มุมมองต่อแนวโน้มหุ้นไทย และกองทุนประหยัดภาษี

มุมมองต่อแนวโน้มหุ้นไทย และกองทุนประหยัดภาษี

ลองกระจายการลงทุนท่านมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า SET ในขณะที่ความเสี่ยงต่ำ

ผลประกอบการไตรมาส 3 โดยรวมออกมาครบแล้ว ผลประกอบการอย่างที่ทราบๆ ปรับตัว ลดลง สะท้อนถึงเศรษฐกิจโดยรวม ยังต้องลุ้นอยู่ว่าปีหน้าจะฟื้นไหม โดยกำไรทั้งตลาด จากต้นปี ประมาณ 105 ตอนนี้ อยู่ที่ 85 ณ ที่ดัชนี 1600 ค่า PE SET จึงอยู่ประมาณ 18 เท่าเศษ โดยปัจจัยตามที่ทราบกัน Trade war เศรษฐกิจยังคงต้องประคองตัว ทาง ธปทก็ปรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงมา ณ จุดที่ต่ำที่สุด โดย GDP ไตรมาส 3 ออกมา 2.40 ก็ต่ำกว่าคาด สัญญาณ ดังกล่าวทำให้นักลงทุนคงประคองตัว เช่นกัน ปี 62 อาจจะได้ GDP แถว 2.5-2.7 ภาครัฐยังคงขับเคลื่อน กินชอปใช้ การท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินให้สะพัด ในระบบโดยปลายปีก็เป็นที่คาดหมายเม็ดเงินจาก LTF RMF จะมาช่วยในการผยุงตลาดไว้บ้าง

เมื่อพูดถึงกองทุน LTF RMF กองทุนที่มีไว้เพื่อลดหย่อนภาษี หลายท่านทั้งปียังไม่ได้เริ่มลงทุน หรืออาจจะรอกันอยู่ ว่าจะเลือกลงทุนกองไหนดี ปีนี้ปีสุดท้ายของ LTF หลายท่านกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี ไม่ต้องคิดมากครับ ลงทุนไปเถอะครับ ได้ลงทุน แถมได้ลดหย่อนภาษี ปีนี้ LTF ยังคงลงทุนได้และคาดว่านักลงทุนยังคงใช้สิทธิ์เพื่อรับผลประโยชน์ต่อการลดหย่อนภาษี อยู่และยังยืนยันให้นักลงุทนใช้สิทธิครับโดยไม่ต้องกลัวว่าไม่มี LTF แล้วตลาดจะลง ไม่มีเงินมาประคอง แต่ที่ผ่านมาแม้ว่านักลงทุนที่ลงทุน และถือครองจนครบเงื่อนไขแล้ว ก็ยังมีจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ขายออก และอย่างไรคงมีกองทุนลดย่อนภาษีที่มี ส่วนกองทุนที่จะมาทดแทนมาวันนี้มี ทางการยังไม่ได้ประกาศแต่มีแนวคิดที่อาจจะทำให้การลงทุนยาวมากขึ้น ซึ่งน่าจะทราบ เงื่อนไขการลงทุนที่ชัดเจนในปีหน้า

อีกกองทุนที่มีความสำคัญแต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลงทุนเพราะมองว่ายาวมาก อย่าง RMF อาจจะต้องเริ่ม และลงทุนผ่าน RMF อย่างเต็มที่มากขึี้น RMF หลายคนกังวลว่านาน แต่ยิ่งนานยิ่งดี ยิ่งนานยิ่งลดความผันผวน หากดูย้อนหลังลงทุนในตลาดหุ้น เกิน 10 ปี โอกาสขาดทุนแทบจะไม่มีเลยครับ และถ้าดู RMF มีความหลากหลายมากวว่า LTF ทั้งเสี่ยงต่ำยัน เสี่ยงสูง และส่วนเสี่ยงสูงมีทั้งหุ้น ไทย เทศ โภคภัณฑ์ กองทุนอสังหาฯ REIT ทำให้เราจัดพอร์ทกระจายความเสี่ยงได้ทั่วถึงลง LTF แล้ว อย่าลืม ออมผ่าน RMF เพิ่มเติม

กองทุน LTF จำเป็นต้องลงทุนในหุ้นไทย ไม่น้อยกว่า 65% แต่จากที่กล่าวไว้เบื้องต้นตลาดช่วงนี้ผันผวนมาก การเติบโตน้อย ต้องเน้น LTF เน้นกองผันผวนต่ำหรือที่เราเรียกว่า low volatility ซึ่งในตลาดมีหลาย บลจ.ที่เริ่มออกกองทุนลักษณะนี้มากขึ้น โดยกองทุนหุ้นกลุ่ม low vol ผู้จัดการกองทุน จะพยายามหาหุ้นที่ มีรายได้ค่อนข้างแน่นอน มีปันผลรองรับ และมีความเคลื่อนไหวของราคาเมื่อเทียบกับตลาดที่เราเรียกว่า BETA ที่ต่ำ (ถ้า BETA สูงคือเสี่ยงมากกว่าตลาด) ซึ่งหุ้นกลุ่มพวกนี้จะออกมาทาง Defensive stocks เท่าที่ดูมีหลายกองทุนที่มีผลงานดี เวลาขึ้นก็ไปตามตลาดแต่เวลาตลาดลง กลุ่มพวกนี้ก็ลงครับ แต่ลงน้อยกว่าตลาด

ส่วน RMF อยากให้นักลงทุนมองการลงทุนในรูปแบบกระจายการลงทุน กองทุนตลาดเงินบ้าง ตราสารหนี้บ้าง หุ้นบ้าง โดยหุ้นก็ไม่เฉพาะหุ้นไทย แต่อาจจะต้องกระจายไปต่างประเทศบ้าง สินค้าโภคภัณฑ์ อย่างทองคำ และกองทุนอสังหาฯ Reit ผสมกันไปครับจะช่วยลดความเสี่ยง และผลตอบแทนเหมาะสม โดยท่านที่มีชอบเสี่ยงยังไงควรมีสินทรัพย์ติดพอร์ท RMF ของท่านไว้บ้าง เพราะ RMF ต้องลงทุนระยะยาวจนเกษียณ ท่านที่ อายุไม่ถึง 50 มีเวลาลงทุนอีกหลายปี การลงทุนตราสารหนี้เพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องที่น่าเสียดายครับ เพราะการลงทุนที่ระยะยาวจะช่วยลดความผันผวนของราคาให้กับท่านได้มากทีเดียว โดยพอร์ตตัวอย่างสำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้ ลองกระจายการลงทุนท่านมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า SET ในขณะที่ความเสี่ยงต่ำกว่าครับ