เลือกตั้งปีหน้า 'แม่ซู' จึงไปกรุงเฮก

เลือกตั้งปีหน้า 'แม่ซู' จึงไปกรุงเฮก

“แม่ซูคือมนุษย์ที่กล้าหาญที่สุดในโลก อาวุธของเธอคือความรัก”

นักร้องชื่อดังคนหนึ่งของเมียนมา ประกาศก้องบนเวทีชุมนุมมวลชนนับพันคน ที่หน้าสวนสาธารณะมหาพันธุละ ใกล้กับศาลาว่าการนครย่างกุ้ง จัดโดยสมาชิกของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค. 2562

ผู้ชุมนุมยังถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “เรายืนอยู่ข้างเมียนมา” และ “เรายืนอยู่ข้างผู้นำของเรา” เพื่อแสดงการสนับสนุนและให้กำลังใจ “ออง ซาน ซูจี” ซึ่งกำลังเตรียมตัวจะไปทำหน้าที่แก้ข้อกล่าวหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์

การชุมนุมแสดงพลังครั้งนี้ เพียว มิน เต็ง มุขมนตรีนครย่างกุ้ง วัย 49 ปี ได้มาร่วมให้กำลังใจด้วย เขาเป็นแกนนำคนสำคัญของพรรคเอ็นแอลดี และมีประวัติการต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหาร ต้องติดคุก 15 ปี

ก่อนหน้านี้ ผู้สนับสนุน “แม่ซู” ในโลกออนไลน์ได้ขึ้นป้ายให้กำลังใจ และแสดงความชื่นชมยกย่อง ขณะเดียวกัน บริษัททัวร์รายหนึ่ง กำลังจัดทริปเชียร์แม่ซู 5 วัน โดยจะเดินทางไปยังกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ คิดค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าและการเดินทาง ซึ่งอยู่ในแพ็คเกจทัวร์ ราคา 2,150 ดอลลาร์

นับแต่ “แม่ซู” ในฐานะที่ปรึกษาแห่งรัฐ แถลงผ่านแฟนเพจสำนักที่ปรึกษาแห่งรัฐว่า ตัวเธอจะนำทีมไปต่อสู้คดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เสียงแห่งความรักชาติก็สนั่นลั่นโซเชียล

ย้อนไปปี 2560 ชาวมุสลิมโรฮิงญากว่า 700,000 คน ต้องอพยพจากรัฐยะไข่ในเมียนมาข้ามพรมแดนไปอยู่ที่บังคลาเทศ ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อหนีให้พ้นจากการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหารเมียนมา

วันที่ 11 พ.ย. 2562 “แกมเบีย” เป็นประเทศเล็กๆ ในแอฟริกาที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม ได้รับการสนับสนุนจากองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ที่มีสมาชิก 57 ประเทศ ได้ยื่นฟ้องเมียนมาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก เนื่องจากเมียนมาละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของสหประชาชาติ จากการกระทำของทหารเมียนมาที่ผลักดันให้ผู้คนหลายแสนคนจากชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาต้องเข้าไปในบังกลาเทศ

ถัดจากนั้นมาไม่ถึงสัปดาห์ อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ซึ่งมีอำนาจในการกำกับดูแลกิจการต่างประเทศ ประกาศว่าจะเป็นผู้นำคณะไปกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเมียนมาที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

วันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำเนียบประธานาธิบดีเมียนมา ได้จัดการบรรยายสรุปปัญหาระหว่างประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ เกี่ยวกับสถานการณ์โรฮิงญา ข้อกล่าวหาของแกมเบีย และแนวทางการโต้ตอบการฟ้องร้องคดี

ดังที่ทราบกัน ปี 2563 จะมีการเลือกตั้งทั่วไปของชาวเมียนมา ด้วยปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ความนิยมในตัว อองซาน ซูจี ลดลงจากเดิมบ้าง แต่การจุดกระแส “แม่ซูไปศาลโลก” กระตุ้นให้ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ได้เห็นภาวะผู้นำของเธอ

พรรคเอ็นแอลดีจะไม่ปล่อยให้จังหวะและโอกาสนี้หลุดลอยไป แคมเปญ “เรายืนอยู่ข้างผู้นำของเรา” คงจะคู่ไปกับอีเวนท์การเมืองต่อเนื่องไปจนถึงช่วงหาเสียงเลือกตั้ง