สัญญาณเตือนจากฮ่องกง

สัญญาณเตือนจากฮ่องกง

ตึกสูงเสียดฟ้าแสงไฟระยิบระยับตลอดทั้งคืน เมืองสวรรค์อาหารอร่อย ซื้อขายสินค้าจากทั่วโลกฉับไวทันสมัยเสมอ ไปมาสะดวกหากินง่าย

การเงินการลงทุนสะพัด เป็นทางผ่านเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นแหล่งรวมของทุกอย่างที่มนุษย์จินตนาการอยากจะมี หนุ่มสาวฮ่องกงแต่งกายทันสมัยเกินชาวตะวันตก เป็นผู้นำด้านแฟชั่นที่ดีไซเนอร์ทั่วโลกต้องมุ่งมาเปิดร้านเอกเพื่อเป็นหน้าตาของบริษัท คนมีการศึกษาสูงพูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่วเป็นความภูมิใจของชาวเอเชีย

แล้วเกิดอะไรขึ้นกับฮ่องกง

เหตุการณ์ของความวุ่นวายแตกแยกในฮ่องกงถึงขั้นจลาจลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจสังคมอย่างเห็นในข่าวซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะลงเอยได้ง่าย และถึงแม้ว่าจะมีการใช้มาตรการเด็ดขาดก็จะเป็นการแก้ปัญหาเพียงแค่ระยะสั้น เพราะรอยร้าวครั้งนี้ส่งสัญญาณชัดว่าเป็นการเริ่มต้นของปัญหาที่จะตามมาอีกยาวนาน

ผู้อยู่นอกฮ่องกงบ้างก็วิเคราะห์ว่านี่เป็นปัญหาเฉพาะจากความเครียดและกดดันของการเมืองภายในฮ่องกง บ้างก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนฮ่องกงที่มีโอกาสดีอยู่แล้วในเศรษฐกิจที่เข้มแข็งจึงคิดทำลายภาพพจน์เผาบ้านเมืองตัวเอง บ้างก็ว่าเยาวชนฮ่องกงไม่รู้จักสำนึกถึงสิ่งดีที่มีอยู่แล้ว

การสัมภาษณ์ของสื่อกับกลุ่มผู้ประท้วงจะได้ความเห็นเชิงลึกว่าการที่ประท้วงอย่างสงบกลายมาเป็นขั้นทำลายเกิดมาจากเหตุของความอยุติธรรมที่พวกเขาได้รับจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ การประท้วงแบบสงบซึ่งเป็นไปด้วยดีระยะหนึ่งโดยประชาชนออกมาแสดงความเห็นบนท้องถนนกว่าล้านคนซึ่งไม่เคยมีปรากฏการณ์อย่างนี้มาก่อน แต่ผู้บริหารระดับสูงทำเรื่องนี้ผิดพลาด การใช้ความรุนแรงเพื่อต้องการปลดปล่อยแต่ต้นลมทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกลายเป็นความบาดหมางต่อเนื่องอย่างน่าวิตก

หลายเดือนที่ผ่านมาการประท้วงเปลี่ยนรูปโฉมฮ่องกงมาก จากฮ่องกงที่มีวัฒนธรรมและโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว มีกฎหมายเข้มงวดและประชาชนยอมรับในกฎระเบียบ ประกอบทั้งเป็นตัวอย่างของชุมชนใกล้เคียงรวมทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ แต่มาถึงวันนี้ฮ่องกงเปลี่ยนจากตัวอย่างมาตรฐานเป็นตัวอย่างสัญญาณเตือนภัยที่ควรจับตามอง อนาคตของฮ่องกงจะไปทางใดถึงวันนี้ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้

ปัญหาในฮ่องกงจะเกิดขึ้นในที่อื่นได้หรือไม่

เมืองใหญ่ในเอเชียหลายแห่งกำลังเร่งพัฒนาทางเศรษฐกิจให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคซึ่งรีบเร่งปรับตัวตามกระแสของความเจริญทางวัตถุและการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของนวัตกรรม ชีวิตเมืองใหญ่กลายเป็นวิถีของคนเพิ่มขึ้นทุกวัน การโยกย้ายถิ่นที่อยู่จากชนบทและเมืองรองเพื่อมุ่งเข้าสู่โอกาสของเศรษฐกิจที่ดีกว่าในเมืองใหญ่และยอมปรับตัวอยู่แบบใกล้ชิดกันหนาแน่นทั้งที่อยู่อาศัยที่ทำงานการคมนาคมและสาธารณูปโภคต่างๆเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับและชินชา

ใครบินเข้าไปในฮ่องกงมักจะตะลึงกับอาคารสูงชะลูดเสียดฟ้าและทึ่งต่อการอยู่อาศัยแบบมหัศจรรย์เชิงพิสดารของมนุษย์ที่สามารถจัดระบบระเบียบอยู่กันได้ยิ่งใช้เวลาจับจ่ายซื้อสินค้าหลากหลายจากทุกมุมโลกและอาหารการกินที่เหมือนเนรมิตยิ่งทำให้เกิดแรงดลบันดาลใจเอาเอกลักษณ์ของฮ่องกงไปเลียนแบบ อาคารสูงเกิดขึ้นแทบทุกเมืองใหญ่ ในจีนแผ่นดินใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประชาชนเริ่มยอมรับในการอยู่ร่วมกันในอาคารที่มีเนื้อที่จำกัด คนที่อยู่ต่างจังหวัดและเมืองรองเริ่มปรับเปลี่ยนความคิดยอมรับ ความหนาแน่นของเมืองใหญ่ว่าเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง

