เมื่อการมองข้ามเรื่องเล็กๆ นำมาซึ่งปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

เมื่อการมองข้ามเรื่องเล็กๆ นำมาซึ่งปัญหาใหญ่กว่าที่คิด

ปี 2019 กำลังจะผ่านพ้นไปในอีก 2 เดือน หลายคนที่ได้เขียน New year resolution กันไปเมื่อต้นปี

วันนี้ได้ลองกลับมารีวิวกันบ้างหรือยังครับ ว่า เราทำไปได้กี่ข้อบ้าง ถ้าใครยังทำไม่ได้อย่าเพิ่งท้อใจไปนะครับ เรายังเหลือเวลาอีก 2 เดือนให้เราได้ตั้งใจและทำตามเป้าหมายที่เราวางไว้กัน ซึ่งในระหว่างปีที่ผ่านมานั้น ผมได้พบเจอเรื่องราวๆต่างๆมากมาย มีอยู่สิ่งหนึ่งที่มีหลายๆคนเข้ามาปรึกษาและพูดคุยกับผม คือบางครั้ง เค้าทำสิ่งใหญ่ๆ แต่ลืมอุดรอยรั่วเล็กๆ ซึ่ง รอยรั่วเล็กๆนี่เอง อาจกระทบไปถึงเป้าหมายแผนใหญ่ของเค้าได้เลย วันนี้ผมมีผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนการเงินของบริษัท Wealth Creation International Co., Ltd. คุณปิติพงษ์ รุ่งเรืองวุฒิกุล CFP®  จะมาเล่าถึงเรื่องรอยรั่วเล็กๆที่คนสวยใหญ่ละเลยให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ

ย้อนกลับไปหลายปีมาแล้วที่ผมเริ่มได้ยินเสียง นกกระจอกคู่หนึ่ง มาร้องเสียงจิ๊บๆ ให้ได้ยินทุกเช้า ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้สังเกตอะไร เวลาผ่านไปหลายปี ความพยายามของนกตัวเล็กๆ คู่หนึ่ง ที่ค่อยๆ คาบกิ่งไม้มา ทีละกิ่งๆ มุดเข้าไปวางในรัง ภายใต้ฝ้าห้องนอนของผม จากรังเล็กๆ ค่อยๆใหญ่ขึ้น เช่นเดียวกับเชื้อโรคและไรนก ผมจึงเห็นทีว่าจะต้องจัดการให้เรียบร้อยซะแล้ว ผมเตรียมไม้คีบก้านย้าว ไฟฉาย และบันไดเพื่อจะสะสางปัญหานี้ซะ

เหนือความคาดหมาย รังนกรังนี้ ใหญ่กว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก ผมจึงต้องใช้ความพยายามเกร็งตัวปีนรั้ว เสี่ยงกับการตกลงมาเจ็บตัว เขี่ยรังนักออกมาทีละนิดๆ จากที่คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 10-20 นาทีก็น่าจะจัดการได้แล้ว แต่ด้วยขนาดของรังที่ใหญ่มาก ผมต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการจัดการรังนกนั่น ผมคิดในใจ ว่านี่อาจเป็นเพราะความปล่อยปะละเลยของตัวผมเอง นี่ถ้าวันนั้นผมไม่มองว่านี่เป็นเรื่องเล็กและ ปล่อยทิ้งเอาไว้ ผมคงไม่ต้องมาเหนื่อยและเจ็บตัวแบบนี้

ที่ผมยกเรื่องปัญหาของนกทำรังขึ้นมานั้น เพื่ออยากจะสื่อให้เห็นว่าเราไม่ควรจะปล่อยให้เรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตของเราให้ผ่านพ้นไป แต่ใช่ว่าปัญหานกมาทำรังจะเกิดกับขึ้นทุกคน แต่มีอยู่เรื่องหนึ่ง เชื่อไหมครับที่หลายๆคนมักจะมองข้ามเรื่องเล็กเรื่องหนึ่ง และ เมื่อเวลาผ่านไป ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นมันส่งผลกระทบใหญ่กว่าที่คิดครับ

นั่นคือการปล่อยปะละเลย ทิ้งเงินจำนวนมากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ที่ดอกเบี้ยต่ำมากๆ เอาไว้เฉยๆ แทนที่จะนำไปบริหารจัดการแบ่งสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสม จากประสบการณ์การให้คำปรึกษากับลูกค้าหลายท่าน ผมพบว่ามีลูกค้าหลายต่อหลายท่าน ลืมไปว่าตัวเองทิ้งเงินจำนวนมากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ และเป็นเวลาหลายต่อหลายปี ด้วยเหตุผลที่ว่า “อาจจะ” ว่าอาจจะต้องใช้เงินไปลงทุน อาจจะต้องใช้ไปทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดครับ แต่แทนที่จะวางเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ ที่ได้ดอกเบี้ยแค่ 0.25%-0.5% หากย้ายมาในที่ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ผลตอบแทนที่ได้จะต่างกันมากเลยทีเดียวครับ เช่น หากเราทิ้งเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี เป็นจำนวน 1,000,000 บาท เป็นเวลา 5 ปี เราจะได้ผลตอบแทนเป็นจำนวน 25,251 บาท แต่หากเราเลือกนำไปลงทุนในที่สินทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทน 3% ต่อปี เราจะได้ผลตอบแทนทั้งสิ้น 159,274 บาท ซึ่งมากกว่าทิ้งเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ถึง 6.3 เท่า

เห็นไหมครับว่า การที่เราเลือกที่จะละเลยไม่สนใจ มองว่าการบริหารเงิน ในบัญชีออมทรัพย์เป็นเรื่องเล็กๆน้อย ไม่ต้องสนใจนั้น ในระยะเวลาแค่ 5 ปี ทำให้เงินเราหายไป แสนกว่าบาทเลยทีเดียว และยิ่งถ้าเราปล่อยทิ้งไว้นานๆไป เงินเราก็จะหายไปเป็นก้อนที่ใหญ่ขึ้นทุกปี ไม่ต่างอะไรกับรังนกที่พอกใหญ่ขึ้นๆ ทุกๆวันที่เราปล่อยมันทิ้งไว้เอาอย่างนั้น กว่าจะรู้ตัวอีกที จากเรื่องเล็กน้อย ที่เราจัดการมันได้ง่ายๆ ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่ไปเสียแล้ว

เริ่มวันนี้ยังไม่สายเกินไปครับที่จะทำสรุป เช็ค ยอดบัญชีเงินฝากในธนาคาร ของท่านว่า เริ่มจะมีนกตัวเล็กๆเข้าไปทำรังหรือยัง อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้ จนสายเกินที่จะแก้ไข และจะต้องมานั่งคิดเสียดายว่า ทำไมวันนั้นเราถึงปล่อยผ่านให้เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ย้อนกลับมาทำร้ายเราได้