'เหี้ยม' เหมือนสุมาอี้

'เหี้ยม' เหมือนสุมาอี้

สร้างพอร์ตหุ้นอย่างเล่าปี่ คือการสะสมหุ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผมได้รับเชิญไปบรรยายในงาน Stock Radars Day ที่โรงภาพยนตร์สกาล่า ในหัวข้อ 'เดินหมากลงทุนด้วยกลยุทธ์สามก๊ก' ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ฟังเป็นจำนวนมาก จึงขอสรุปเนื้อหาส่วนหนึ่งมาให้อ่านกัน ณ ที่นี้นะครับ

ผมได้แนะนำหลักการ 'สร้างพอร์ตหุ้นอย่างเล่าปี่' คือการสะสมหุ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าทำเกินตัว

หากเล่าปี่เป็นนักลงทุนหุ้น เขาจะไม่อัดมาร์จิ้น ไม่กู้มาลงทุน เล่าปี่ไม่ใช่คนเก่ง เขา 'เลือกหุ้น 10 ตัว เจ๊ง 8 ตัว' แต่ที่เป็นกษัตริย์ได้ เพราะเขา 'ไม่ยอมแพ้' คนที่แพ้ 80% แต่ไม่ล้มเลิก ต้องยอมใจเขา

ด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เอง ทำให้เล่าปี่เจอ 'หุ้นเปลี่ยนชีวิต' ถ้า ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร มีหุ้น CPALL หุ้นเปลี่ยนชีวิตของเล่าปี่ก็คือ ชายผู้สวมหมวกไหมพรม ถือพัดขนห่านห้อยระย้า ซึ่งมีชื่อว่า จูกัดเหลียง 'ขงเบ้ง'

ดังนั้น แม้วันนี้จะยากลำบาก ก็ขอจงอดทน รอจนเจอหุ้นตัวนั้นของคุณ อย่าได้ยอมแพ้ไปเสียก่อน

ในอีกทางหนึ่ง ผมได้แนะนำให้ 'ลงทุนอย่างสุมาอี้' สุมาอี้เป็นขุนนางตัวเล็กๆ คนหนึ่งของโจโฉ แต่โจโฉไม่ค่อยไว้ใจเขาเพราะมองว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์แสนกล

ด้านสุมาอี้ก็รู้ว่านายไม่ชอบ เขาจึงไม่เคยแสดงตัว ไม่ทำเกินหน้าเกินตา จนรอยุคโจโฉผ่านไป พอรุ่นหลานโจโฉที่ชื่อ 'โจยอย' ขึ้นเป็นฮ่องเต้ สุมาอี้ก็ขึ้นเป็นใหญ่ ได้เป็น 'ผู้สำเร็จราชการ' ปัญหาคือมีผู้สำเร็จราชการอีกหนึ่งคนชื่อ 'โจซอง' ซึ่งเป็นเชื้อสายตระกูลโจ และควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย

โจซองพยายามขัดแข้งขัดขาสุมาอี้ และให้ฮ่องเต้แต่งตั้งเขาเป็นราชครู ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดูใหญ่โตแต่ไม่ได้มีอำนาจแท้จริง สุมาอี้รู้ว่าตนเองกำลังมีภัย สิ่งที่เขาทำคือ 'แกล้งบ้า' และกลับไปนอนอยู่บ้าน ทำตัวเป็นคนเสียสติ จนโจซองคลายความระวังป้องกัน ทว่าความจริงสุมาอี้ไม่ได้บ้า เขาอยู่บ้านเพื่อฝึกปรือกำลังทหาร และส่งคนของตัวเองไปประจำตามประตูเมืองจุดต่างๆ

จนถึง 'วันเชงเม้ง' โจซองเชิญเสด็จฮ่องเต้ไปไหว้บรรพบุรุษนอกเมือง และด้วยความประมาทจึงไม่ทิ้งกำลังทหารไว้ในเมืองเลย สุมาอี้จึงฉวยโอกาสทำ 'รัฐประหาร' ยึดอำนาจได้เบ็ดเสร็จ

ในภาพยนตร์สามก๊ก 2010 หลังจากรัฐประหารสำเร็จแล้ว สุมาอี้จับโจซองนอนลงกับพื้น และถอดรองเท้าออก ก่อนจะเอาเท้าเหยียบที่ยอดอกของโจซองแล้วพูดว่า 'มึงรู้มั้ย กูชักกระบี่ออกมาครั้งเดียว แต่กูลับกระบี่นี้มาสิบกว่าปีแล้ว' นี่คือความโหดเหี้ยมของจิ้งจอกเฒ่าสุมาอี้ ซึ่งทำให้เขาได้ทุกอย่าง

เพราะฉะนั้น ในฐานะผู้ลงทุน ถ้าท่านอดทนได้เหมือนสุมาอี้ รอจนวิกฤตมาและพลิกมันเป็นโอกาส ก็อาจได้ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับเขา

ปัญหาคือ ท่าน 'เหี้ยม' พอหรือเปล่า เท่านั้นเอง