ธุรกิจเพื่อสังคม

ธุรกิจเพื่อสังคม

ถ้าเรามีทัศนคติเป็นบวกจะทำให้รู้จักคิดถึงมูลค่าที่แท้จริงได้

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อาจสร้างความรู้สึกสับสนให้กับผู้บริหาร และเจ้าของธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่ต้องคอยวิ่งไล่ตามกระแสใหม่ ๆ เช่น Big Data, AI, Machine Learning, Blockchain, IoT ซึ่งบางครั้งก็เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาสั้น ๆ แล้วจางหายไป ปล่อยให้เทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่

บางคนอาจตื่นตระหนกจากกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพราะเทคโนโลยีอาจเข้ามาแทนที่ บางตำแหน่งงาน หรือทดแทนธุรกิจของบางบริษัทได้ทันที แต่กับบางคนอาจตื่นเต้นที่จะได้บุกเบิกธุรกิจใหม่ ได้ทดลองหาแนวทางในการทำธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเองในอนาคต

ทัศนคติเชิงบวกเพื่อการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของโลกธุรกิจในทุกวันนี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้นและยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาด ความกล้าลงมือก่อนจึงทำให้มีโอกาสก่อนผู้อื่นเช่นกัน การมองโลกในแง่ร้ายมักจะทำให้คนหวาดกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงจนไม่กล้าปรับตัวใด ๆ ได้แต่รอวันให้วันนั้นมาถึงแล้วถูกคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้นกระหน่ำซัดจนต้องซวนเซล้มลงในที่สุด ในขณะที่คนที่กล้าลุกขึ้นสู้ก็ย่อมได้โอกาสจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นเหนือผู้อื่น

องค์ประกอบอีกข้อหนึ่งสำหรับการปรับตัวสู่ความสำเร็จในปีนี้คือความเข้าใจในคุณค่าที่แท้จริง ซึ่งบางครั้งไม่อาจใช้ความสำเร็จทางธุรกิจเป็นหลัก เพราะคุณค่าที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ผลกำไรของบริษัทเท่านั้น หากแต่เป็นความถูกต้องที่เราต้องยึดมั่นเป็นหลัก นั่นหมายความว่าการทำธุรกิจของเราแม้ว่าบางครั้งจะมีโอกาสที่จะได้ทำกำไรหรือขยายขนาดธุรกิจ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องแลกกับการทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องจนเป็นบรรทัดฐานที่ผิดให้กับสังคม รายได้หรือกำไร ที่ได้มานั้นย่อมไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สังคมต้องสูญเสียไปอย่างแน่นอน

การคำนึงถึงคุณค่าของสังคมหรือส่วนรวมอาจไม่ได้ทำให้ธุรกิจของเรามั่นคงแข็งแกร่งหรือมีความได้เปรียบมากกว่าคู่แข่ง แต่นั่นเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับคนในสังคม ในอุตสาหกรรม และทั้งประเทศชาติ

ซึ่งย่อมสะท้อนผลบวกกลับเขามาสู่ธุรกิจของเราเช่นเดียวกัน ผมเชื่อว่าผู้บริหารและเจ้าของกิจการหลายคนย่อมมีโอกาสได้พบกับช่องทางทำธุรกิจใหม่ ๆ ผ่านเครือข่ายหรือคอนเน็คชั่นที่ตัวเองมีอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่อาจไม่ถูกศีลธรรมหรือเป็น “ธุรกิจสีเทา” ที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อคนในสังคม หากเรามองแต่ผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียวก็ย่อมเห็นว่าธุรกิจนั้นน่าทำโดยไม่คำนึงว่ามันจะทำลายสังคม และส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การคิดถึงคุณค่าที่แท้จริงจะทำให้เรา คิดได้และกล้าที่จะปฏิเสธธุรกิจเหล่านั้นเพื่ออนาคตของสังคมในที่สุด

และหากเราคิดไกลไปถึงการทำธุรกิจที่เอื้อให้เกิดผลประโยชน์ต่อชุมชน แม้จะได้ผลตอบแทนน้อย แต่เมื่อชุมชนแข็งแรง สังคมแข็งแรง ทั้งหมดนี้ก็จะเอื้อให้ประเทศชาติเติบโตอย่างมั่นคง เป็นโอกาสให้กับธุรกิจของเราในอนาคตเช่นกัน การคิดถึงคุณค่าที่แท้จริง จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมได้อย่างที่เรานึกไม่ถึง เพราะในอดีตการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ๆ ก็ล้วนเกิดขึ้นจากความตั้งใจในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้กับโลกทั้งนั้น เป็นสาเหตุให้โลกมีสิ่งใหม่ ๆ ยกระดับความเป็นอยู่ของคนทั้งโลกให้ดีขึ้นตลอดเวลา 

แม้ว่าปี 2563 ที่เพิ่งมาถึงนี้จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและนักวิเคราะห์หลายคนก็เชื่อว่าอาจจะมีวิกฤติเศรษฐกิจรออยู่เบื้องหน้า แต่ผมเชื่อว่าหากเรามีทัศนคติเป็นบวก และรู้จักคิดถึงมูลค่าที่แท้จริง เพื่อส่วนรวมก่อนผลประโยชน์ส่วนตัวแล้ว วิกฤติที่เกิดขึ้นก็ย่อมเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเราเช่นกัน