บุกออนไลน์จีนต้องรู้จัก ‘เมืองแต่ละโซน’ (1)

บุกออนไลน์จีนต้องรู้จัก ‘เมืองแต่ละโซน’ (1)

แต่ละโซนมีการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับความเจริญที่แตกต่างกัน

หนึ่งในเรื่องสำคัญที่หลายคนมักเข้าใจผิดเมื่อเข้าไปบุกตลาดจีน คือ ความต้องการที่มีความหลากหลายอย่างมากของผู้บริโภค เนื่องจากตลาดจีนแต่ละแห่งนั้นไม่เหมือนกันครับ ซึ่งก่อนบุกตลาดจีน เราต้องรู้จักกับระดับของแต่ละเมืองในจีน รวมถึงแต่ละโซน เพื่อเพิ่มโอกาสในการบุกตลาดจีน และช่วยลดความเสี่ยงด้วย

อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนว่า ประเทศจีนไม่ใช่เอกภาพทั้งหมด มีพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาลเป็นอันดับ 3 ของโลก มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน มากกว่าประเทศไทย 20 เท่า ที่สำคัญ คือ เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 4,000 ปี 

ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งต้นทางอารยธรรมของโลก อีกทั้งแต่ละพื้นที่แม้จะผ่านกาลเวลามาแล้ว แต่ยังมีความซับซ้อนหลากหลายมิติ ทั้งผู้คน สถานที่ วิถีชีวิต วัฒนธรรม ดังนั้นในแต่ละโซนจึงมีการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับความเจริญในภาพรวมของประเทศที่แตกต่างกันด้วย

ปัจจุบัน จีนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก แต่ละเมืองและแต่ละภูมิภาคมีการเติบโต จุดแข็ง จุดด้อย และลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกันเลย แม้เชื้อสายที่สำคัญอันดับหนึ่ง คือ ชาวฮั่น ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรมากกว่า 92% ประชากรของจีนทั้งหมดก็ตาม ดังนั้น ถ้าจะเริ่มการบุกตลาดจีน สิ่งที่เราควรทราบก่อนก็คือ ความแตกต่างของพื้นที่แต่ละโซนอย่างคร่าวๆ อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เราประเมินโอกาสและความเสี่ยงได้ครับ

เริ่มที่ กรุงปักกิ่ง กับ โซนภาคเหนือ ภาคเหนือของจีน โดยเฉพาะตั้งแต่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีความคับคั่งมาก ไปจนถึงฮาร์บินทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพื้นที่ติดกับประเทศมองโกลเลีย พื้นที่ทางเหนือนี้มีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นบ่อยครั้ง และยังเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญ 

กรุงปักกิ่ง ถูกสถาปนาเป็นนครหลวงของจีนมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน เป็นแหล่งรวมความเจริญและศูนย์กลางปกครองของประเทศจีน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการต่างๆ และมีการจัดงานมหกรรมสำคัญเช่นโอลิมปิก

ปัญหาที่เกิดในช่วงหลายปีหลัง คือ เรื่องสภาพภูมิอากาศและความแออัดในเมืองหลวง แม้ว่าปัจจุบันได้รับการรณรงค์ป้องกันสภาพอากาศที่เป็นมลภาวะมากก็ตาม รวมถึงยังมีแผนการที่จะขยายความเจริญไปยังเมืองใหม่ที่จะตั้งขึ้นทางใต้ของปักกิ่งด้วย เพื่อลดความแออัดในปักกิ่งลงด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศในภาคเหนือของจีนค่อนข้างแปรปรวน และมีลมหนาวเย็นมาแต่ไหนแต่ไร โดยเฉพาะในหน้าหนาว อุณหภูมิจะลดต่ำลงถึงติดลบ มีหิมะตก ในแง่การท่องเที่ยวทำให้ในภูมิภาคนี้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากภาคอื่นๆ คือ เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว คนจีนที่มีรายได้ดีและมีฐานะมักส่งพ่อแม่ที่ชราแล้วให้เดินทางออกนอกประเทศเพื่อหนีสภาพอากาศ แล้วไปอยู่อาศัยในต่างประเทศ 

โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีอุณหภูมิอบอุ่นและติดทะเลอย่างน้อย 2-4 เดือนต่อปี ไม่ว่าจะเป็น ประเทศไทย เกาะไหหลำ (ไห่หนาน) เกาะบาหลี เป็นต้น เนื่องจากปัจจุบัน กรุงปักกิ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญและเป็นศูนย์รวมของการบริหารประเทศ จึงยังคงความเป็นจีนใน่แง่ของชาติที่มีความเข้มข้นสูง 

ดังนั้นคนต่างชาติที่เดินทางมาต้องปรับตัวพอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งมหานครสำคัญที่สุดของจีนที่มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะพัฒนาและปกป้องสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ไว้มากที่สุดด้วย

ส่วน เมืองเสฉวน กับ โซนภาคตะวันตก โซนนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ คือ โซนตะวันตกทางเหนือ และตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เมื่อขึ้นไปทางเหนือของโซนนี้ในอดีตเมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้วก็คือเส้นทางสายไหม ที่พระเจ้าฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นได้ดำเนินโครงการเพื่อเชื่อมต่อประเทศจีนกับโลกภายนอกไปจนถึงทวีปยุโรปเอาไว้ แต่ที่อยากจะเน้นหนักคือ ทางตะวันตกตอนในและตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งมีสองหัวเมืองที่สำคัญอันดับต้นๆ ของจีนซึ่งคนไทยเราก็คุ้นชื่อกันดี นั่นคือ นครเฉิงตู และ คุนหมิง

ด้านนครเฉิงตู เป็นหัวเมืองเอกของมณฑลเสฉวน หรือที่หลายคนรู้จักเนื่องจากในประวัติศาสตร์นี่ก็คือเมืองหลวงของอาณาจักรจ๊กก๊ก (สู่) ที่ก่อตั้งโดยเล่าปี่ในยุคสามก๊กนั่นเอง เมืองนี้จึงมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอันดับต้นๆของจีนด้วย

สภาพภูมิประเทศนั้นเต็มไปด้วยภูเขาล้อมรอบจำนวนมาก มีแหล่งธรรมชาติ แม่น้ำตัดผ่าน สภาพภูมิอากาศค่อนข้างสบายคล้ายเซี่ยงไฮ้ ลักษณะการใช้ชีวิตของผู้คนฝั่งนี้ค่อนข้างอยู่กินอย่างสบายๆ แม้จะเป็นเมืองใหญ่ แต่การแข่งขันยังไม่รุนแรงมากเหมือนกรุงปักกิ่ง หรือนครเซี่ยงไฮ้ เพราะที่เสฉวนยังมีลักษณะของการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอยู่นั่นเอง

ปัจจุบัน เฉิงตู ได้พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นแหล่งนำเข้าและส่งออกที่สำคัญของจีน เนื่องจากเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์ “One Belt Road” รวมถึงมีเส้นทางรถไฟเดินทางไปถึงทวีปยุโรปด้วย ที่นี่จึงเป็นเส้นทางผ่านสำหรับจีน-ยุโรปที่สำคัญ แล้วยังสามารถเดินทางลงมายังภูมิภาคอาเซียนได้ด้วย แต่ก็เป็นแหล่งที่มีภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง ที่เฉิงตูนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ในยุคสามก๊กที่โดดเด่นด้วย

รายงานจากปี 2560-2561 ระบุว่า นครเสฉวนเป็นแหล่งสำคัญที่ผู้คนนิยมจับจ่ายซื้อสินค้าแบรนด์ “Luxury” ที่มาแรงและน่าจับตามองมากที่สุด ซึ่งบรรดาแบรนด์ชื่อดังที่เข้ามาในตลาดจีนมักทดลองทำทางการตลาดรูปแบบต่างๆ กับที่เสฉวนนี้ก่อนจะไปที่อื่น

สำหรับเมืองและโซนอื่นๆ ขอมาต่อในสัปดาห์ต่อๆ ไปนะครับ