จุดยืนชาวสีส้ม

ทราบมาว่าก่อนลงมติแกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน หารือกัน ส่วนใหญ่จะงดออกเสียง แต่ อนาคตใหม่ ยันว่าจะไม่เห็นด้วย กว่าแกนนำฝ่ายค้านจะกล่อมได้ให้เป็นทิศทางเดียวกันก็นานอยู่ แต่ก็มีหนึ่ง ส.ส.อนค. ที่โหวตเห็นด้วยกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

ชาวสีส้ม แสดงฤทธาไม่เอาด้วยกับ รัฐนาวาตู่2 ตั้งแต่พระราชกำหนดโอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562 จำนวน 70 ส.ส.โหวตสวนพรรคร่วมฝ่ายค้าน แม้จะมีห้าคนไม่มาประชุม หนึ่งคนงดออกเสียง สามคนให้ความเห็นชอบ

กฎหมายฉบับนี้หลายคนรับทราบว่า สถาบันคือความมั่นคงของชาติและเป็นเสาหลักที่คนไทยทั้งผองให้ความเทิดทูนสูงสุด แต่ ชาวสีส้ม70ชีวิต ลงมติไปแบบนั้นเพียงเท่านี้ก็พอรู้แล้วว่า “ส.ส.อนค.คิดและแสดงออกเช่นใด...”

เมื่อบวกกับลีลาของ ”เสี่ยเอก” ในคราวเบิกความไต่สวนหุ้นวี-ลัคมีเดีย ต่อหน้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญผ่านทีวีวงจรปิด ใครหลายคนที่ได้รับรู้กับท่วงทำนองของเสี่ยเอกก็น่าจะอ่านอะไรหลายอย่างได้กระจ่างขึ้นว่า

เสี่ยเอก และชาวคณะ(ส่วนใหญ่)ใช้หลักอะไรในการดำรงตนบนถนนการเมือง การแหวกขนบธรรมเนียม ,การแสดงตัวตนชัดๆว่าอนค.คิดอย่างไรก็ทำอย่างนั้นโดยไม่สนใจอะไร,การเลือกที่จะพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากส่งเสียง(เท่านั้น)

แบบนี้จะไหวหรือ.. กับการทำหน้าที่ส.ส.ในวันหน้าเพราะลีลาที่แสดงออกมาให้สังคมประจักษ์นั้น ใครบางคนที่ชำนาญเกมการเมืองมองว่า “ยามนี้อนค. ล้ำเส้นไปอักโข”

หากวันหนึ่ง การตัดสินของฝ่ายตุลาการที่จะวินิจฉัยคดีความของเสี่ยเอกและพรรคอนาคตใหม่ออกมา สมมติว่าไม่เป็นคุณกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะ “ฮ่องเต้ซินโดรม” จะออกอาการเยี่ยงใดและจะใช้โลกออนไลน์จุดชนวนระดมพลมาเคลื่อนไหวหรือไม่?

ทัศนะและการแสดงออกของ คีย์แมนชาวสีส้ม ที่ดำเนินมาหลายจังหวะเช่นนี้

ใครที่หนุนอนค.นั้นไม่ห้าม แต่ควรใช้วิจารณญาณไตร่ตรองด้วย และลองมองจังหวะของส.ส.อนค. ที่สวนแนวทางพรรคประกอบด้วยว่าทำไมจึงฝืน...เป็นเครื่องเคียง

โดย... ฉก.68