การสำรวจสถิติของที่อยู่อาศัยของชาวฮ่องกงโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยระบุว่าต่อหนึ่งคนมีพื้นที่ในการอยู่อาศัยเพียงแค่ห้าตารางเมตร ห้องเช่าที่เป็นความนิยมในบรรดาคนรายได้น้อยมีรายงานจากสื่อว่าบางครั้งเพียงแค่สี่ตารางเมตรก็สามารถจะให้เช่าได้และเจ้าหน้าที่ของรัฐก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

เยาวชนและคนชราในฮ่องกงส่วนใหญ่จะได้รับการดูแลจากคนรับใช้ในบ้านซึ่งมาจากต่างประเทศเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเพราะหากมองฮ่องกงโดยผิวเผินแล้วเราจะเห็นถึงความเจริญและภาพพจน์ที่สวยงาม ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานจะรับสัญญาสองปีเงินเดือนประมาณขั้นต่ำ 4,630 ดอลล่าร์ฮ่องกง(1,8000บาท)บวกค่าอาหารและค่าพยาบาล ปัจจุบันกว่า 700,000 คนมาทำงานอย่างนี้ที่ฮ่องกง

ที่อยู่อาศัยหนาแน่น การแข่งขันเศรษฐกิจเพื่อความก้าวหน้าหรือความอยู่รอดทำให้โครงสร้างของครอบครัวได้รับความกระทบกระเทือน อัตราการเกิดของเด็กฮ่องกงเพียงแค่ 1.2% (จีน1.6%, และหากจะรักษาจำนวนประชากรให้เท่าปัจจุบันอัตราการเกิดควรจะ 2.1%) พ่อแม่วิ่งหาปัจจัยเข้าบ้านเพื่อเลี้ยงลูกและคนชราที่อยู่บ้านซึ่งพื้นที่ขับแคบและยังต้องมีคนรับใช้ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวจะเป็นอย่างไร เด็กเล็กในฮ่องกงเกิดขึ้นมาในโลกคอนกรีตจากบ้านไปโรงเรียนอาจจะไม่ได้สัมผัสดินเลย

ชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านก็มาจากสิ่งแวดล้อมที่แร้นแค้นกว่าคือต้องฝากลูกของตัวเองให้เขาเลี้ยงไว้ที่ภูมิลำเนาเพื่อที่จะมาเลี้ยงลูกของคนอื่นเขาในเมืองใหญ่ ความเครียดหรือความกังวลของเขาจะฝากไว้ที่ภูมิลำเนาหรือเอามาด้วยถึงฮ่องกง

เมืองใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เริ่มมีความคุ้นเคยกับความเป็นอยู่แบบฮ่องกง ซึ่งแต่ก่อนเป็นสิ่งที่ดูประหลาดแต่ปัจจุบันเริ่มกลายเป็นสิ่งปฏิบัติคล้ายกันเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อยเราจะเริ่มปรับตัวได้ เพราะฉะนั้นตื่นมาวันหนึ่งเราจะกลายเป็นชาวฮ่องกงโดยไม่รู้ตัว

มนุษย์ไม่เคยมาถึงยุคที่มีความสะดวกสบายอย่างนี้มาก่อน ความหลากหลายของอาหารการกิน เครื่องมือเครื่องใช้ทุ่นเวลาและการสื่อสารแบบฉับไวเป็นสิ่งธรรมดา และนับวันก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นและคงไม่มีวันที่จะอยากย้อนกลับไปแบบเก่าอีก แต่ความสะดวกสบายไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความสุขอย่างแท้จริง คำถามคือเรากำลังจะเดินไปในทิศทางใด

ชาวฮ่องกงออกมาเรียกร้องความยุติธรรมและเสรีภาพจากการประท้วงแบบสงบกลายเป็นการหรือทำลายเผาบ้านเมือง ฮ่องกงกำลังส่งสัญญาณให้เราคิดตริตรองให้รอบคอบหรือไม่ เสียงสัญญาณจากฮ่องกงเมืองสวรรค์ที่เราชื่นชมกำลังช่วยเตือนเราให้คิดเรื่องการจะเดินหน้าต่อไป เรากำลังจะสร้างพัฒนาโดยความสามารถชาญฉลาดของมนุษย์ซึ่งนับวันยิ่งเก่งขึ้นอาจจะมีผลกระทบตามมาหากเราเผลอ ชีวิตในครอบครัวที่เราควรลงทุนใช้เวลาดูแลซึ่งกันและกัน รับฟังปัญหาประจำวันเรื่องเล็กน้อยสนทนากันโดยมีสติ วางมือถือและทานอาหารร่วมกัน สมาชิกในครอบครัวพยายามเจียดเวลาดูแลซึ่งกันและกันและลดละหรือถ้าเป็นไปได้ก็เลิกในการที่จะใช้ผู้ช่วยจากนอกบ้าน เมืองไทยเรายังมีพื้นที่กว้างอีกมากให้เรามีทางเลือกขยับขยายไปสัมผัสธรรมชาติและย้อนกลับสู่ความเรียบง่าย ลดความเร็วในชีวิตบ้างในบางครั้ง แต่หันมาเน้นเรื่องทิศทาง ฮ่องกงกำลังจะช่วยเราชี้ทิศทางนั้นกระมังครับ