน โดยเฉพาะที่นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งนับว่าเป็นเมืองสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่ในภาคตะวันออก แต่เป็นอันดับหนึ่งประเทศจีนด้วย ปัจจุบันเป็นเมืองสำคัญในด้านเศรษฐกิจ และการเป็นแหล่งลงทุนจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ มหานครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองสำคัญทางด้านการลงทุนของจีน ที่ปัจจุบันมีชาวต่างชาติเข้าไปใช้ชีวิตอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกและง่ายที่สุด มีการเปิดกว้างด้านวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ต่างๆ ไปจนถึงมีบางเขตที่สามารถเปิดให้บริการใช้งานโซเชียลมีเดียสำหรับชาวต่างประเทศด้วย
มากกว่านั้นนครเซี่ยงไฮ้ยังเป็นเมืองใหญ่ที่มีอาณาเขตติดกับมหาสมุทร จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างมากด้านการส่งออกและนำเข้า ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์และการเชื่อมต่อกับประเทศอื่นๆ ในภาคตะวันออกของเอเชีย โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี ฯลฯ
ปัจจุบัน เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองใหญ่ที่มีค่าครองชีพสูงสุดอันดับต้นๆของจีน มีจีดีพีสูงถึง 9.1 ล้านล้านหยวน หากไม่นับปักกิ่งแล้ว ถือว่าเซี่ยงไฮ้มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพในระดับการเป็นนครหลวงจีน
การเข้ามาลงทุนที่นี่จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบอย่างมาก เพราะการแข่งขันสูง ความเสี่ยงสูง แม้ว่าจะมีโอกาสที่ดี เพราะเมืองนี้ค่อนข้างจะมีความเป็น “International” ผู้คนในส่วนต่างๆ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเมืองอื่นๆ และมีการพัฒนาใกล้เคียงกับฮ่องกงมาก
โดยสิ่งบ่งชี้อย่างหนึ่งคือ เซี่ยงไฮ้เป็นแหล่งที่บริษัทซีพี(C.P.) หรือที่ในภาษาจีนเรียกว่าเจิ้งต้า ได้เข้าไปทำการเปิดห้างสรรพสินค้าระดับหรูคือ ซุปเปอร์แบรนด์มอลล์ที่ใจกลางนครเซี่ยงไฮ้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยสรุปแล้ว โซนทางตะวันออกของจีนจึงนับเป็นเฮดควอเตอร์ที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนจากต่างแดน ซึ่งเวลานี้อัตราส่วนทางเศรษฐกิจของจีนกว่า 50% มาจากแหล่งการเข้ามาลงทุนจากต่างชาติ ทำให้เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่สร้างรายได้ให้กับประเทศจีนมากที่สุด และมีบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุนและปักหลักอยู่มากที่สุดด้วย
เราจะเห็นได้ว่าแต่ละพื้นที่และภูมิภาคต่างๆ ของจีน มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ดังนั้นก่อนจะบุกตลาดจีน จึงต้องทำความเข้าใจตลาดที่เราจะเข้าไปด้วยครับ