กลุ่มธุรกิจเป็น 'ดาวเด่น' ปี 2563

กลุ่มธุรกิจเป็น 'ดาวเด่น' ปี 2563

กลุ่มพลังงานโรงไฟฟ้า อาหารเครื่องดื่ม การเงินส่วนบุคคคล ถือว่าปรับตัวได้โดดเด่น

ฉบับที่แล้ว ผมได้ให้ความคิดเห็นว่า กลุ่มสินทรัพย์ประเภทไหนน่าจะเป็นสินทรัพย์ที่ perform ได้ดีในปีชวด ซึ่งผมคิดว่านักลงทุนน่าจะมีคำถามเพิ่มเติมอีกว่า แล้วสำหรับตลาดหุ้นไทย เราควรจะถือลงทุนกับหุ้นกลุ่มไหนดี

กลุ่มพลังงานโรงไฟฟ้า อาหารเครื่องดื่ม การเงินส่วนบุคคคล ถือว่าปรับตัวได้โดดเด่น สำหรับปี 2562 แล้วเรายังมุมมองในธุรกิจเหล่านี้ในปีหน้าต่อไปหรือไม่ หากเราพิจารณากำไรโดยรวมของตลาดหุ้นไทย คงต้องบอกว่าอัตราการขยายตัวของกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยโดยรวมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 8% ต่อปี และต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ 3% เป้าหมายโดยรวมของธนาคารแห่งประเทศไทย หมายความว่า กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในตลาดหุ้นเติบโตแบบลุ่มๆดอนๆ

ภายในระยะเวลา 3 ปีหลัง การบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวในอัตราต่ำ อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยต่ำกว่า 1.50% ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยเทียบเงินดอลลาร์สรอ.แข็งค่ากว่า 20% เริ่มส่งผลให้สินทรัพย์ในสกุลเงินบาทแพงมากขึ้นในสายตานักลงทุนต่างชาติ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเรายังคงเห็นนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง

สำหรับทีมวิจัยฯ บล.บัวหลวง เราคาดการณ์ว่า กำไรบริษัทจดทะเบียนโดยรวมจะโตราว 10% จากฐานตัวเลขกำไรที่ต่ำ กำไรของกลุ่มอาหาร ธนาคาร การเงิน การท่องเที่ยว โรงพยาบาลจะขยายตัวได้ในระดับ 8-12% ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลกที่หดตัวแรงจะกลับฟื้นตัวได้ดี ปรกอบกับราคาหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ปรับตัวลงได้ลึกมากในปีนี้น่าจะส่งผลให้แรงขายชะลอตัว

ดังนั้นหากมองในเชิงกลยุทธ์ลงทุนปี 2563 ภายใต้สมมติฐานดัชนีไทยมีกรอบเคลื่อนไหวระหว่าง 1480-1680 จุด กลุ่มธนาคาร ปิโตรเคมี และโรงพยาบาลขนาดกลางจะน่าสนใจ ขณะที่เราแนะให้ทยอยลดเงินลงทุนในกลุ่มไฟฟ้า เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มนี้น่าจะปรับตัวขึ้นมารับโครงการลงทุนในอนาคตไปมากแล้ว

ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เรายังแนะให้รอเนื่องจากคงต้องให้ซับพลายในตลาดปรับตัวลง ก่อนจบบทความนี้ ผมขออวยพรให้ท่านนักลงทุนทุกท่านโชคดีได้รับผลตอบแทนตามที่ท่านคาดหวังไว้ทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