ฉลองปีใหม่ แบบฉบับโลกตะวันตก

ฉลองปีใหม่ แบบฉบับโลกตะวันตก

สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่

จึงอยากจะเล่าถึงการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลนี้เปรียบเทียบระหว่างโลกตะวันตกกับตะวันออก เพื่อให้ผ่อนคลายเข้ากับบรรยากาศกันครับ

การเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออกนั้นเป็นช่วงเวลาที่จะครอบครัวพบปะรวมญาติ ถือเป็นธรรมเนียมของโลกตะวันตกที่ครอบครัวจะมาเจอกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วสมาชิกในครอบครัวมักจะแยกกันอยู่ เช่นเดียวกับไทยที่คนหนุ่มสาวมักจะทำงานในเมืองใหญ่ ขณะที่พ่อแม่อยู่บ้านในต่างจังหวัด

ปัญหารถติด ขนส่งสาธารณะทั้งรถไฟรถบัสหรือเครื่องบินโดยสารที่แน่นขนัดก็เกิดขึ้นทุกที่ในโลก เพราะทุกคนก็ต่างรีบเดินทางกลับให้ถึงบ้านก่อนวันคริสต์มาส เพราะในคืนก่อนวันคริสต์มาส (Christmas Eve) นั้นมีงานเลี้ยงภายในครอบครัว และเป็นธรรมเนียมที่จะอบไก่งวงทาน และเปิดของขวัญในวันรุ่งขึ้น

ในเชิงพาณิชย์ เทศกาลคริสต์มาสนั้นถือเป็นมหกรรมการขายของและเทศกาลที่ผู้คนจับจ่ายใช้สอยมากที่สุด เพราะถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ปลดเปลื้องความเครียดจากการทำงานและอยู่ในช่วงอารมณ์ที่ผ่อนคลาย จึงจับจ่ายใช้สอยเป็นพิเศษ ให้ของขวัญตัวเองและคนที่รัก ยังไม่รวมไปถึงการเลี้ยงฉลอง และของประดับบ้านในเทศกาล การเดินทางท่องเที่ยวในต่างบ้านต่างเมือง ทำให้เงินสะพัดในระบบมากเป็นพิเศษ

ในเมืองใหญ่ ๆ ที่นิยมความเป็นตะวันตก มักจะมีตลาดนัดคริสต์มาส (Christmas market) ที่ขายของกระจุกกระจิกจำพวกของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแต่งบ้านให้เข้ากับเทศกาล รวมไปถึงของกิน เครื่องดื่ม โดยเครื่องดื่มที่นิยมคือไวน์เคี่ยวร้อน (Mulled wine) ที่เข้ากับอากาศหนาวได้เป็นอย่างดี โดยตลาดนัดนี้มักจะเริ่มเปิดในช่วงต้นฤดูหนาวในเดือนธันวาคมและเปิดขายเรื่อยไปจนถึงปีใหม่ โดยปิดในวันคริสต์มาส

ตามทรรศนะของคนตะวันออกหลายคนจึงอาจจะไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด ในวันที่น่าจะขายดีที่สุดอย่างวันคริสต์มาสในยุโรปนั้นตลาดนัดคริสต์มาสจึงปิดทำการ และก็ไม่ใช่แค่ตลาดที่ปิดเท่านั้น ร้านค้า สถานที่ราชการ หรือแม้กระทั่งระบบขนส่งหลายสายก็ปิดทำการ แต่เพราะเป็นธรรมเนียมที่ให้ความสำคัญกับวันที่สำคัญนี้ทั้งทางศาสนาและวัฒนธรรมประเพณีที่อุดหนุนให้เป็นวันครอบครัว ทุกกิจกรรมจึงหยุดเป็นอัมพาตหนึ่งวัน

ตลาดคริสต์มาสในเมืองใหญ่ ๆ นั้นมีกิจกรรมมากมาย เครื่องเล่น ลานสเก็ต มีแสงสีเสียงการตกแต่งยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา เรียกได้ว่าจัดเต็ม อาทิ ลอนดอนที่จัดเป็นมหกรรม Winter Wonderland เหมาะกับการพบปะสังสรรค์ของครอบครัวเพื่อนฝูง และคู่รักเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือเหตุผลของนักท่องเที่ยวคนไทยหลาย ๆ คนที่เดินทางท่องเที่ยวช่วงนี้เพราะอยากไปสัมผัสกับบรรยากาศที่น่าประทับใจสักครั้งในชีวิต

เพราะคนตะวันตกนิยมเปิดของขวัญกันในวันคริสต์มาส จึงทำให้กระแสการชอปปิงหลังวันคริสต์มาสนั้นเงียบเหงาลงอย่างถนัดตา ผิดกับคนไทยที่ยังคงช้อปต่อไปกระทั่งปีใหม่ อย่างเช่น วัน Boxing day ประเทศอังกฤษ ที่ห้างร้านต่างพร้อมใจกันลดราคาสินค้าอย่างมาก โดยเริ่มจากวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งก็ช่วยกระตุ้นให้แรงซื้อต่อเนื่องจนถึงปีใหม่เพราะได้สินค้าที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา จนกลายเป็นอีกเทศกาลย่อยของนักช้อปที่ตั้งตารอวันนี้ เช่นเดียวกับวันคริสต์มาส

ย้อนกลับมาที่โลกตะวันออกอย่างไทยหรือญี่ปุ่น ธรรมเนียมการฉลองวันคริสต์มาสนั้นถูกผนวกรวมกับปีใหม่ ขณะที่ความเข้มข้นและรูปแบบก็แปลงรูปให้เข้ากับวัฒนธรรมประเพณีแบบตะวันออกมากขึ้น เช่นเดียวกับคนไทย คนญี่ปุ่นนิยมเข้าสักการะศาลเจ้าหรือวัดสำคัญในวันที่ 1 มกราคมจนกลายเป็นธรรมเนียม ขณะที่ไทยเราก็มีการสวดมนต์ข้ามคืน หรือไหว้พระเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย เป็นต้น

สิ่งที่ทั้งโลกตะวันตกและตะวันออกมีความเหมือนกันคือ เทศกาลแห่งความสุขนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรักและความสำคัญของครอบครัว สันติสุขและมิตรภาพต่อเพื่อนร่วมโลก ความปรารถนาดีต่อกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ และในโอกาสนี้ผมจึงอยากจะกราบเรียนสุขสันต์เทศกาลคริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่แก่ท่านผู้อ่านทุกท่านครับ