ตลาดอสังหาฯ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในปี 2020

ตลาดอสังหาฯ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในปี 2020

เรากำลังก้าวสู่ศักราชใหม่ปี 2020 โดยมีหลายเหตุการณ์สำคัญช่วงโค้งสุดท้ายของปี ที่ส่งผลต่อเนื่องถึงปีหน้า

โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีข่าวดีจากมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ฟื้นตัวดีขึ้นได้ รวมถึงผู้ประกอบการเองก็ได้มีการปรับตัวให้รับสภาพตลาด เน้นการขายโครงการเก่า หรือเปิดโครงการใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า รวมถึงการสนับสนุนเข้าร่วมแคมเปญพิเศษของภาครัฐตลอดจนจัดโปรโมชั่นต่างๆ สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีการขยายตัวได้ดีก็คือแนวราบ ในขณะที่คอนโดมิเนียมชะลอตัว จากเกณฑ์การให้สินเชื่อของสถาบันการเงินที่เข้มงวด อันเนื่องมาจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับภาคอสังหาฯ นั้น เริ่มมีการขยับและเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค อาทิ

  • จากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและนวัตกรรมธุรกิจจำเป็นจะต้องมีแพลตฟอร์มและโซลูชั่นที่หลากหลายซึ่งที่ผ่านมาเราจะเห็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เริ่มนำผลิตภัณฑ์ตัวเองเข้าไปอยู่ใน E-Commerce โดยมีการเปิดให้จองผ่านทางผู้ให้บริการ shopping online ต่างๆ บ้างแล้ว และปี 2020 ที่จะเข้ามา จะมีการใช้เทคโนโลยี 5G อย่างแพร่หลายทั่วโลก น่าจะได้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้น
  • เทคโนโลยีมีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการใช้ชีวิตมีการพัฒนาและนำ Living Tech มาใช้ ตลอดจน Smart Home บ้านอัจฉริยะ ที่สั่งการระบบต่างๆ ได้ด้วยปลายนิ้วผ่านสมาร์ทโฟน รวมถึงการดูแลบริหารจัดการอาคารที่นำเทคโนโลยี IoT มาเชื่อมต่อระบบอาคารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลโครงการ เช่น LIV-24 ศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เต็มรูปแบบแห่งแรกของวงการอสังหาฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างแสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้
  • การใช้ชีวิตร่วมกันของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายส่งผลให้โครงการที่อยู่อาศัยต้องมีการออกแบบโครงการและพื้นที่ส่วนกลางให้รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกช่วงวัย ทั้งเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิต เช่น การทำราวจับและพื้นลาดเพื่อเป็นทางรถเข็นสำหรับผู้สูงอายุ ห้องนั่งเล่นบริเวณพื้นที่ส่วนกลางสำหรับวัยหนุ่มสาว รวมถึงการมี Co-working Space สำหรับวัยทำงานหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ตลอดจนห้องครัวส่วนกลาง (Co-kitchen) สำหรับผู้ที่ชอบทำอาหาร
  • Well-beingเข้ามามีบทบาทที่น่าสนใจในภาคอสังหาฯ ผู้ประกอบการรายใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่มีรูปแบบและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สนับสนุนกิจกรรมและการใช้ชีวิตแบบ Well-being มากขึ้น เช่น เน้นพื้นที่ออกกำลังกาย เลนปั่นจักรยาน ลู่วิ่งกลางแจ้งรอบตัวอาคาร หรือการปลูกผักเพื่อบริโภคด้วยตัวเอง อย่างเช่น โครงการBackyard สวนผักปลอดสารพิษของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ทีมพนักงานดูแลบริหารจัดการอาคาร ร่วมกันปลูกผักและส่งต่อผลผลิตที่ได้ให้ลูกบ้านนำไปประกอบอาหารทานกันในครอบครัว
  • การใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่มากขึ้น รวมถึงการลดใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น เช่น พัฒนาโครงการที่มีรถพลังงานไฟฟ้าสำหรับให้เช่าในโครงการ การออกแบบที่อยู่อาศัยและการบริหารจัดการที่ช่วยทำให้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในโครงการปลอดภัยจากมลภาวะฝุ่นละออง หรือการใช้และผลิตพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์ และการรณรงค์แยกขยะ จัดกิจกรรมที่สนับสนุนการใช้ชีวิตที่เป็นกับธรรมชาติให้ลูกบ้านในโครงการ 

จากปัจจัยข้างต้น ทำให้การพัฒนาอสังหาฯ เปลี่ยนไปทั้งรูปแบบโครงการ และการบริหารจัดการที่อยู่อาศัยหลังการขายให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ซึ่งเป็นความท้าทายและต้องปรับตัวให้ทันครับ