อ่านเกมพปชร. ‘เล่นตามน้ำ’แก้รธน.
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนใดๆจากทางฟากฝั่งการเมือง ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงการตั้ง “49อรหันต์”
ที่จะมาทำหน้าที่ยกร่างว่าจะสามารถเริ่มคิ๊กออฟได้เมื่อไร
การประชุมครม.เมื่อวานนี้(19พ.ย.) mujเดิมทีจะต้องมีการรายงานผลการคัดสรรรายชื่อ6กมธ.ในสัดส่วนครม.กลับต้องยื้อออกไป ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ถูกเสนอชื่อทั้ง
สมเจตน์ บุญถนอม ,สมชาย แสวงการ,จรุงวิทย์ ภุมมา,อุดม รัฐอมฤตและปกรณ์ นิลประพันธ์ ได้ขอถอนตัวออกจากการถูกเสนอ
โดยเฉพาะพล.อ.สมเจตน์ ซึ่งทราบกันดีว่า มีความสนิทสนมคุ้นเคยกับทางฝั่งรัฐบาล มาตั้งแต่เป็นสนช.ชุด49 และยังเป็นหัวหน้าคณะสำนักงานเลขาธิการคมช.ในช่วงเหตุการณ์ทางการเมืองปี49 ที่ออกมาตั้งเงื่อนไขสำคัญคือ จะต้องไม่เตะในเรื่องที่มาส.ว.ซึ่งทราบกันดีว่าถือเป็นมือไม้สำคัญของรัฐบาล
ขณะที่ฟากฝั่งพลังประชารัฐเองแม่จะบอกว่ารัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ แต่หลายคนต่างออกมาย้ำเป็นเสียงเดียวกันว่า “รัฐธรรมนูญไม่ได้มีปัญหา” แม้กระทั่งแกนนำพรรคอย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ก็เคยยอมรับกลางเวทีว่า“รัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา”
อ่านเกม“พลังประชารัฐ”ตอนนี้จึงดูเหมือนว่า จะเป็นเพียงการเล่นตามน้ำไปก่อน เพราะต้องไม่ลืมว่า ประเด็นนี้ถือเป็นหนึ่งเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ยอมร่วมรัฐบาล ดังนั้นการออก“แอ็คชั่น” ในทำนองสนับสนุนก็อาจจะส่งผลดีในแง่การรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะเดียวกันเมื่อครั้งที่มีการแถลงนโยบายรัฐบาลเรื่องดังกล่าวถูกบรรจุไว้ในนโยบายเร่งด่วนข้อที่11 ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “สนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และดำเนินเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ”
ดังนั้นหากพปชร.หรือรัฐบาลเลือกที่จะลอยตัวแบบ “ไม่รู้-ไม่ชี้-ไม่สน!” ประเด็นนี้อาจถูกนำไปขยายความ จนถึงขั้นถูกยื่นตีความได้ว่ารัฐบาลไม่ปฏิบัติตามที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ผลเสียก็จะตกไปอยู่ที่รัฐบาลและพปชร.อย่างเต็มๆ
คงต้องจับตาว่า เมื่อนักกฎหมายรวมถึงส.ว.คนดังออกอาการ “ใส่เกียร์ถอย” เส้นทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ท่าทีฟากฝ่ายค้านเองล่าสุดดูเหมือนจะออกอาการ“ปลงตก”เพราะญัตติตั้งกมธ.เพื่อศึกษาในเรื่องดังกล่าวทำท่าว่าจะยืดออกไปอย่างไม่มีกำหนด...