โตไป ไม่โกง!
องค์กรต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นที่จัดตั้งขึ้น มีภาพยนตร์เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณะเพื่อปลูกจิตสำนึกให้ปฏิเสธการคอรัปชั่นในสังคมไทย
รวมทั้งการออกตำราเรียน สื่อการเรียนการสอน "โตไปไม่โกง" ให้เด็ก เยาวชนคนไทยได้ตระหนัก รับทราบเรื่องดังกล่าว ไม่มากก็น้อย
หลายท่าน อาจกล่าวแม้การจัดตั้งองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นของหน่วยงานภาคเอกชน หรือหน่วยงานการศึกษาของภาครัฐดังกล่าว ไม่อาจหยุดการทุจริต คอรัปชั่นได้ เหตุเพราะถูกสนิมเกาะกิน จนลึก ยากต่อการแก้ไข แต่หากไม่ทำตั้งแต่วันนี้ เยาวชน เด็กไทยที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้นำองค์กร ห้างร้าน บริษัท หรือประเทศชาติ ในวันหน้า องค์กร บ้านเมือง จะอยู่รอดปลอดภัย อย่างมั่นคง นานาชาติ จะยอมรับประเทศไทยในระยะยาวได้อย่างไร
ความเสียหายจากการทุจริต คอรัปชั่นของบุคคล หรือนิติบุคคลต่อองค์กร หน่วยงาน ประเทศชาติ มีหลายข้อ หลายด้าน เกิดผลเสียต่อภาพรวมเศรษฐกิจ สังคม ถูกดูหมิ่น ดูแคลนจากคนรอบข้าง และนานาอารยประเทศ ที่สำคัญประเทศใดที่มีการทุจริต คอรัปชั่นเกิดขึ้นจำนวนมาก ย่อมส่งผลให้คนพลเมือง และประเทศชาตินั้นๆ ขาดการเจริญ เติบโต และความก้าวหน้า
ปัจจุบัน การทุจริต คอรัปชั่น เกิดขึ้นทั้งในส่วนภาคเอกชน และภาครัฐ ทั้งทางตรง ทางอ้อม หรือทุจริตคอรัปชั่นเชิงนโยบาย เป็นต้น รวมทั้งการกระทำความผิด ไม่เกรงกลัวต่อข้อบังคับ กฎหมาย (บ้านเมือง) มีให้เห็นเป็นจำนวนมาก ทางตรง อาจได้แก่ การเรียกรับสินบนจากผู้มีอำนาจ ทางอ้อม อาจได้แก่ การเอื้อประโยชน์ให้อีกฝ่าย หรือทางนโยบาย อาจได้แก่ การสร้าง หรือกำหนดกติกา ข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรม หรือการอาศัยอำนาจ บารมีของบุคคลบางคน เพื่อเอื้อประโยชน์ โดยขาดการแข่งขันที่ ไม่เป็นธรรม หรืออาศัยอำนาจของเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ กระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่ออีกฝ่าย เป็นต้น
อาจยกตัวอย่างให้เห็น กรณีผู้ขับขี่รถยนต์ ฝ่าฝืนไฟแดงบริเวณทางแยก จนเป็นเหตุ เกิดอุบัติเหตุ เสียหายแก่รถยนต์ และร่างกาย ทรัพย์สินบุคคลอื่นเป็นจำนวนมาก แต่ผู้ขับขี่รถยนต์ รายดังกล่าว อ้างมีผู้สนิทสนมเป็นผู้หลัก ผู้ใหญ่ ตำรวจ อัยการ หรือผู้พิพากษา สามารถวิ่งเต้น เป๋า หรือ ล้มคดีให้แก่ตนได้ เช่นนี้แล้ว สังคมจะยึดกฎหมาย หรือยึดตัวบุคคลเป็นหลัก เพื่อให้สังคมปลอดภัยได้อย่างไร หรือการสอบแข่งขันบรรจุเป็นข้าราชการของหน่วยงานภาครัฐ ผู้สอบแข่งขันจำนวนหนึ่ง ไม่ได้ใช้ความรู้ ความสามารถที่ตนมี แต่ใช้วิธีการทุจริตด้วยการลอกข้อสอบของอีกกลุ่ม อีกฝ่าย ด้วยการแลกกับการจ่ายค่าจ้างการรู้ข้อสอบล่วงหน้าให้แก่ผู้ออกข้อสอบ ผู้ควบคุมสอบ เช่นนี้แล้ว บุคลากรที่สอบแข่งขัน เป็นข้าราชการรัฐ จะปฏิบัติหน้าที่เป็น "ตัวอย่าง" ที่ดี หรือมีความรู้ ความสามารถ พัฒนาตน และองค์กรให้ก้าวหน้า เกิดประสิทธิภาพต่อประเทศชาติ (ต่อไป) ได้อย่างไร หรือกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่ "บางราย" รู้ และทราบระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกฎหมายดีกว่าพลเรือน ราษฏรทั่วไป เมื่อกฎหมาย หรือข้อบังคับ ระเบียบ ห้ามกระทำการจดทะเบียนที่ไม่ชอบด้วยระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมาย แต่ยังกระทำด้วยการจดทะเบียนให้แก่ผู้ขอ แทนที่จะเลือกการอธิบายความตามระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายให้ผู้ขอทราบว่าไม่สามารถกระทำได้ ผิดกฎหมาย ข้อบังคับ กลับมีข้อความอันเป็นการยกเว้นการจดทะเบียนดังกล่าวให้แก่ผู้ขอ (อีก) ถามว่าระเบียบ ข้อบังคับ หรือกฎหมายที่มีไว้เพื่อการปฏิบัติให้ถูกต้อง ไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะมีไว้เพื่อการใด ?
โครงการ นิติบุคคลอาคารชุด ชื่อ "ก" ท้องที่ต่างจังหวัดมีชื่อ จัดประชุมใหญ่วิสามัญ เจ้าของร่วม ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๒ ขอมติที่ประชุมถอดถอน แต่งตั้งคณะกรรมการ มีผู้จัดการ นาย "ข" ได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ขาย เจ้าของโครงการ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี ตามข้อบังคับ ผู้จัดการ นาย "ข" ตกลงว่าจ้าง นิติบุคคลภายนอก ซึ่งตนเป็นเจ้าของ ทำหน้าที่บริหารทรัพย์ส่วนกลางของโครงการ นิติบุคคลอาคารชุด "ก" ตามข้อบังคับ เป็นเวลาสองปี ต่อมา คณะกรรมการมีมติไม่ต่อสัญญาจ้าง และให้ที่ประชุมใหญ่ เจ้าของร่วมแต่งตั้งผู้จัดการรายใหม่ โดยให้อำนาจคณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการเป็นการชั่วคราว ซึ่งกำหนดต้องจัดให้มีผู้จัดการรายใหม่ ภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ครบวาระ แต่ผู้จัดการ และนิติบุคคล ผู้รับจ้าง รายดังกล่าว ไม่ยอมรับการไม่ต่อสัญญาจ้าง หรือการเลือกนิติบุคคลของผู้จัดการ นาย ข กลับเข้ามาบริหารทรัพย์ส่วนกลาง อีกทั้งผู้ประกอบการ เจ้าของโครงการ นิติบุคคลอาคารชุด "ก" ไม่ยอมรับผู้จัดการรายอื่นที่มิใช่นาย "ข" อีกทั้งไม่สามารถยอมรับกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการตามข้อบังคับได้ จึงเลือกใช้วิธี "ปั้นเรื่อง สร้างเรื่องเป็นตัว" หาเหตุถอดถอนคณะกรรมการ ชุดเดิม และแต่งตั้งคณะกรรมการ ชุดใหม่ โดยอาศัยคะแนนเสียงของผู้ขาย ผู้ประกอบการ จำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งหมด จัดการ และดำเนินการเรื่องดังกล่าว
ผู้จัดการ นาย "ข" มีวาระคราวละสองปี เริ่มดำรงตำแหน่งผู้จัดการ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๐ สิ้นสุดวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๒ และสัญญาจ้างบริหารทรัพย์ส่วนกลาง สอดคล้องกันกับวาระผู้จัดการ นาย "ข" ตามข้อบังคับ
ต่อมา นาย "ข" ยื่นคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการกับพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ เจ้าพนักงานที่ดินสำนักงานที่ดินดังกล่าว อนุมัติจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการให้แก่นาย ข เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ โดยปฏิเสธคำขอจดทะเบียนกรรมการปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการเป็นการชั่วคราว ตามข้อบังคับ ตามคำขอ หนังสือลงวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๒ อ้างว่าพบคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของนาย "ข" ผู้จัดการเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒
คำขอจดทะเบียนกรรมการปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการ เจ้าพนักงานที่ดินแจ้งให้กรรมการ ผู้ขอทราบ "ไม่รับจดทะเบียน" ให้อุทธรณ์คำสั่งจดทะเบียนดังกล่าวตามระเบียบราชการต่อไปเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันเดียวกับคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ดิน รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ
"คำถาม" อาจได้แก่ เรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้
๑. การจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของเจ้าพนักงานที่ดิน กับพวก ใช้หลักเกณฑ์ใด อิงข้อบังคับ และกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดหรือไม่ หรือ
๒. คำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของพนักงานเจ้าหน้าที่ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ชอบ หรือไม่ชอบด้วยข้อบังคับ และกฎหมาย หรือ
๓. เหตุใด นาย "ข" จึงนำเอกสารหลักฐานการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ ยื่นจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ภายหลังวันครบวาระการดำรงตำแหน่งผู้จัดการตามข้อบังคับ วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๒ หรือ
๔. คำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ "หน้าสอง" จึงระบุข้อความ หากเกิดความเสียหายจากการจดทะเบียนดังกล่าวทั้งทางแพ่ง และอาญา พนักงาน เจ้าหน้าที่ฯ มิอาจเกี่ยวข้องกับกรณีจดทะเบียนดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น หรือ
๕. คำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ สามารถร้องเพิกถอนต่อศาลได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลายท่าน อ่านบทความของผู้เขียนถึงบรรทัดนี้แล้ว อาจเข้าใจการจดทะเบียนดังกล่าวในระดับหนึ่ง หรือทราบคำตอบเบื้องต้น เกิดจากสาเหตุใด แต่หลายท่าน อาจไม่ทราบ กรณีข้างต้น อาจไม่แตกต่างจากบุตรหลาน ขับขี่รถยนต์ฝ่าฝืนไฟแดง ซึ่งผู้ขับขี่ ทราบดีว่าเป็นความผิด แต่ยังกระทำ หรือโจร ขโมยลักทรัพย์ หากเจ้าของทรัพย์ หรือตำรวจ ยังจับตัวไม่ได้ แล้วยังแอบลักขโมยของ หรือทรัพย์สินผู้อื่น ครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนเจ้าของทรัพย์ที่ถูกขโมย ได้รับความเสียหาย ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า หรือโจร ขโมย บางราย อาจย่ามใจ กระทำลักทรัพย์ของผู้อื่น รายอื่นต่อไปอีก เช่นนี้แล้ว การขับรถยนต์ของพลเมืองดี ซึ่งเคารพกฎหมาย จราจร ระมัดระวังตน มิให้เกิดความเสียหาย เดือดร้อนแก่ผู้อื่น ผู้ใด หรือเมื่อตำรวจยัง จับโจร ขโมย ลักทรัพย์รายดังกล่าว ไม่ได้ ชาวบ้านในละแวก สังคมนั้น จะหาทางป้องกันการลักทรัพย์ จากโจร ขโมยดังกล่าว หรือสังคมการอยู่อาศัยในชุมชนนั้น หรือข้างเคียง จะเป็นสุข สงบเรียบร้อยได้อย่างไร ?