คิดเพื่อสร้างโอกาส

คิดเพื่อสร้างโอกาส

อย่าปล่อยให้ข้อจำกัดที่มีกลายเป็นขีดจำกัดในการเติบโตของธุรกิจ

“ก้าวแรก” ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอสำหรับการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ แต่คนเรามักรู้สึกหวาดกลัวจุดเริ่มต้นในการเดินตามความฝัน เพราะไม่รู้ว่าต้องเผชิญกับอะไรบ้าง การคิดบวกด้วยการหมั่นเรียนรู้จากทุกสิ่งทุกอย่าง และหาความรู้จากคนรอบตัว จึงเป็นการสร้างความมั่นใจและสร้างรากฐานให้กับก้าวแรกของเราได้เป็นอย่างดี

ตัวผมเองก็ได้เรียนรู้ภาษาไทยจากเหล่าคนงานในโรงเหล็กซึ่งเป็นงานแรกที่ได้ทำเมื่อมาถึงประเทศไทยก่อนผันตัวมาทำธุรกิจไอที แน่นอนว่าอาจไม่ใช่ภาษาที่ถูกหลักไวยากรณ์มากนัก รวมถึงอาจเป็นภาษาที่มีคำหยาบปะปนอยู่ไม่น้อยแต่นั่นก็ทำให้ผมได้เรียนรู้ภาษาไทยเพื่อทำงานได้อย่างรวดเร็วที่สุด

การเรียนรู้ที่ดีจึงต้องเปิดกว้างเพื่อมองเห็นคุณค่าในการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ จากทุกคนที่เรามีโอกาสได้พบปะ เพราะเพียงแค่บางแง่มุมที่เขาถ่ายทอดให้กับเราได้ก็สร้างมูลค่าให้กับเราได้ทั้งนั้นในอนาคต แม้จะเข้าใจผิดจนถูกล้อไปบ้าง แต่ก็จะทำให้เราได้รู้ว่าที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

ก้าวแรกของผมในประเทศไทยจึงถือว่าไม่ได้สวยหรูอะไรนัก เพราะบ้านเมืองอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา จึงมีความยากลำบากอยู่พอสมควรแต่ก็เต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ ความคิดบวกเป็นส่วนสำคัญให้เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ได้ง่ายขึ้น ยุคแรกของธุรกิจไอทีในประเทศแม้จะเต็มไปด้วยโอกาสแต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับบริษัทน้องใหม่ที่จะหาเวทีแจ้งเกิดในยุคนั้น เพราะมีคู่แข่งสำคัญทั้งที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เงินทุนหนา และบริษัทข้ามชาติ ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีและบุคลากรชั้นนำ

ข้อคิดที่อยากฝากไว้สำหรับบริษัทน้องใหม่ ก็คือ อย่าปล่อยให้ข้อจำกัดที่มีกลายเป็นขีดจำกัด ในการเติบโตของธุรกิจ เราอาจไม่ได้มีเงินจ้างที่ปรึกษาค่าตัวแพงเพื่อมาวางแผนและกำหนดยุทธศาสตร์ให้ แต่เราใช้ตัวเราเองเป็นนักวิจัยเพื่อเก็บข้อมูลของบริษัทคู่แข่งเพื่อวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็ง และหาทางสร้างความแตกต่างให้กับตัวเองให้ได้ เพราะคู่แข่งที่แม้จะมีความพร้อมในทุกด้านมากกว่า แต่ลึกๆ แล้วเขาย่อมมีจุดอ่อนในมุมเล็กน้อย ที่เราอาจใช้มันพัฒนาสินค้าและบริการของเราให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น และธุรกิจในทุกวันนี้ก็เปิดกว้างให้เรานำเอาความรู้ความเชี่ยวชาญจากแหล่งต่างๆ เช่นมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัย มายกระดับให้กับสินค้าและบริการของเราให้ถูกใจผู้บริโภคมากขึ้น

ความคิดบวกยังส่งผลสำคัญต่อการตัดสินใจในภาวะยากลำบาก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจหนีไม่พ้น นั่นคือภาวะที่ “ก้าวพลาด” ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม เพราะเมื่อเราคิดบวกก็ย่อมทำให้เรามองเห็นปัญหาในภาพรวม และรู้จักปล่อยวาง ไม่ยึดติดกับอดีต คนที่เคยผ่านภาวะวิกฤติเศรษฐกิจมาย่อมเข้าใจดีว่าการคิดบวกเพื่อกล้าเผชิญปัญหา ยอมรับความจริงเพื่อหาทางออกร่วมกัน จะทำให้เราหาทางออกจากปัญหาทั้งปวงได้ง่ายกว่ามาก ซึ่งปัจจุบันนี้โลกธุรกิจ มีความผันผวนมากกว่าเดิมหลายเท่า การเรียนรู้ประสบการณ์จากความล้มเหลวในอดีตจึงเป็นทางลัด ที่ช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องทำผิดพลาดซ้ำกับผู้ที่เคยล้มมาก่อนแล้ว

 วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วก็เป็นบทเรียนสำคัญที่คนทำธุรกิจควรเรียนรู้เอาไว้ เพราะบริษัทมากมายที่ล้มลงในยุคนั้น สามารถกลับมาผงาดได้จนถึงวันนี้ ซึ่งผมเชื่อมีว่ามีองค์ประกอบสำคัญที่เหมือนกันนั่นคือ การคิดบวกที่ทำให้ก้าวต่อไปได้ในภาวะยากลำบาก